มโนนะสื่อ

ผมเติบโตมาในยุค “คนข่าว” ถือว่าความจริง ต้องมาก่อน “ข่าวลือ” แม้ว่า “ข่าวลือ” มันคือเรื่องจริงที่ยังมาไม่ถึง เราจะต้องเช็คแล้วเช็คอีก ก่อนจะนำเสนอข่าวนั้นออกไป

สถานการณ์สื่อในปัจจุบันที่แข่งขันสูง หรืออาจจะเป็นเพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ความจริง ตัดสินที่ “ความเร็ว” ใครนำเสนอก่อน คือผู้ที่จะชิงพื้นที่สื่อได้ก่อนใครอื่น แม่ว่า สิ่งนั้น มันเป็นเพียงกระแสข่าวลือ หรือเป็นเรื่องที่ไม่มีคุณค่าของข่าวเลย เพียงแต่เป็นสิ่งที่คนอยากรู้ และมันเพิ่มยอดกดไลค์ กดแชร์ ให้กับข่าวชิ้นนั้นๆ ด้วย

ผู้คนจำนวนมาก มักถามผมว่า ข่าวหวย 30 ล้านจะจบยังไง ผมว่า ทุกคนอยากรู้ แต่ไม่มีใครรู้ความจริง และคนที่รู้ความจริง ต้องมีคนใดคนหนึ่งที่พูดความจริงไม่หมด นั่นแหละเราจึงต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรม พึ่งนิติวิทยาศาสตร์

ตราบใดที่ผู้มีหน้าที่ชี้ข้อเท็จจริง ยังไม่ชี้ออกมา ความคุกรุ่นของเรื่องก็ยังดำเนินต่อไป เราต้องรู้จักรอและแสวงหาข้อเท็จจริง ด้วยตรรกะ ที่ว่า ความจริงมีเรื่องเดียว

ผมว่า คนข่าวไม่ใช่นักไสยศาสตร์ เดาไปเรื่อย มโนไปเรื่อย หากเป็นอย่างนี้บ่อยๆ ในที่สุดชาวบ้าน จะไม่เชื่อถือ “ข่าว” และในบางคราว สิ่งที่เรามโนก็ไปกระทบสิทธิ กระทบความรู้สึกคนอื่น อย่างครูปรีชา ใคร่ครวญ และพล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉด

ครูปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี อดรนทนไม่ได้กับพาดหัวข่าว ถึงกับต้องออกปาก ว่า

“สื่อฯเขียนข่าวมอมเมาประชาชนสร้างกระแส” : “ครูปรีชา”โทษสื่อฯทำให้คนสับสน, สำนักข่าวไทย, 21 ก.พ.2561

รวมถึง พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. กล่าวระหว่างแถลงถึงความคืบหน้าของคดีหวย 30 ล้านบาท ที่มีสื่อมวลชนบางสื่อได้มีการตัดสินบทสรุปของคดีหวย ว่าเป็นของใคร ว่า

“...ที่ผ่านมาผมเป็นหัวหน้าองค์กรของกองปราบปราม ผมให้เกียรติและเคารพการตัดสินใจของท่านตลอด แต่เมื่อเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ทำให้ผมและหน่วยงานของผมเสียชื่อเสียง ต่อไปนี้ในเรื่องนี้ คงต้องเว้นระยะกับพวกท่านสักพักในจุดที่เหมาะสมมากกว่านี้...” : ผบก.ป.ขอเว้นระยะสื่อทำกองปราบฯเสียชื่อ ยันยังไม่สรุปเจ้าของหวย30ล้าน, มติชน ออนไลน์, 21 ก.พ.2561

ผมขอย้ำว่า คนข่าวไม่ใช่นักไสยศาสตร์ อย่าเดาไปเรื่อย อย่ามโนไปเรื่อย