ธาตุแท้ “ทุนไทย” ไม่มีสี-ไม่มีขั้ว

ธาตุแท้ “ทุนไทย”  ไม่มีสี-ไม่มีขั้ว

มีคนโพสต์ในเฟซบุ๊คว่า “ธรรมชาติของกลุ่มนายทุนไทย มักจะรักษาระยะห่างจากการเมือง หรือไม่ถ้าจำเป็นต้องสนับสนุนนักการเมือง

มักจะเป็นการสนับสนุนอย่างไม่เฉพาะเจาะจง ด้านหนึ่งก็เป็นการรักษาความเสี่ยง ถ้าเกิดมีเปลี่ยนขั้วทางการเมือง”

ประโยคข้างต้น มีทั้งจริง และไม่จริง หากศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองในระยะใกล้นี้ บรรดา “เจ้าสัว” ที่ครองความมั่งคั่งใน พ.ศ.นี้ ล้วนอาศัย “การเมือง” สร้างเนื้อสร้างตัวทั้งสิ้น

กว่าครึ่งศตวรรษที่แล้ว ทุนธนาคาร ทุนโรงเหล้า ทุนโรงน้ำตาล ทุนโรงสีข้าว ต่างเติบโตบนเนื้อดินเผด็จการทหาร หรือพรรคข้าราชการ ที่ทรงพลังที่สุดในการเมืองไทย

หลัง 14 ตุลา นักวิชาการไทยบอกเป็นการเปิดประตู “ทุนชาติ” เข้าสู่ถนนการเมือง แต่ผู้ก่อตั้งและผู้สนับสนุนพรรคการเมืองใหญ่ๆ ก็ยังเป็นทุนใหญ่ ผู้งอกงามจากเนื้อดินเผด็จการทหาร

ปี 2540 รัฐธรรมนูญฉบับธงเขียว เปิดพื้นที่ให้นายทุนไทยได้มีส่วนร่วมโดยตรง เช่นการบริจาคเงินสนับสนุนพรรคการเมือง หรือระบบบัญชีรายชื่อที่เปิดช่องให้มีผู้สนับสนุนพรรคการเมืองได้อย่างเปิดเผย

ความล้มเหลวในการบริหารประเทศของรัฐบาลชวน หลีกภัย ระหว่างปี 2541-2543 ส่งผลให้ “ทุนสัมปทาน” และ “ทุนชาติ” หลั่งไหลมาแทงหวยกับพรรคไทยรักไทยของ ทักษิณ ชินวัตร

เมื่อทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ได้ตอบแทนนายทุนพรรค แจกเก้าอี้รัฐมนตรีให้ครบทุกกลุ่ม โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป

มีข้อสังเกต หลังรัฐประหาร 2549 และ 2557 กลุ่มทุนไทยที่เคยเกลือกลั้วกับการเมืองไทยมาทุกระบอบ ก็ยังมีหุ้นส่วนในอำนาจทุกครั้ง

จุดเด่นของทุนไทยคือ ลื่นไหลไปตามสถานการณ์การเมือง ไม่ว่าระบอบประชาธิปไตย หรือระบอบเผด็จการ ทุนไทยได้แชร์อำนาจทุกครั้งไป

การเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีขึ้นในปีหน้า กลุ่มทุนหน้าเดิมๆ ก็คงกระจายการสนับสนุนให้พรรคการเมือง ทุกสีทุกขั้ว ไม่มีหรอก ทุนก้าวหน้าหรือทุนล้าหลัง นั่นมันเป็นวาทกรรมหลอกพวกไร้เดียงสา

โต๊ะกินแชร์กลุ่มทุนไทย ได้ขานชื่อนายกรัฐมนตรีไทย คนต่อไปเรียบร้อยแล้ว