ด้วยรักจากบอส

ด้วยรักจากบอส

ในครั้งนี้จะขอเชิญชวนให้บอสทั้งหลายสื่อความรักความห่วงใยให้ทางฝั่งลูกน้องบ้าง

เพราะครั้งก่อนดิฉันชวนคุยถึงเรื่องว่ามีวิธีการอะไรบ้างที่ลูกน้องสามารถสื่อถึงบอสได้ว่าเขามีความรักและปรารถนาดีกับบอสไปแล้ว เพื่อว่าทั้งสองฝ่ายจะมีความรู้สึกดีๆมอบให้กันและกัน และช่วยกันสร้างผลงานที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีความเจริญก้าวหน้าในการทำงานได้ด้วยกันทั้งคู่

เพราะในยุคดิจิตัลที่คนรุ่นใหม่ชาวมิลเลนเนียลก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น ยุคนี้เป็นยุคที่นายจ้างและบอสต้องง้อพนักงานค่ะ ถ้าพนักงานคนเก่งไม่สบอารมณ์เขาก็จะออกจากงานง่ายๆเพราะมีองค์กรอื่นๆกำลังมองหาพนักงานคนดีคนเก่งกันให้ควั่ก

จากการสำรวจศึกษาของดิฉันเองและจากสำนักสำรวจอื่นๆเกี่ยวกับคุณลักษณะของบอสที่น่ารักที่พนักงานมองหานั้นมีที่สำคัญมากๆอยู่หลายประการดังนี้

เป็นผู้ที่มีมธุรสวาจาให้เกียรติลูกน้อง ต่อให้เก่งแสนเก่งลูกน้องก็ไม่สนใจหากบอสเป็นผู้ที่พูดจาและปฏิบัติต่อลูกน้องเหมือนกับว่าเขาเป็นพลเมืองชั้นสองที่โง่กว่า ต่ำกว่าและไม่มีทางต่อสู้ คนฉลาดและเก่งโดยมากมักเป็นคนใจร้อน และเมื่อใจร้อนแสดงว่าอาจขาดสติได้ง่าย จงเตือนสติตนเองทุกครั้งว่าอย่าได้หลุดกิริยาวาจาที่ก้าวร้าวดูหมิ่นลูกน้องเป้นอันขาด คนสมัยนี้มีมือถือติดตัวกันทั้งนั้น หากท่านหลุดคำพูดหรือพฤติกรรมที่ไม่งาม ลูกน้องสามารถอัดคลิปมาใช้ฟ้องร้องท่านหรือเผยแพร่เพื่อทำลายชื่อเสียงของท่านได้เพียงคลิกเดียวเท่านั้น พนักงานอาจเบื่อเซ็งและไม่นับถือบอสที่ไม่ค่อยเก่ง แต่พวกเขาไม่เกลียดคนไม่เก่งเท่ากับจดจำเคียดแค้นคนที่ดูหมิ่นข่มเหงเขาให้เจ็บใจหรอกค่ะ

สร้างบรรยากาศการทำงานที่ไว้ใจและให้เกียรติเคารพซึ่งกันและกัน นอกจากจะต้องระวังคำพูดและกิริยาดังกล่าวไปแล้ว สิ่งที่บอสควรทำเพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานที่จูงใจลูกน้องให้อยากทำงานและทำให้ตนเองเป็นที่เคารพรักใคร่ของลูกน้องด้วยก็คือ การให้ความไว้วางใจ ให้เกียรติและเคารพพนักงานไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในตำแหน่งงานระดับใดก็ตาม เป็นเรื่องที่ทุกคนทราบดีอยู่แล้วแต่มักปฏิบัติไม่ได้

บอสโดยมากมักไม่ค่อยไว้ใจพนักงาน เป็นเพราะไม่เชื่อในความสามารถบ้าง และไม่เชื่อใจในความซื่อสัตย์บ้าง และของแบบนี้ก็ไม่ใช่จะเสแสร้งทำได้ง่ายๆ หากรักจะทำงานกันเป็นทีมที่เหนียวแน่นกันจริงๆ ต้องรู้จักไว้ใจโดยพยายามลดสาเหตุที่ทำให้ไม่กล้าไว้วางใจลงทีละข้อ ยกตัวอย่างเช่น หากไม่ไว้ใจว่าลูกน้องมีความสามารถพอที่จะทำงาน ก็จงให้ข้อมูลในเรื่องของเป้าหมาย มาตรฐานที่ต้องการ ให้ความรู้และการฝึกอบรมให้มากพอที่จะมั่นใจว่าเขาสามารถทำงานชิ้นนั้นได้ และเปิดโอกาสให้ลูกน้องสามารถติดต่อขอคำแนะนำจากตนหรือพี่เลี้ยงหัวหน้างานคนอื่นในระหว่างให้ทำงานนั้นได้เสมอ เมื่อลูกน้องได้มีการฝึกปรือฝีมือบ่อยครั้งเข้า ท่านก็จะสามารถไว้วางใจเขาได้มากขึ้น

