องค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนาฯ

องค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนาฯ

สภาวการณ์กวาดล้างพระสงฆ์ผู้ประพฤติผิดพระธรรมวินัย ผิดกฎหมาย ได้รับการตรวจสอบอย่างรอบด้าน ส่วนกฎหมายปกครองสงฆ์ ก็กำลังยกเครื่องครั้งใหญ่

เราจึงเห็นพระเถรานุเถระ ระดับเจ้าอาวาสวัดในกรุงเทพฯ เจ้าคณะภาค กรรมการมหาเถระสมาคม (มส.) โดนจับกุม จับสึกเข้าไปใช้ชีวิตในเรือนจำหลายคน พระบางรูปหนีความผิดออกไปนอกประเทศ

ผมยังไม่มั่นใจว่า ถ้าไม่ใช่ยุครัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แต่เป็นรัฐบาลเลือกตั้ง จะทำได้อย่างนี้ไหม?

เมื่อสงฆ์โดนจับ โดนดำเนินคดีอาญา เราได้เห็นองค์กรพิทักษ์พระสงฆ์ พิทักษ์พระพุทธศาสนา ออกมาต่อต้าน หลายองค์กร แต่จะโฟกัสไปที่ องค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ใช้ชื่อย่อ อพช. มี พระมหาบุญถึง ผลปุญโญ” เป็นประธาน

พระมหาบุญถึง” มีฉายา ผลปุญโญ อายุ 56 ปี พรรษา 32 พรรษา วัดวังหินเพลิง ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร 

บทบาทของ พระมหาบุญถึง ก่อนจะมาเคลื่อนไหวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 มาตรา 29,30 ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 27, 28 หรือไม่ กรณีการให้พระที่ถูกกล่าวหากระทำผิด จับสึกก่อนมีคำพิพากษา ละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น น่าสนใจว่า เป็นการส่อให้เกิดความขัดแย้งทางศาสนา

31 ธ.ค.2558 เฟซบุ๊ค อพช. โพสต์ว่า "สวดมนต์ข้ามปีไม่มีประโยชน์ รัฐบาลจึงตัดงบอุดหนุน แต่ กทม.ประดับไฟเป็นรูปมัสยิดงบ 39,000,000 บาทที่หน้าลานคนเมืองมีประโยชน์ ?” แต่ก็มีคนบางส่วนที่มองว่า เหมือนซุ้มธรรมดา ดูแล้วคล้ายศาลาทั่วไป 

ต่อมา 10 ก.พ.2559 พระมหาบุญถึง นำสำนักสงฆ์คลองแอนด์สามสี่ธัมมิการาม ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ให้การบัญญัติพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ

การเคลื่อนไหว ของ อพช. ยังมีชื่อบุคคลอื่นๆ เช่น  ม.ล.กานตพงศ์ วรวุฒิและ ประสิทธิ์ วิชัย

การปกป้องสงฆ์ด้วยศรัทธาไม่อาจห้ามได้ แต่การปกป้องต้องเลือกด้วยว่า สงฆ์รูปนั้นมีดีเพียงพอให้ต้องปกป้องหรือไม่