จีนอเมริกา : มหายุทธ์ (1)

จีนอเมริกา : มหายุทธ์ (1)

ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอเมริกา คือปัจจัยหลักที่กำหนดทิศทางเศรษฐกิจโลก ผู้เขียนทำนายไว้ใน “ระกาไฟ” เมื่อ 24/2/2017 ว่า “...จีนอเมริกา

จะเผชิญหน้ากัน ถ้าไม่ใช่สงครามการค้าก็เป็นปัญหาในทะเลจีนใต้...” (http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/640622) และย้ำใน “ผลของคราส” เมื่อ 8/9/2017 ว่า “...เมื่อมองดวงเมืองจีน มันบอกถึงสงครามการค้าอย่างชัดเจน...” (http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/642448)

ใน “สงครามการค้า” เมื่อ 30/03/2018 ผู้เขียนยังทำนายว่า “...รูปดาวบอกถึงการเล่นเกมส์เสี่ยงที่มีเดิมพันสูง เพราะอังคารพลูโตคือการตอบโต้อย่างดุเดือดรุนแรง ยิ่งบีบฝ่ายตรงข้ามมากเท่าไร ยิ่งถูกตอบโต้แรงขึ้นเท่านั้น เสาร์คือความยืดเยื้อ ถ้าเรื่องราวลุกลาม รับรองว่าจบยากแน่นอน ความขัดแย้งของทั้งคู่ยังกินเวลาอีกช่วงใหญ่ แต่โอกาสที่มันจะระเบิดออกอย่างรุนแรงอยู่ในปีนี้...” (http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/644284)

อเมริกา-จีน เปิดศึกกัน 3 ยกแล้ว ยกแรก 6 กรกฎาคม อเมริกาเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้ามูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์ จีนตอบโต้ด้วยภาษีและมูลค่าที่เท่ากัน ยกสอง 23 สิงหาคม ทั้งคู่เก็บภาษี 25% อีก 16,000 ล้าน ยกสาม 24 กันยายน อเมริกาเก็บภาษี 10% (เพิ่มเป็น 25% ในปีหน้า) กับสินค้าอีก 200,000 ล้าน ทรัมป์ยังขู่อีกว่า ถ้าจีนตอบโต้ จะขึ้นภาษีกับสินค้าอีกชุดใหญ่ทันที จีนกลัวไหม? จีนโต้กลับด้วยภาษี 5 และ 10% กับสินค้า 60,000 ล้านในวันเดียวกัน ทรัมป์ไม่กล้าขึ้นภาษี แต่กล่าวหาว่าจีนก้าวก่ายการเลือกตั้งกลางเทอม ทำเหมือนกัน (และเป็นฝ่ายเริ่มก่อน) แต่ข้าถูกเอ็งผิด ทรัมป์นี่แมนจริงๆ

ยอดสินค้านำเข้าจากจีนเหลืออีก 267,000 ล้าน (เทียบจากปีก่อน) ขณะที่ยอดนำเข้าจากอเมริกาเหลือแค่ 32,000 ล้าน ทรัมป์จึงเชื่อว่า ถ้าขึ้นภาษีต่อไป จีนต้องยอมแพ้แน่ แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้น จีนยังมีมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีอีกมากที่นำมาใช้ได้ เช่น การควบคุมคุณภาพ จำกัดการลงทุน เพิ่มกฎระเบียบ หยุดซื้อ (หรือเทขาย) พันธบัตรอเมริกา ฯลฯ

แทนที่จะปิดห้องเจรจากัน ทรัมป์กลับข่มขู่ให้ดังไปทั้งโลก จีนเป็นชาติมหาอำนาจอันดับ 2 จะยอมได้หรือ ขนาดชาติเล็กอย่างเกาหลีเหนือ และเด็กหนุ่มอย่างคิมจองอึนยังไม่ยอมก้มหัวให้กับทรัมป์ แล้วยักษ์ใหญ่อย่างจีนจะยอมหรือ? ถ้ายอม อำนาจอิทธิพลของจีนบนเวทีโลกก็ไม่เหลือ ต่อไปคงไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ แต่รวมไปถึงการเมืองการทหาร เช่น ทะเลจีนใต้ ไต้หวัน ฯลฯ กลยุทธ์ของทรัมป์ทำให้จีนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสู้ตาย มันไม่มีทางเป็น Win – Lose Situation แต่ต้องเป็น Lose – Lose เท่านั้น ศึกนี้ต้องเสียหายกันทั้ง 2 ฝ่าย อยู่ที่ใครจะอึดกว่ากัน

จีนอเมริกา : มหายุทธ์ (1)

ในมุมโหราศาสตร์ สัญญาณอันตรายเกิดขึ้นต่อเนื่อง จุดสำคัญคือดวงชะตาทรัมป์และ Great American Eclipse เมื่อ 21 สิงหาคม 2017 ดวงเมืองจีนและอเมริกาก็ซ่อนปัญหาใหญ่อยู่ ผู้เขียนเตือนล่วงหน้าเป็นปี แต่พวกโลกสวยกลับมองว่าเล็กน้อย แค่ทรัมป์หาเสียงกลางเทอม บัดนี้ความจริงปรากฏแล้ว สถานการณ์ร้ายแรงมาก แจ็ค หม่าแห่งอาลีบาบาคาดว่า ผลกระทบจากสงครามการค้าครั้งนี้กินเวลา 15 – 20 ปีและส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั้งโลก

