ปลุกกระแส

ปลุกกระแส

000 กลายเป็นกระแสร้อนแรงทางสังคมกรณีของ “เปรมชัย กรรณสูต”ซีอีโอ บริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย

ที่ถูกจับคาหนังคาเขา ขณะลักลอบเข้าตั้งแคมป์และล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านทิศตะวันตก ที่ทุกฝ่ายต้องการให้ดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดกับ“เปรมชัย”เพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรมนี้ แต่ ณ วันนี้ ยังไร้วี่แววของนายเปรมชัย โดยมีกระแสข่าวเจ้าตัวเผ่นออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว**ส่วนกระแสในโลกโซเชียลก็ยังแรงไม่หยุด ประณามการกระทำอย่างต่อเนื่อง 

000 ผลของคดีทำให้เกิดการตื่นตัวในเรื่องของการอนุรักษ์ และการแก้ไขกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทลงโทษที่ดูเหมือนว่าจะน้อยเกินไปสำหรับการ“ฆ่าสัตว์”สงวน ส่วนคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนช. ออกโรงแถลงข่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการจับกุม“เจ้าสัวนักล่าสัตว์”โดยไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหม

000 แต่ก็น่าแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อจู่ๆ กมธ. สิ่งแวดล้อมก็ยกเลิกนัดหมายเชิญ “กาญจนา นิตยะ”ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และฮีโร่ “วิเชียร ชิณวงษ์” หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกมาให้ข้อมูล  อะไรเข้าไปอยู่ในกอไผ่หรือไม่งานนี้

000 อย่างไรก็ตามงานระยะยาวยังมีการผลักดันให้มีการแก้ไขพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ. 2535 หากเจ้าของเรื่องคือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯและรัฐบาล ส่งร่างกฎหมายนี้มาให้สนช.โดยเร็วคงต้องวัดใจว่ารัฐบาลจะรีบเร่งส่งร่างก.ม.ฉบับนี้มาให้สนช.เมื่อไร ประเด็นใหญ่คือการแก้ไขบทลงโทษให้หนักและรุนแรงมากขึ้น ซึ่ง“สนิท อักษรแก้ว”สนช. ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบนิเวศและกฎหมาย เสนอให้ลงโทษหนักกับนักล่าสัตว์สงวนให้จำคุก 10-20 ปี ข้อเสนอดังกล่าวตรงใจกับใครหลายคน เพื่อให้นักล่าสัตว์เกรงกลัวกันบ้าง 

000 ส่วนความเคลื่อนไหวการประชุมสนช.สัปดาห์นี้ที่น่าสนใจคือ ที่ประชุมสนช.จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.และร่างพ.ร.ป.การได้มาซึ่ง ส.ว. โดยกมธ.ร่วม3 ฝ่าย จะมีเวลาถกร่างพ.ร.ป.นี้ 15วัน ก่อนเข้าสู่การพิจารณาของสนช.อีกครั้งคาดว่าน่าจะเป็นต้นเดือนมี.ค. มี.ค.นี้ คงต้องลุ้นกันว่าสนช.จะคว่ำหรือโหวตผ่านฉลุย


โดย... -ลีโอนิดส์-