อย่าเอาโรงพยาบาลรัฐเป็นตัวประกัน

อย่าเอาโรงพยาบาลรัฐเป็นตัวประกัน

ถ้าจะตั้งคำถามว่า สถานะของโรงพยาบาลรัฐคืออะไร คำตอบก็คงจะมีหลายคำตอบ ขึ้นอยู่กับว่าใครตอบ

ตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน โรงพยาบาลรัฐเป็นหน่วยงานระดับล่างของรัฐที่ต้องทำงานตามนโยบายจากส่วนกลาง ตามกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โรงพยาบาลถือเป็นหน่วยบริการที่มีหน้าที่ให้บริการดูแลรักษาสุขภาพประชาชน ตามหลักการบริหารจัดการชุมชน

โรงพยาบาลเป็นหน่วยบริการทางสังคมที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมชุมชน และมีปฏิสัมพันธ์กับประชาชนในชุมชน ตามหลักการปกครอง โรงพยาบาลเป็นหน่วยงานที่ให้บริการดูแลสุขภาพเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการเข้าถึงประชาชนให้บริการแทนรัฐบาลที่บริหารประเทศ 

ตามหลักการพัฒนาสังคมโลก โรงพยาบาลเป็นหน่วยงานที่ให้มนุษย์เข้าถึงการรักษาพยาบาล โดยเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน ตามหลักเศรษฐศาสตร์ โรงพยาบาลเป็นองค์กรที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจเพื่อให้ทุกคนมีสิทธิใช้บริการพื้นฐานเพื่อดูแลสุขภาพของตนเองและบุคคลในครอบครัว ตามหลักธรรมาภิบาล โรงพยาบาลต้องให้บริการประชาชนอย่างตรงไปตรงมาตามหลักวิชาการ เปิดเผยข้อมูลที่ไม่กระทบต่อสิทธิส่วนบุคคล มีธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการ มีจรรยาบรรณในฐานะที่บุคคลากรของโรงพยาบาลเป็นผู้อยู่ในวิชาชีพ และคงมีอีกหลายสถานะที่จาระไนไม่หมด

แต่มีสถานะหนึ่งที่ไม่น่าจะเป็นสถานะของโรงพยาบาลรัฐสำหรับบ้านเรา นั่นคือ สถานะของตัวประกัน.

ทำไมถึงบอกว่า โรงพยาบาลรัฐมีสถานะเป็นตัวประกัน

คำตอบก็คือ โรงพยาบาลรัฐไม่มีอำนาจต่อรองใดๆกับหน่วยงานใด และแม้แต่กับประชาชน

โรงพยาบาลรัฐถูกกำหนดโดยกฎหมายกว่าสิบฉบับให้เป็นผู้ให้บริการ แต่ไม่มีแม้ฉบับเดียวให้โรงพยาบาลมีอำนาจสั่งการใคร มีแต่รับคำสั่งและปฏิบัติตาม

เวลาเกิดคดีความในศาลถูกฟ้องเป็นคดีผู้บริโภคโรงพยาบาลโดยแพทย์พยาบาล และบุคคลากรทางการแพทย์ที่ถูกกล่าวห าต้องเป็นฝ่ายพิสูจน์ว่าไม่ผิด ทั้งๆ ที่ตามกฎหมายทั่วไปภาระพิสูจน์เป็นของผู้กล่าวหา 

ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ ก็ถือว่าทำผิด โรงพยาบาลรัฐแม้จะมีเงินได้ที่ถือเป็นรายรับเป็นเงินบำรุง แต่ก็ไม่สามารถใช้เงินนั้นได้โดยตรง แต่ต้องขออนุมัติจากส่วนกลางตามระเบียบปฏิบัติ

โรงพยาบาลได้รับงบประมาณจากรัฐบาลแต่จะได้มากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับองค์กรที่มีอำนาจเบิกจ่ายงบประมาณแทน โดยไม่มีสิทธิปริปาก โ

รงพยาบาลประกอบด้วยผู้มีวิชาชีพด้านสุขภาพ แต่การรักษาพยาบาลต้องทำตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด โดย สปสช. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ไม่ได้ทำการรักษา

โรงพยาบาลขาดทุนจากการดำเนินการตามนโยบาย แต่ก็ต้องทนอยู่กับสภาวะขาดทุนที่ไม่มีใครช่วย

โรงพยาบาลมีข้อพิพาทกับผู้ใช้บริการ บุคคลากรทางการแพทย์ก็ต้องรับผิดชอบ ทั้งๆ ที่ทำหน้าที่ ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่  ดูเหมือนโรงพยาบาลจะเป็นกระโถนท้องพระโรงในทุกเรื่องอย่างที่คิดไม่ถึง

