ทรัมป์: จาก ‘คนบ้า’ ถึง ‘อัจฉริยะ’

ทรัมป์: จาก ‘คนบ้า’ ถึง ‘อัจฉริยะ’

ภาพล้อเลียนนี้ส่งแชร์กันจ้าละหวั่นทางโซเชียลมีเดีย คงเป็นเพราะหลายคนจินตนาการว่า ถ้าคิมจองอึน อ่านหนังสือเล่มที่กำลังอื้อฉาวเกรียวกราว

อยู่ในอเมริกาขณะนี้ จะหัวเราะเสียงดังเพียงใด

ทรัมป์: จาก ‘คนบ้า’ ถึง ‘อัจฉริยะ’

หนังสือชื่อ Fire and Fury: Inside the Trump White House ที่เขียนโดย Michael Wolff กำลังขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ใครในเมืองไทยที่กำลังรอซื้อหาอ่านได้จากไฟล์ PDF ที่กำลังส่งต่อกันอย่างคึกคัก

เป็นหนังสือที่เปิดโปงเรื่องวงในของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ฉาวโฉ่ที่สุด ตั้งแต่หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีก็ว่าได้

ทรัมป์ออกมาอาละวาดบอกว่า เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องโกหกมดเท็จ หนังสือเล่มนี้เป็น “ขยะ” ที่เขียนโดย “นักเขียนขยะ”

คนเขียนออกมายืนยันว่า ได้สัมภาษณ์คนกว่า 200 คนที่อ้างได้ รวมถึงทรัมป์ด้วย

ทรัมป์บอกว่าตัวเองไม่เคยนั่งให้สัมภาษณ์สำหรับหนังสือเล่มนี้เลย อีกทั้งยังบอกว่าไม่เคยอนุญาตให้คนเขียนเข้าทำเนียบขาว

ประโยคที่ร้อนแรงที่สุดเห็นจะเป็นตอนที่คนเขียนอ้างคำพูดของ Steve Bannon อดีตมือขาวและคนสนิทของทรัมป์ที่อ้างว่า เพราะฝีมือหาเสียง และวางแผนของเขา ทรัมป์จึงได้เป็นประธานาธิบดี

ทรัมป์ออกแถลงการณ์ซัดแบนนอนอย่างสาดเสียเทเสีย ถึงขั้นที่บอกว่าแบนนอนถูกเขาไล่ออกและเสียสติไปแล้ว

“He lost his job – and lost his mind”

แบนนอนถูกอ้างในหนังสือว่าลูกชายและลูกเขยรวมถึงอดีตผู้จัดการหาเสียงที่ชื่อ Paul Manafort ได้พบกับนักการทูตและตัวแทนรัสเซียจริง และนั่นคือการกระทำที่ “treasonous and unpatriotic”

ข้อกล่าวหานี้แรงมาก เพราะเท่ากับเป็นการชี้นิ้วว่าคนที่ใกล้ชิดทรัมป์ “ขายชาติ” กันเลยทีเดียว

ผ่านไปหลายวัน แบนนอนจึงออกแถลงการณ์ว่าเขาไม่ได้กล่าวหาลูกชายทรัมป์หรือ Trump Jr ซึ่งเขายังยืนยันว่าเป็นคนดี เขาหมายถึงพอล แมนนาฟอร์ดต่างหาก

แบนอนบอกว่าเขายังสนับสนุนทรัมป์และนโยบายของทรัมป์

แต่ดูเหมือนว่าจะสายเกินไปเสียแล้ว เพราะทรัมป์ส่งคนรอบข้างออกมาฟาดฟันทั้งคนเขียน และแบนนอนอย่างดุเดือดรุนแรง

ทรัมป์กลัวว่าคนทั้งประเทศอเมริกาและทั้งโลกอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วมีแนวโน้มว่าจะเชื่อหลายสิบเปอร์เซนต์ของรายละเอียดทีเดียว

โดยเฉพาะประเด็นที่หนังสือนี้อ้างคนรอบข้างทรัมป์หลายคนที่บอกว่าพวกเขาเชื่อว่าสภาพจิตของทรัมป์ไม่ปกติ

เรียกว่าไม่มีคุณสมบัติที่จะบริหารประเทศ ว่างั้นเถอะ

ที่แย่กว่านั้นก็คือสมาชิกคองเกรสหลายคณะได้เชิญจิตแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยามาวิเคราะห์ “สภาพจิต” ของทรัมป์ให้ฟัง เพื่อจะได้ประเมินได้ถูกว่า จะทำอย่างไรกับผู้นำของประเทศ

ยิ่งเมื่อทรัมป์ทวีตบ่อย ๆ เกี่ยวกับเรื่องราวที่ไม่แน่ใจว่า เป็นนโยบายจริงหรือเป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวก็ยิ่งสร้างความหวั่นเกรงให้กับคนอเมริกาจำนวนไม่น้อยว่าบ้านเมืองกำลังจะเข้าสู่สภาวะอย่างไร

คำว่าทรัมป์เพี้ยน ทรัมป์บ้า กำลังกลายเป็นสิ่งที่คนอเมริกันถามไถ่กันเกือบทุกบ้าน

พอทรัมป์ทวีตว่าตัวเขาเองเป็น “a very stable genius” หรือ “อัจฉริยะที่มั่นคงยิ่ง” ก็ทำให้คนอเมริกันไม่น้อยเริ่มจะเป็นห่วงความปลอดภัยของตัวเองและประเทศชาติมากขึ้นอีกหลายเท่า

พราะมีคำถามว่าความบ้ากับอัจฉริยะจะอยู่ในตัวคนเดียวกันได้จริงหรือ