ฟ้องเงินทอนวัดเฟส3

ทั้งวัดสระเกศ วัดสามพระยาวรวิหาร วัดสัมพันธววงศารามวรวิหาร ตกเป็นผู้ต้องหา รวมถึงพระและวัดต่างจังหวัดอีกหลายแห่ง ตอนนี้สอบไปถึง เฟส 4 แล้ว

ความคืบหน้าคดี หลังจาก 30 พ.ค.2561 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งสำนวนคดีทุจริตเงินทอนวัด เฟส 3 กลับมาให้กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และกองปราบปราม บก.ป ทำคดีต่อ

ในส่วน 3 วัดดังในกรุงเทพฯ กองปราบ ยังสอบสวนไม่เสร็จ แต่ที่คืบหน้า คือ บก.ปปป. ได้ปรับปรุงข้อมูลการกระทำผิดใหม่ โดยพบวัดที่กระทำความผิดเพิ่มเป็น 9 วัด จำนวน 5 คดี และทั้ง 5 คดีของ บก.ปปป.จะส่งอัยการได้ทั้งหมด ในวันพรุ่งนี้

วันพรุ่งนี้ (26 ก.ย.) อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต นัดพบกับ พล.ต.ต.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบช.ก. หัวหน้าพนักงานสอบสวนทั้ง 5 สำนวน พร้อมด้วย พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ รอง ผบก.ปปป.

คดีทุจริตเงินทอนวัด เฟส 3 ที่รับเรื่องจาก ป.ป.ช. กลับมาดำเนินการทั้ง 10 วัด กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ถือสำนวน 3 วัดของกรุงเทพฯ อยู่ระหว่างดำเนินการ

ส่วนที่ บก.ปปป. รับผิดชอบสำนวน 7 วัด ของต่างจังหวัด และรวม 2 วัดของ จ.นครศรีธรรมราช ที่พบการทุจริตเพิ่มเติม จึงรวมเป็น 9 วัด ซึ่งพนักงานสอบสวนได้พิจารณารวมกรรมเดียวกันของกลุ่มวัด สรุปเป็น 5 คดี ดังนี้

คดีที่ 1 ทุจริตงบพระปริยัติธรรม จำนวน 3 วัด ของจ.นนทบุรี คดีที่ 2 งบเผยแผ่พระพุทธศาสนา จำนวน 3 วัด ของนนทบุรี คดีที่ 3 งบพระปริยัติธรรม วัดศรีนคราราม จ.อุดรธานี คดีที่ 4 งบเผยแผ่พระพุทธศาสนา วัดต้นธงชัย จ.ลำปาง และคดีที่ 5 งบบูรณะปฏิสังขรณ์วัดและพัฒนาวัด จำนวน 4 วัด ใน จ.นครศรีธรรมราช

เมื่อส่งสำนวนอัยการ แล้ว บก.ปปป. ยังต้องลุยทำคดีเงินทอนวัด เฟส 4 ปัจจุบัน พบวัดที่เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ โอนเงินงบประมาณให้และเรียกเงินทอนคืนกว่า 44 วัด (ไม่มีวัด ของกรุงเทพฯ) มูลค่าความเสียหาย ประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน สามารถสรุปจบเฟส 4 และนำเรียน ผอ.พศ. ตรวจสอบพิจารณาเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษต่อไป