ปรับรอบทิศ คิดรอบด้าน

ปรับรอบทิศ คิดรอบด้าน

ต้องมองให้ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตอันใกล้ และตัวเราจะอยู่ที่จุดใดในภายภาคหน้า เพราะการเปลี่ยนแปลงต้องเกิดขึ้นตลอดเวลา

ประเด็นที่ทิ้งท้ายไว้ใน “ไอทีไร้พรมแดน” ฉบับที่แล้วคือ บทบาทการเป็นโรงงานโลกของจีนที่น่าจะยังหาคนเทียบได้ยาก เพราะแรงงานถูกไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ดึงดูดให้นักลงทุนหันมาสร้างโรงงานในประเทศต่างๆ อีกต่อไป แต่เป็นยุคที่ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์และความก้าวหน้าด้านเอไอมาเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันอย่างเต็มพิกัด

การใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยเช่นนี้ยกระดับให้คุณภาพการผลิตของจีนเทียบชั้นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกได้ภายในไม่กี่ปี เพราะความถูกต้องแม่นยำในการผลิตด้วยหุ่นยนต์ที่เหนือกว่าการใช้มนุษย์มาก และยังสามารถทำงานได้โดยไม่มีหยุดพัก ไม่มีวันหยุด และมีความสม่ำเสมอในการทำงานสูงกว่ามนุษย์หลายเท่า

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ในโรงงานอุตสาหกรรมทำให้มีบริษัทต่างๆ กระโจนเข้าสู่ธุรกิจนี้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะบริษัทด้านไอทีที่มีพื้นฐานด้านเครื่องจักรกลขนาดเล็กเช่น “เอปสัน” ก็ขยายธุรกิจเข้าสู่การผลิตหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรมขนาดเล็กเช่นเดียวกัน

เพราะในอนาคต การใช้หุ่นยนต์เพื่อการผลิตจะไม่ได้แพร่หลายเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมหนักเช่นรถยนต์หรือเครื่องจักรกลขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ธุรกิจขนาดกลางหรือเล็กก็สามารถใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์รุ่นใหม่ที่ราคาถูกลงมากเพื่อยกระดับคุณภาพในการผลิตได้เช่นกัน

แนวโน้มการผลิตสินค้าในอนาคตจึงมีแนวโน้มที่จะใช้หุ่นยนต์เพื่อขยายตลาดไปสู่ประเทศต่างๆ ได้ง่ายขึ้นเพราะมีคุณภาพเท่าเทียมกันหมดโดยไม่ขึ้นกับทักษะของแรงงานที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ และนอกจากนี้ยังเอื้อให้ผลิตสินค้าที่มีลักษณะพิเศษแตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาคโดยที่คุณภาพในการผลิตยังคงเดิมอยู่ได้

สินค้าที่ผลิตในอเมริกาก็ผลิตมาเพื่อคนอเมริกัน เช่นเดียวกับสินค้าที่ผลิตในอินเดียก็เหมาะกับชาวอินเดีย ส่วนบ้านเราอาจใช้คำว่า “ผลิตในกลุ่มประเทศอาเซียน” ซึ่งทำให้ขยายตลาดไปได้ทั่วภูมิภาคอาเซียนซึ่งมีขนาดใหญ่ทัดเทียมกับตลาดในหลายๆ ภูมิภาค

เมื่อฐานการผลิตกระจายตัวไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ได้โดยคุณภาพการผลิตคงเดิม ที่ต่างไปจึงมีเพียงรายละเอียดปลีกย่อยที่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละประเทศ ต้นทุนการขนส่งข้ามประเทศที่มีค่าใช้จ่ายสูงจึงสามารถปรับลดลงมาได้มาก

เทคโนโลยีการผลิตอันก้าวหน้า เมื่อรวมกับบทวิเคราะห์จากแมคคินซีที่สรุปแนวโน้มสำคัญจากที่ประชุม World Economic Forum เมื่อต้นปีจึงเป็นแนวโน้มบวกที่ทำให้นักธุรกิจและนักลงทุนมีความมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจโลกปีนี้ซึ่งเชื่อว่ามีพื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้นจากหลายปัจจัย

ปัจจัยสำคัญคือนโยบายปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์นั้นไม่ได้ส่งผลดีแค่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่เป็นการขยายโอกาสการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับอีกหลายๆ ประเทศทั่วโลก และเมื่ออเมริกาประกาศว่าจะทบทวนความร่วมมือเอเชียแฟซิฟิกหรือ TPP อีกครั้งก็น่าจะสร้างความหวังให้กับนักลงทุนได้อีกมาก แนวคิด “อเมริกาต้องมาก่อน” ที่ทรัมป์ใช้หาเสียงมาโดยตลอดจึงมีข้อดีอยู่พอสมควร

แนวโน้มที่เกิดขึ้นรอบตัวทั้งในแง่เศรษฐกิจมหภาค ไปจนถึงด้านเศรษฐกิจและสังคม เช่นภาวะสังคมผู้สูงวัยที่เกิดขึ้นในหลายประเทศล้วนส่งผลกับการทำธุรกิจในระยะยาวด้วยกันทั้งนั้น เมื่อผนวกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เข้ามาเปลี่ยนโลกอย่างเช่น เอไอ, บิ๊กดาต้า, คลาวด์คอมพิวติ้ง, บล็อกเชนทำให้เราต้องเร่งปรับตัวและเร่งคิดริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับทิศทางในอนาคตเหล่านี้

ต้องมองให้ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตอันใกล้ และตัวเราจะอยู่ที่จุดใดในภายภาคหน้า เพราะการเปลี่ยนแปลงต้องเกิดขึ้นตลอดเวลา การเรียนรู้สิ่งใหม่จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด ขณะเดียวกันต้องมีโรดแมปที่จะก้าวไปสู่อนาคตนั้นได้ด้วย

เทศกาลสำคัญของไทยที่กำลังจะมาถึงในสัปดาห์นี้จึงไม่ขออะไรมากมายนอกจากให้ผู้อ่านทุกท่านเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับทุกสถานการณ์เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่ต้องการได้ตลอดไป ขอความสุขความสวัสดีจงเกิดกับทุกท่านในวันสงกรานต์นี้นะครับ