ธรรมมาลัย .. แด่ท่านเอกอัครราชทูตอินเดีย !!

ธรรมมาลัย .. แด่ท่านเอกอัครราชทูตอินเดีย !!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ในวิถีโลกที่เคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไปมา

 จนหาความมีสาระอะไรมิได้เลย... การเจริญสติปัญญาเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่าอื่นใด เพื่อการสร้างภูมิต้านทานในจิตใจให้มีคุณภาพ พอที่จะรู้เท่ารู้ทันในอสาระของโลก ที่ถูกสร้างขึ้น ปรุงแต่งขึ้น ทุกขณะเวลา ด้วยจิตที่เหลวไหล..

จึงให้นึกถึงพุทธภาษิตที่ว่า อย่าประพฤติสิ่งเลวทราม อย่าอยู่ด้วยความประมาท อย่ายึดถือความเห็นผิด และอย่าทำตนเป็นคนรกโลก

จริงๆ แล้ว การรู้ธรรม .. เพื่อศึกษาปฏิบัติตามคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา เพื่อยกระดับจิตให้สูง ไม่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของโลกธรรม จนสูญเสียคุณค่าสัตว์ประเสริฐ ไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไร .. หากรู้จักใช้สติปัญญาพิจารณาอย่างถูกธรรมวิธี แต่เพราะสัตว์เราไม่ใส่ใจที่จะเรียนรู้ ด้วยหมกมุ่นสนใจอยู่แต่การรับรู้ในสิ่งที่ชอบใจ .. เพลินใจ จิตจึงไหลเรื่อยไปเหมือนสายน้ำที่เต็มไปด้วยเศษสวะ

ชีวิต .. สายน้ำ .. วันเวลา .. สะท้อนให้เห็นความจริงแท้ของอนิจจัง.. แต่แทนที่คนเราจะหยิบยกมาค้นหาสัจธรรม กลับมานึกนั่งห่วงหาอาลัย จนจิตมืดมนอนธการ ด้วยการพบกับสิ่งที่ไม่รัก .. และพลัดพรากจากสิ่งที่รัก.. จึงนำไปสู่การคิดนึกปรุงแต่ง จนจิตซัดซ่านไปในกระแสอารมณ์ เพื่อแสวงหาสิ่งที่ถูกใจชอบใจมาตอบสนองความต้องการ... จิตหลงจึงไม่เคยหยุดพักให้บ้าๆ บอๆ ไปตามประสา.. นานาสรรพโรคาพยาธิจึงผุดปรากฏเป็นบำเหน็จรางวัลความบ้า ให้ลิ้มรสความทุกข์เล่นเป็นโบนัสชีวิต เพื่อแสดงความเป็นสัตว์ทุกข์ในปัจจุบันธรรม .. โดยไม่ต้องไปรอชาติหน้าชาติไหนๆ

ดังนั้นการใช้ชีวิตของชาวพุทธเราจึงควรมีสติปัญญา ประกอบความเพียรชอบ ตามหลักสติปัฏฐานในพระพุทธศาสนา เพื่อละออกมาจากความรัก ความชังในโลก ด้วยความรู้เข้าใจถึงความเป็นจริงว่า.. โลกนี้พร่องอยู่เป็นนิตย์ .. โลกนี้อันชรานำไปไม่ยั่งยืน .. โลกนี้ไม่มีผู้ต้านทาน ไม่เป็นใหญ่เฉพาะตน และโลกนี้ไม่อะไรเป็นของของตน จำต้องสละคืน เป็นเรื่องประเสริฐสุดจริงๆ...

เมื่อ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๑ อาตมารับนิมนต์จากท่านทูต Bhagwant Singh Bishnoi เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย ที่จะเดินทางกลับประเทศ ด้วยครบวาระเกษียณอายุ จึงได้ไปรับภัตตาหารและสนทนาธรรม เพื่อเป็นมงคลธรรมแด่ชีวิตของท่านและภรรยา ตลอดจนเจ้าหน้าที่สถานทูตอินเดียประจำประเทศไทยทั้งหมด ที่สถานทูตอินเดีย สุขุมวิท ซอย ๒๓.. ด้วยความสัมพันธภาพที่ดียิ่งระหว่างอาตมาและท่านทูต ตลอดจนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานทูตอินเดียฯ ทุกท่านมายาวนาน จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งต่อการรับนิมนต์ในครั้งนี้ ที่จะได้พูดคุยในเรื่องการประสานงานกันต่อไป แม้ท่านทูตจะจบวาระหน้าที่ไปแล้ว

การทำงานในการเผยแผ่หรือฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในชมพูทวีป ที่สำเร็จหลายประการ เพราะได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากท่านเอกอัครราชทูตอินเดีย ในหลายสมัย ส่งสืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะความมีน้ำใจของท่านทูตบิสนอยที่สนับสนุนเต็มที่ ทำให้การยกอุโบสถผูกพัทธสีมา ณ ลานพระโอวาทปาติโมกข์ เวฬุวันมหาวิหาร สำเร็จไปได้ด้วยดี เมื่อ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา คณะสงฆ์สามารถกระทำสังฆกรรมประกอบพิธีการบรรพชา-อุปสมบทตามพระธรรมวินัยได้ และในเรื่องลึกๆ อีกหลายเรื่องที่สำคัญๆ... จึงได้มอบธรรมมาลัยคล้องใจท่านทูตและภรรยา แทนคำว่า ขอบคุณในน้ำใจที่ท่านมีให้ตลอดมาถึงเวลาสุดท้ายของหน้าที่ก่อนเกษียณ.. ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยพึงอภิบาลรักษาท่านและครอบครัวให้ประสบแต่ความสงบสุขในบั้นปลายชีวิตด้วยเทอญ

เจริญพร

อารยวังโส ภิกขุ