ในกรณีที่ไม่ไว้ใจเรื่องความซื่อสัตย์ เรื่องนี้ต้องใช้เวลาคอยสังเกตและค่อยๆให้ความไว้วางใจทีละน้อยๆ ในส่วนของตัวบอสเองก็ต้องทำตัวให้เป็นที่ไว้วางใจของลูกน้องเช่นกัน เช่นไม่เปิดเผยความลับของลูกน้อง ไม่ฉีกหน้าลูกน้องต่อหน้าสาธารณชน ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์กับการพัฒนาตนเองของลูกน้องอย่างจริงใจ ให้เวลากับลูกน้องเมื่อเขาต้องการขอคำปรึกษาและรักษาคำพูดที่ให้ไว้กับลูกน้องเสมอ

เป็นผู้ฟังที่ดี การรับฟังลูกน้องนับเป็นคุณสมบัติที่หายากในตัวบอสที่มักพูดมากกว่าฟังพวกเขา หากบอสไม่สนใจรับฟังความเห็น ข้อเสนอแนะและปัญหาของลูกน้อง ก็จะไม่มีผู้ใดอยากเข้าใกล้กล้าสื่อสารความเห็นที่แม้แตกต่างจากบอสแต่เป็นประโยชน์กับบอสและองค์กร ทำให้บอสอาจทำหลายสิ่งหลายอย่างผิดพลาดเพราะไม่รับฟังคำเตือนของทีมงาน

มีความยุติธรรม ใจคอหนักแน่นไม่หูเบา สิ่งที่ลูกน้องรู้สึกขมขื่นมากเกี่ยวกับตัวบอสคือความรู้สึกว่าบอสลำเอียง ไม่ให้ความยุติธรรมกับเขาโดยเฉพาะในเรื่องของการประเมินผลงาน การเลื่อนขั้นและการให้รางวัล การเป็นบอสที่มีความโปร่งใสยุติธรรมตรวจสอบได้คือการที่บอสให้โอกาสพนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียมกันในการแสดงความสามารถในการทำงาน ใช้มาตรฐานเดียวกันในการประเมินผลงานโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนโดยเสมอภาคเท่าเทียมกันโดยไม่ดูแลให้ความสนใจใครเป็นพิเศษ ไม่เป็นคนหูเบา แต่จะเปิดโอกาสให้ทุกคนได้พูดคุยให้ข้อมูลและไม่เชื่อคำพูดของใครคนหนึ่งง่ายๆโดยไม่มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเสียก่อน

ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี มีจริยธรรม ไม่ใช่ทำตัวเป็นแม่ปูสอนลูกปู ตัวเองทำไม่ถูกไม่ดี แต่ไปสอนสั่งหรือบังคับให้ลูกน้องทำตามระเบียบ ลูกน้องจะเคารพรักบ๊อสได้อย่างจริงใจเต็มหัวใจเมื่อบอสเป็นผู้ที่มีจริยธรรมไม่ทำความชั่ว

ไม่เอาดีเข้าตัว เอาชั่วโยนให้ลูกน้อง เมื่อทีมงานภายใต้การกำกับดูแลของตนทำงานผิดพลาด ต้องยืดอกรับความผิดร่วมกับลูกน้องด้วย ไม่ใช่โยนความผิดให้ลูกน้องฝ่ายเดียว และเมื่อทีมงานทำงานได้ผลดี บอสก็ต้องยกย่องชมเชยทีมงานทุกคน ไม่ใช่ฉกผลงานไปเป็นของตัวคนเดียว ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกับทีมงาน การบริหารทีมงานก็เหมือนกับการแสดงบนเวที ต้องแบ่งบทให้ทุกคนได้มีโอกาสรับบทเด่นบ้าง ไม่ใช่บอสรับบทเด่นยึดเวทีเป็นของตนเองคนเดียว ให้ลูกน้องเป็นตัวประกอบอยู่ริม ๆเวทีเท่านั้น หากเอาเด่นเอาดังเพียงคนเดียว ไม่นานลูกน้องคงปล่อยเกาะบอสแน่ ๆค่ะ

สนใจดูแลทุกข์สุขของลูกน้อง ไม่ใช่เน้นเอาแต่ผลงาน พนักงานทุกคนเป็นมนุษย์มีความรู้สึก เจ็บป่วยกันได้ อ่อนแอกันได้ทุกคน บอสที่เป็นที่รักของลูกน้องคือคนที่ไม่ใช่สนใจพูดแต่เรื่องงาน เฆี่ยนลูกน้องให้เร่งผลิตงานโดยไม่สนใจว่าบางครั้งพวกเขาอาจไม่พร้อมเพราะมีปัญหาส่วนตัวกันบ้าง บอสพึงเป็นคนช่างสังเกตดูสภาพจิตอารมณ์ความพร้อมของลูกน้องอย่างสม่ำเสมอ หากสังเกตเห็นมีอาการผิดปกติ เช่นเจ็บป่วยหรือซึมเศร้า ควรให้ความสนใจ ตักเตือนให้ไปพบแพทย์หรือเรียกมาพูดคุยให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ ยกเว้นแต่ลูกน้องเป็นคนใจเสาะป่วยนิดหน่อยหรือมีปัญหานิดหน่อยก็แสดงอาการหนักเกินเหตุบ่อยๆ แบบนี้ก็ต้องวางเฉยไปบ้าง