ฝันกลางวันถึงคุณตูน ที่ไม่ใช่เรื่องการเมือง

ฝันกลางวันถึงคุณตูน  ที่ไม่ใช่เรื่องการเมือง

ดูภาพคุณตูน ตามสื่อทีวีและสื่อออนไลน์ เห็นภาพคนบริจาคเงินช่วยเหลือโรงพยาบาล ถึงกับต้องใช้ถุงพลาสติกใส่เงินที่ประชาชนคนไทย

ตั้งแต่ลูกเด็กเล็กแดงจนถึงคนแก่ แม้กระทั่งคนป่วยอยู่ในรถเข็นในนามของโครงการ ก้าวคนละก้าว ช่างเหมือนกับตอนที่คุณสุเทพ นักการเมือง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และรัฐมนตรีหลายสมัย ออกเดินตามถนนต่างๆหลายสายในกรุงเทพเพื่อขอรับเงินบริจาคจากประชาชน ในนามของ กปปส. เมื่อสี่ปีมานี้

ผู้คนสองข้างทางต่างรอคอยที่จะบริจาคสมทบเงินกันอย่างเบียดเสียดยัดเยียด หลายคนอยากส่งเงินให้กับมือ

ทำไมเหตุการณ์ที่เกิดกับปรากฏการณ์คุณสุเทพ จึงเกิดกับคุณตูน อีกครั้ง

เมื่อคุณสุเทพเริ่มต้น คุณสุเทพก็ไม่คิดว่าประชาชนคนกรุงเทพฯ จะสนับสนุนมากมายขนาดนี้ เพราะเขาก็เป็นเพียงนักการเมืองต่างจังหวัด ที่มีประวัติทั้งขาวทั้งดำมากมาย มีทั้งคนรักและคนชัง แม้ว่าจะเป็นคนดังที่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางก็ตาม

เมื่อคุณตูน จะเข้ามาวิ่งเพื่อโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลที่ขาดทุนจากการดำเนินงาน ก็ไม่ถึงกับเป็นที่รู้จักของประชาชนคนไทยอย่างกว้างขวาง ถึงแม้ว่าก่อนหน้านั้น เขาจะเป็นนักดนตรีร็อคที่มีแฟนเพลงชื่นชอบจำนวนหนึ่ง หรือแม้แต่ที่เขาออกวิ่งครั้งแรกจากกรุงเทพฯ ถึงปราณบุรี เพื่อรับเงินบริจาคช่วยเหลือโรงพยาบาลปราณบุรี ก็ไม่ถึงกับที่จะเรียกว่า ตูนฟีเว่อร์ แต่อย่างใด

แต่ทำไม คนสองคนนี้จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์ ที่ถึงขนาดประชาชนคนไทยแห่แหนกันไปยืนรอบริจาคเงินมากบ้างน้อยบ้างตามสองข้างทาง ยอมตากแดดตากฝนเพื่อรอพบราวกับว่าเป็นการรอคอยฮีโร่ในดวงใจ

ที่น่าแปลกอย่างหนึ่งคือ คุณสุเทพนั้นเป็นคนต่างจังหวัด แม้มาอยู่กรุงเทพฯ แต่ก็ถือว่าเป็นคนต่างจังหวัด นักการเมืองต่างจังหวัด แต่มาได้ใจคนกรุงเทพฯ ประชาชนตั้งแต่คนเดินดินกินข้าวแกง ถึงพนักงานบริษัทห้างร้านธนาคารที่ไม่น่าจะชื่นชอบคุณสุเทพที่เป็นนักการเมืองต่างจังหวัดได้เลย

ในขณะที่คุณตูนนั้นเกือบจะเรียกว่าเป็นคนกรุงเทพฯ เพราะมาเรียนหนังสือกรุงเทพฯ เรียนจบมหาวิทยาลัย เข้าสู่วงการดนตรีนักร้องก็อยู่ในเขตคนกรุงเทพฯ แต่ทำไมเมื่อไปวิ่งรับเงินบริจาคต่างจังหวัดตั้งแต่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันกว่าห้าร้อยกิโลเมตร จึงมีคนต่างจังหวัดมากมายรอคอยที่จะสมทบเงินให้กับเขา

ทั้งคุณสุเทพและคุณตูนต้องมีอะไรบางอย่างที่เหมือนกัน แม้ว่าหลายอย่างจะต่างกันโดยสิ้นเชิง คุณสุเทพเป็นนักพูด โน้มน้าวจิตใจคนฟังตามสไตล์นักการเมือง แต่คุณตูนไม่ได้พูด คุณตูนใช้ความนอบน้อมถ่อมตนไหว้ทุกคน เข้าหาทุกคนที่ยืนรอสองข้างทาง ขอโทษทุกครั้งที่ทำให้ผู้รอคอยผิดหวัง

ยังคิดไม่ออก นอกจากจะมองในแง่ภาวะผู้นำตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ

คุณสุเทพ แสดงภาวะผู้นำเมื่อประเทศมีปัญหา คนชั้นกลางไม่พอใจรัฐบาลที่บริหารประเทศ คุณสุเทพใช้วาทะกรรมปลุกเร้าทำให้เกิดความเห็นพ้องของคนเมือง

ส่วนคุณตูนก็มีภาวะผู้นำ แต่ไม่ได้เกิดจากการใช้วาทะกรรม แต่ใช้พฤติกรรมแสดงออกถึงความมุ่งมั่นจริงใจ และทำให้เป็นที่ปรากฏ

สิ่งที่มองเห็นอย่างหนึ่งคือแรงกระเพื่อม หรือโมเมนตั้มของทั้งสอง เป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้อย่างรุนแรงเร่งเร้าเกินกว่าที่คาดคิด และแรงกระเพื่อมก็ไปไกลอย่างที่คิดไม่ถึง

ภาวะผู้นำของคุณสุเทพ จบลงเมื่อมีผู้มารับไม้ต่อจากผลของการปฏิวัติรัฐประหาร คุณสุเทพจบบทบาทได้ แม้จะมีควันหลงบ้างแต่ก็ไม่รุนแรงเกินกว่าที่จะรับได้ภายในระยะเวลาเดือนเศษ ส่วนคุณตูนก็คงจะมีไซเคิ้ลภายในห้าสิบห้าวันหรือเดือนเศษเช่นกัน แต่หลังจากนั้น จะมีใครรับไม้ต่ออย่างไรหรือไม่ คงต้องคอยดูกันต่อไป

ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นได้เรื่อยๆ ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายที่เราคิดว่าประเทศอาจจะเดินหน้าไม่ได้ ก็เกิดเหตุการณ์ที่คิดไม่ถึง และประเทศก็เดินต่อไปได้

เรื่องราวของคุณตูน จะจบลงอย่างไรเมื่อวิ่งครบห้าสิบห้าวันหรือได้รับเงินสมทบครบ700 ล้านบาท ก็คงต้องดูกันต่อไป

แต่ในฝันกลางวันของผมนั้น ฝันว่าจะมีคนรับไม้ต่อจากคุณตูน ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบสาธารณสุขเหมือนดังเช่นที่เกิดกับคุณสุเทพ และทำให้ปัญหาของกระทรวงสาธารณสุขลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ผมหวังว่าฝันกลางวันของผม จะไม่เป็นฝันลมๆแล้งๆ