เมื่อออนไลน์ผนวก OmniChannel เปิดช่องทางรุก

เมื่อออนไลน์ผนวก OmniChannel เปิดช่องทางรุก

จากยอดขายเพียง 7.5 ล้านดอลลาร์ผ่านเว็บไซต์กลุ่มอาลีบาบาในวัน “Single Day” (หรือวันที่ 11 เดือน 11) เมื่อปี 2009

เวลาผ่านไป 10 ปียอดมูลค่าสินค้าในวัน Single Day ในปี 2018 ทะยานสูงถึง 30,800 ล้านดอลลาร์นับเป็นการสร้างสถิติใหม่ของยอดขายผ่านออนไลน์ที่มากที่สุดในโลก ไม่รวมถึงยอดขายของอีคอมเมิร์ซคู่แข่งรายสำคัญอย่าง JD.com ที่ขายสินค้าในช่วงเวลาเดียวกันอีกกว่า 23,000 ล้านดอลลาร์ 

การสร้างกระแสการขายออนไลน์ในวันเดียวกลายเป็นเทรนด์ฮิตที่กลุ่มค้าปลีกต่างผันมาใช้เพื่อเก็บยอดขายให้มากที่สุดก่อนจะถึงเทศกาลของขวัญในช่วงสิ้นปี แต่ที่น่าจับตามองคงเป็นการเปิดช่องทางการขายแบบต่อเนื่องทั้งออนไลน์และออฟไลน์ผ่านออมนิแชลแนล (OmniChannel) ที่ร้านค้าออนไลน์ต่างแทรกตัวเข้าใกล้ผู้บริโภคแบบสัมผัสจริงสินค้ายอดนิยมได้ในสโตร์

 

รุกทุกช่องทาง

ยอดขายในวัน Single Day ของกลุ่มอะลีบาบาโดยเฉพาะ tmall.com ปีนี้เทียบได้กับยอดขายทั้งไตรมาสของอเมซอนที่ 33,700 ล้านดอลลาร์ และมากกว่ายอดขายรวมในช่วงห้าวันของเทศกาลขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) และไซเบอร์มันเดย์ในอเมริกาปี 2017 ที่ 19,600 ล้านดอลลาร์ 

ถึงแม้ว่าอเมซอนจะได้จัดกิจกรรมการขายลักษณะเดียวกันขึ้นเรียกว่า “Prime Day” แต่ยอดขายของ Prime Day เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2018 อยู่ที่ 3,400 ล้านดอลลาร์ในเวลา 36 ชั่วโมง และนับเป็นเพียง 12% เมื่อเทียบกับอาลีบาบา โดยทั้งสองค่ายต่างเร่งผันตัวเปิดช่องทางขายออฟไลน์ไปยังสโตร์ที่อินทริเกรทเอาประสบการณ์การซื้อที่ดีเข้ากับข้อมูลความสนใจของลูกค้าผ่านนวัตกรรม OmniChannel เพื่อให้ครอบคลุมทั้งวงจรการจับจ่ายสินค้า

เพราะแม้ยอดขายออนไลน์ในจีนจะมีมูลค่าสูงมากแต่คิดเป็นเพียง 15% ของยอดค้าปลีกทั้งหมดที่มากกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ จึงเป็นโอกาสที่ค่ายใหญ่ออนไลน์ต่างเร่งขยายช่องทางขายผ่านออฟไลน์ เห็นได้จากการที่อาลีบาบานำกลยุทธ์ “New Retail Strategy” มาใช้ด้วยการเปิดสโตร์ที่ชื่อว่า “Hema” กว่า 65 สาขาที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีทันสมัยอย่าง Big Data และหุ่นยนต์ โดย Hema ยังทำหน้าที่เป็นศูนย์กระจายสินค้าสำหรับออร์เดอร์ออนไลน์ไปยังลูกค้าปลายทาง ลูกค้าที่อยู่ในระยะ 3 กิโลเมตรจะได้รับสินค้าถึงบ้านในเวลาเพียง 30 นาที และใช้เทคโนโลยี Big Data ในการจัดหาอาหารสดและสินค้าให้ตรงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้แม่นยำขึ้น 

อเมซอนซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำดิจิทัลในเวลานี้ได้เชื่อมเอา “Whole Foods Market กว่า 360 แห่งเข้าในระบบ โดยนำส่วนลดและบริการสำหรับ Prime Member มาให้บริการถึงสโตร์ และได้เปิดตัว “Amazon Go” สโตร์สุดล้ำด้วยนวัตกรรมไร้เงินสดมาเอาใจนักช๊อปในเมืองชิคาโก ซีแอตเทิลและซานฟรานซิสโก แถมยังเปิดสโตร์ทดลองที่เรียกว่า “Amazon 4-Star” ที่นำสินค้ายอดนิยมสี่ดาวจากเว็บไซต์มาจำหน่ายอีกด้วย

 

ต่อยอดและเตรียมพร้อม

เช่นเดียวกับอเมซอนที่ได้สร้างธุรกิจจากการให้บริการคลาวด์แพลตฟอร์มที่เรียกว่า “Amazon Web Services (AWS)” ที่ทำรายได้กว่า 6,100 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่แล้ว อาลีบาบาก็ได้เร่งลงทุนและขยายบริการคลาวด์แพลตฟอร์มให้กับธุรกิจในลักษณะ Infrastructure-as-a-Service (IaaS) เช่นกัน ถึงแม้ว่าอาลีบาบามีสัดส่วนการให้บริการในประเทศจีนถึง 48% และมีรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปี 2017 ที่ 968 ล้านดอลลาร์จนอาจมากกว่า 2,100 ล้านดอลลาร์ในปี 2018 บริษัทการ์ทเนอร์ประมาณว่าอาลีบาบาถือสัดส่วนเพียง 3% ในตลาดโลกขณะที่อเมซอนครองตลาดอยู่ถึง 44% 

การกระจายสินค้าถึง 1,000 ล้านออร์เดอร์จากการขายในวัน Single Day ให้ถึงมือลูกค้านับเป็นการบริหารจัดการโลจิสติกส์ที่ท้าทายของอาลีบาบาที่มอบให้บริษัทในเครือคือ Cainiao Logistics Network ดำเนินการโดยใช้พื้นที่ประมาณ 1,000,000 ตารางเมตร และจัดศูนย์รับและกระจายสินค้า 6 แห่งในยุโรป อเมริกาเหนือ ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี 

อาลีบาบาได้วางแผนการลงทุนกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์ในการเสริม Technical Backbone ให้กับระบบโลจิสติกส์ในอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อให้สามารถจัดส่งสินค้าภายในประเทศได้ใน 24 ชั่วโมงและต่างประเทศได้ใน 72 ชั่วโมง

 

รับหรือรุก

การซื้อสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซช่วยให้ผู้คนในเมืองที่ห่างไกลสามารถซื้อหาสินค้าได้สะดวก โดยเฉพาะช่วงวันพิเศษอย่าง Single Day ที่มีส่วนลดและราคาพิเศษมากมาย อีกทั้งแบรนด์ดังอย่างไนกี้ อาดิดาส และแอปเปิ้ลต่างสามารถทำยอดขายกว่า 14.3 ล้านเหรียญในเวลาเพียง 30 นาทีแรกที่เริ่มกิจกรรม จึงไม่น่าแปลกใจที่กระแสฮิตติดเทรนด์อย่าง Single Day กำลังแพร่ไปในทุกภูมิภาคทั่วโลก การอินทริเกรท OmniChannel เข้าเป็นส่วนหนึ่งของช่องทางการขายจึงเป็นกลยุทธ์ที่รุกค้าปลีกได้รุนแรง