โรงพยาบาลไม่สามารถปฏิเสธการสั่งการตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดินได้ แม้จะไม่เห็นด้วย 

โรงพยาบาลไม่สามารถปฏิเสธการรักษาพยาบาลได้ เพราะมีทั้งกฎหมายและจรรยาบรรณค้ำคออยู่ 

โรงพยาบาลไม่สามารถหารายได้จากการให้บริการโดยเก็บค่าบริการเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และบุคคลากรของโรงพยาบาล ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ถ้าไม่เป็นไปตามกฎระเบียบจากส่วนกลาง

โรงพยาบาลรัฐเป็นเสมือนหนังหน้าไฟ เป็นด่านหน้าที่ติดต่อกับผู้ป่วยที่มาใช้บริการ แต่อำนาจของโรงพยาบาลที่จะจัดการปัญหาด้วยตนเองกลับทำไม่ได้

ความไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคลทำให้ไม่สามารถเข้าทำสัญญากับใครได้โดยตรง แต่ต้องรับภาระเมื่อเกิดกรณีคู่สัญญาของกระทรวงผิดสัญญา และทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการเดือดร้อน ไม่เคยมีผู้ป่วยหรือประชาชนตำหนิติเตียนองค์กรหรือส่วนกลางที่สั่งการให้โรงพยาบาลปฏิบัติงาน แต่โรงพยาบาลต้องรับคำตำหนิเหล่านั้น ทั้งๆ ที่ ทำตามระเบียบบริหารงาน

สถานะของโรงพยาบาลที่ไม่มีทางออกเช่นนี้ คงไม่ต่างกับสถานะของตัวประกัน หรือลูกไก่ในกำมือของหน่วยงานที่กำกับดูแล จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ไม่สามารถหลีกหนีภาระงานได้ เพราะผู้มาใช้บริการเป็นคนเจ็บคนป่วย คนใกล้ตาย ถ้าไม่ดูแลแล้วจะให้ใครดูแล 

สภาพเช่นนี้เป็นสภาพของการถูกมัดมือชก ไม่มีปากมีเสียง ร้องไปก็ไม่มีคนฟัง มีแต่รองรับการสั่งการที่คนสั่งไม่ต้องทำ ไม่มีสิทธิโต้เถียง ความเป็นตัวประกันนี้คงจะยังอยู่กับโรงพยาบาลรัฐอีกนานเท่านานเป็นนกในกรงเหล็ก ไม่ใช่นกในกรงทอง เมื่อโรงพยาบาลทำดีก็ถือว่าทำตามหน้าที่ แต่ถ้าโรงพยาบาลผิดพลาด ต้องรับผิดชอบเอง

โรงพยาบาลกว่าครึ่งที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันอยู่ในสภาวะขาดทุน เอาเงินบำรุงออกมาใช้จุนเจือเพื่อให้ประชาชนได้รับการรักษาพยาบาลมีชีวิตที่ดีขึ้น 

โรงพยาบาลหลายแห่งพยายามรัดเข็มขัด ประหยัดค่าใช้จ่ายแม้ว่าจะเป็นเรื่องจำเป็น และดำเนินการหลายอย่างเพื่อให้สามารถให้บริการประชาชนได้

โรงพยาบาลหลายแห่งขอเงินบริจาคสมทบจากประชาชน จัดการแข่งกีฬา จัดงานการกุศล และอีกหลายๆ อย่างเพื่อให้มีเงินเข้าโรงพยาบาล รวมทั้งขอรับเงินช่วยเหลือจากผู้มีจิตอันเป็นกุศลเช่นโครงการ ก้าวคนละก้าว ของคุณตูน บอดี้แสลม ที่วิ่งเพื่อหาเงินช่วยโรงพยาบาลจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เมื่อเร็วๆ นี้ และอีกมากมายหลายอย่างที่ไม่เคยเป็นและไม่ควรเป็นงานของโรงพยาบาลเลย

เหล่านักรบในเสื้อกาวน์ทั้งหญิงและชายที่เป็นแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลรัฐต้องต่อสู้กับโรคภัยและอุบัติภัยที่เกิดกับประชาชน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำงานยี่สิบสี่ชั่วโมงให้บริการรักษาประชาชนผู้เจ็บป่วยกะทันหัน คนยากคนจนที่ไม่เงินไปรักษาโรงพยาบาลเอกชนราคาแพง ต้องอยู่ในหน้าที่นี้

แต่ อนิจจา พวกเขากลับไม่ใช่ในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์ แต่เป็นฐานะของคนที่ต้องทำตามหน้าที่ หน้าที่ ที่ไม่ต่างจากผู้ใช้แรงงาน ที่ต้องทำตามคำสั่งของนายจ้าง จนกว่าจะทนไม่ไหว