“สมชาย” นำเพื่อไทย

ก็น่าจะคลายล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม เพื่อเตรียมการเลือกตั้ง  ซึ่งก็เป็นจังหวะที่ กฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ทั้ัง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. จะโปรดเกล้าฯ ลงมาตามกรอบเวลาในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้

ล่าสุดคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ก็ขยับเรื่องแบ่งเขตเลือกตั้งกันแล้ว

ขณะที่ความจำเป็นของบรรดาพรรคการเมือง ที่ต้องเร่งดำเนินการเช่นกัน คือ เปิดรับสมาชิกพรรค แก้ไขข้อบังคับพรรค ที่สำคัญคือปรับโครงสร้างพรรค เลือกกรรมการบริหารใหม่

ตำแหน่งหัวหน้าพรรค หรือผู้นำพรรค กำลังถูกจับจ้อง เพราะถือเป็นจุดขายของแต่ละพรรค ที่จะต้องชูขึ้นเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี

ปฏิเสธไม่ได้ว่า “พรรคเพื่อไทย” ในวันที่ปราศจาก “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อาจต้องลุ้นกันว่า กระแสพรรคจะเปลี่ยนไปอย่างไร 

วงในเพื่ีอไทย ชี้ว่าศึกเลือกตั้งเที่ยวนี้ เพื่อไทยจำเป็นต้องมี “ผู้นำพรรค”ที่เป็นสายตรง เชื่อมโยงกับเจ้าของพรรคอย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” 

แม้จะมีคีย์แมน หลายคนในพรรค แอบคาดหวังจะได้รับตำแหน่ง

ทั้ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่โชว์บทบาทในพรรคมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะการระดมทีมตรวจสอบการทำงาน คสช.

หรือแม้แต่ พิชัย นริพทะพันธุ์ ทีมเศรษฐกิจของพรรค และอดีต รมว.พลังงาน ที่แสดงบทบาทปะฉะดะ คสช.ว่าด้วยเรื่องเศรษฐกิจอยู่เป็นระยะ 

ยังไม่นับแกนนำอีกหลายคนที่ซุ่มเงียบ อย่าง โภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา ก็ติดโผผู้นำเพื่อไทย

แต่มาถึงนาทีนี้ สมาชิกทั้งพรรคก็น่าจะเห็นสัญญาณแล้วว่า หวยจะไปออกที่ใคร 

วงในเพื่อไทย รับรู้กันแล้วว่า “สมชาย วงศ์สวัสดิ์”  คือ ตัวเลือกนั้น และเหมาะที่สุดในสถานการณ์นี้ 

สมชาย อดีตนายกฯนอกทำเนียบฯ ในฐานะสามี “เยาวภา” เคยรักษาการหัวหน้าพรรคพลังประชาชนมาแล้ว ถือเห็นสายตรง “ตระกูลชินวัตร” ที่เหมาะทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ ที่สำคัญไม่มีหัวหน้ามุ้งไหนกล้าเลื่อยเก้าอี้ 

และไม่ต้องเผชิญคำถามถึงความไว้วางใจจากทักษิณ ชินวัตร  

ฉะนั้นข่าวลือ ข่าวลวง ข่าวปล่อย สารพัดชื่อ ที่ออกมา ฟันธงว่า แค่ “การมุ้ง” เล็กๆ ในพรรค เพราะชื่อ “สมชาย” นอนมาตั้งแต่ต้น

 

โดย... นิภาวรรณ