จะเกิดอะไรต่อไป? นี่คือคำถามที่ทุกคนต้องการคำตอบ เราสามารถแยกทำนายได้จากดวงเมืองทั้งคู่ ซึ่งแสดงถึงเจตจำนงค์ทางการเมืองและสถานการณ์ของแต่ละฝ่าย แต่ยังมีอีกวิธีที่ทำให้เห็น “ภาพรวม” ทั้งหมด นั่นคือทำนายจากดวงกาลชะตาที่ความสัมพันธ์อเมริกาจีนถูกสถาปนาขึ้นมา เมื่อนำผลลัพธ์จากทั้ง 2 วิธีสังเคราะห์เข้าด้วยกัน เราจะได้คำตอบที่สมบูรณ์ที่สุด

หลังสนธิสัญญาปารีส 1 ปี อเมริกา (ที่ยังไม่มีรัฐบาลกลาง) พยายามส่งกงศุลมาที่จีน แต่ราชวงศ์ชิงปฏิเสธ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับต่างชาติเปลี่ยนไป หลังจากจีนพ่ายแพ้สงครามฝิ่นครั้งแรก 4 กันยายน 1839 - 29 สิงหาคม 1842 และต้องทำสนธิสัญญานานกิงกับอังกฤษ  จีนถูกบังคับให้เปิดเมืองท่า 5 แห่ง ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ กวางโจว หนิงโป ฟูโจว เซียะเหมิน เพื่อรับส่งสินค้า ให้สิทธิพิเศษทางการค้า และให้สิทธิสภาพนอกอาณาเขตแก่อังกฤษ สัญญาไม่เป็นธรรมนี้กลายเป็นต้นแบบแก่ชาติอื่น อเมริกาทำสนธิสัญญาวางเกียกับจีนเมื่อ 3 กรกฎาคม 1844 ที่วัดเจ้าแม่กวนอิมในมาเก๊า

การปฏิวัติซินไฮ่เกิดขึ้น 10 ตุลาคม 1911 มันนำไปสู่การสิ้นสุดอำนาจของราชวงศ์ชิง 12 กุมภาพันธ์ 1912 ซุนยัดเซ็นเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐจีน แต่แล้วจีนก็ตกอยู่ในวังวนของสงครามแย่งอำนาจระหว่างขุนศึก จนกระทั่งรวมเป็นหนึ่งเดียวในปี 1928 ภายใต้พรรคกั๋วหมินตั๋งของเจียงไคเช็ค อเมริกาสนับสนุนรัฐบาลนี้ เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดปี 1945 รัฐบาลเจียงและพรรคคอมมิวนิสต์ของเหมาเจ๋อตงเปิดศึกกัน พรรคคอมมิวนิสต์ชนะ เจียงไคเช็คหนีไปตั้งรัฐบาลใหม่ที่ไต้หวัน อเมริกายังคงความสัมพันธ์กับไต้หวันและปฏิเสธจีนแผ่นดินใหญ่

ชัยชนะของพรรคคอมมิวนิสต์จีนทำให้ดุลอำนาจของสงครามเย็นเปลี่ยนไป สหภาพโซเวียตแข็งแกร่งขึ้น ปี 1956 หลังสงครามเกาหลี จีนแตกคอกับโซเวียตและต้องการพันธมิตรใหม่มาถ่วงดุล อเมริกาช็อคโลกด้วยกลยุทธ์ 3 ก๊ก (เล่าปี่ผนึกซุนกวนเพื่อต้านโจโฉ) โดยฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจีน บีบให้โซเวียตเข้ามาเจรจากันใหม่ วัตถุประสงค์อีกข้อคือทำให้จีนโซเวียตเลิกหนุนเวียดนามเหนือในสงครามเวียดนามที่ตนเองกำลังติดหล่มอยู่ ยิงกระสุนนัดเดียวได้นก 3 ตัว

ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันเยือนจีน 21 – 28 กุมภาพันธ์ 1972 พบประธานเหมาและนายกฯโจวเอินไหล ยุติความบาดหมางเกือบ 25 ปี จุดสูงสุดของทริปนี้คือ “แถลงการณ์เซี่ยงไฮ้” ที่กล่าวถึงการเริ่มความสัมพันธ์กันใหม่ (เปิดสัมพันธ์การฑูตอย่างเป็นทางการ 1 มกราคม 1979) การยอมรับนโยบายจีนเดียวและไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน เปิดกว้างทางการค้าและขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ

นี่คือจุดกำเนิดความสัมพันธ์ จีน - อเมริกา ยุคปัจจุบัน ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมแถลงการณ์วันที่ 27 เวลา 17:00 น. ที่เซี่ยงไฮ้ ผูกดวงได้ลัคนาที่ 4:38 องศาสิงห์ กุมดาวฤกษ์ Regulus สนิทพอดี

ความสัมพันธ์อันยิ่งใหญ่ของ 2 ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกเกิดขึ้นแล้ว