‘ยิงเสือดำ’จ่าย3ล้าน?

สำนวนที่ตำรวจทำไปส่งอัยการทองผาภูมิ นั้น สมบูรณ์ 99%

ทว่า 1% ที่เหลือ อัยการ สมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 เห็นว่า “ควรสอบสวนเพิ่มเติม”

“...อัยการร้องขอเพิ่มคือพฤติการณ์เกี่ยวกับการเข้าไปในพื้นที่ห้ามล่าสัตว์ป่าที่ทำให้เสียหายต่อระบบนิเวศ ซึ่งเกี่ยวกับคดีแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายกับนายเปรมชัยและพวก ซึ่งสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าได้ประเมินมูลค่าความเสียหายในอัตราขั้นต่ำ 3 ล้านบาท...” พล.ต.อ.ศรีวราห์ พูดหลังสอบปากคำ‘เปรมชัย’ ;“เปรมชัย”พร้อมพวก เซ็นชื่อรับทราบ พฤติการณ์ที่นำไปสู่ความเสียหายทางระบบนิเวศ – รอง ผบ.ตร. “ศรีวราห์”ระบุสอบเพิ่มในประเด็นที่ “อัยการ” ร้อง ความผิดทางแพ่ง,http://www.fm91bkk.com, 21 มีนาคม 2561

ผมลองถามพนักงานสอบสวน ก็ได้ความกระจ่าง ว่า คดีความผิดที่เกิดขึ้นในอุทยานแห่งชาติ จะมีความผิดทางแพ่ง พ่วงมาอยู่แล้ว แต่สำหรับความเสียหายที่เกิดจากการ “ยิงเสือดำ” แล้วฟ้องร้องทางแพ่ง คดีนี้ถือว่าเป็นคดีแรกๆ ซึ่งจะต้องพิสูจน์ความเสียหาย ในเชิงระบบนิเวศ ต่อการสูญเสียเสือดำ 1 ตัว การตั้งเต็นท์ของเปรมชัย การก่อไฟย่างขาเสือดำ หรือต้มซุปหางเสือดำ ได้ทำความเสียหายแก่ป่าต้นน้ำ อย่างไร

ผมลองถามฝ่ายกรมป่าไม้ ก็ได้ความว่า ปกติแล้ว การฟ้องแพ่ง จะฟ้องหลังจากคดีอาญาเสร็จสิ้น โดยมีหลักเกณฑ์คำนวณค่าความเสียหายในพื้นที่จากลักษณะการกระทำผิด เช่น การเผาป่า ถางป่า ทำลายต้นไม้ กรณีป่าต้นน้ำ ปกติค่าเฉลี่ยความเสียหาย 100,000 บาท/ไร่ ถ้าเป็นป่าชายหาด ป่าชนิดอื่นๆ ความเสียหายจะลดหลั่นลงมา ยกตัวอย่างการบุกรุกป่าที่จ.เลย 6,000 ไร่ ของบริษัทซีพีเค มีนายเปรมชัย ร่วมถือหุ้น นั้น ความเสียหายทางแพ่ง 600 ล้านบาท ก็มาจากการคิดสูตรคำนวณนี้

หรือว่า ‘เสือดำจะไม่ตายฟรี’ เพราะมันมีค่าตัวถึง 3 ล้านบาท