อึ้ง!!“พรานเศรษฐี” ล่าสัตว์เขตหวงห้าม

อึ้ง!!“พรานเศรษฐี”     ล่าสัตว์เขตหวงห้าม

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ทันทีที่ “วิเชียร ชิณวงษ์” นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จ.เชียงราย

เข้าจับกุมกลุ่มลักลอบตั้งแคมป์พักแรมในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ พบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง ซากเสือดำถูกชำแหละถลกหนัง อาวุธปืนลูกกรดติดลำกล้อง 1 กระบอก ปืนไรเฟิลติดลำกล้อง 1 กระบอก และปืนลูกซองแฝด 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก บริเวณป่าห้วยปะชิ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ท้องที่ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ทับซ้อนป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาน้ำโจน กลายเป็นเรื่องใหญ่โตทีเดียว

งานนี้สร้างความตะลึง สะพรึงกลัว ให้กับผู้คนไม่น้อยทีเดียว คำถามที่ตามมามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนระดับ “เศรษฐี” ถึงต้องทำอย่างนั้น เป็นถึงซีอีโอบริษัทใหญ่ ทำไมนึกสนุกถึงต้องสวมบทเป็น“พรานป่า” ยิ่งเป็น“เสือดำ”จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง หากล่าในเขตห้ามล่า ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจะมีโทษสูงขึ้น เป็นจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  แต่การที่เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ใคร? คือผู้มีส่วนอนุญาตให้เข้าไป 

การกระทำอย่างโจ่งแจ้งที่เกิดขึ้น พร้อมๆกับหลักฐานที่ปรากฏ ดูเหมือนเป็นการท้าทายกฎหมายอย่างยิ่งยวด ยิ่งเห็นอุปกรณ์อาวุธปืน ยิ่งทำให้คิดหนักไปว่านี่เป็นการ "เตรียมพร้อมเพื่อเข้าไปล่าสัตว์อย่างนั้นหรือ?" ที่สำคัญขนอาวุธปืนเข้าไปได้อย่างไร หรือได้รับอภิสิทธิ์จากใคร? หรือไม่อย่างไร 

ยิ่งอ่านข้อความตามโซเซียล ยิ่งทำให้เห็นถึงอาการโกรธเคืองของประชาชนอย่างหนัก มีการ“สาปแช่ง”อย่างรุนแรงต่อผู้ที่ลงมือล่าสัตว์ 

เอาเถอะ..งานนี้ยังไงก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด ไม่ต้องเว้นว่าเขาเหล่านั้นคือใคร? หากมีการทำผิดก็ต้องจัดการขั้นเด็ดขาด ที่สำคัญต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่สามารถจัดการขั้นเด็ดขาดแบบไม่ไว้หน้าใคร ไม่ต้องเกรงอกเกรงใจใคร กับการกระทำผิดครั้งนี้

 ส่วนความผิดที่เกิดขึ้นจะต้องรับชะตากรรมไปกี่ข้อหาก็ว่ากันไป ขอแค่ผู้มีอำนาจอย่าทำเพียงแค่ลูบหน้าปะจมูกก็แล้วกัน!!