เก่งแบบบัณฑิตสิงคโปร์

 โดยเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ที่กำหนดโดยหน่วยงานกำกับดูแลมหาวิทยาลัยของเขากับของเรา

เรื่องแรกคือเรื่องพฤติกรรม เรากำหนดไว้ว่าบัณฑิตต้องแสดงออกซึ่งพฤติกรรม ทางด้านคุณธรรมและจริยธรรมให้ผู้คนได้เห็น 

เขาบอกว่าต้องเป็นคนหนุ่มสาวที่กล้าหาญเพียงพอที่จะยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง ยืนหยัดในความเป็นธรรม ต้องอดทนพอที่จะบากบั่นไปสู่ความสำเร็จ ท่ามกลางความยากลำบากต่าง ๆ รวมทั้งต้องมีสำนึกในความรับผิดชอบของคนหนุ่มสาวที่มีต่อสังคม เขาดูจะเป็นผู้นำมากกว่าของเรา คือเขากล้าสู้กับความไม่ถูกต้อง งานยากก็สู้ไม่ถอย พร้อมจะลำบากต่างๆนานาให้กับสังคม แต่เราแค่ประพฤติดีเท่านั้น

เรื่องที่สองคือความรู้ เขาหวังว่าไม่ว่าจะเรียนอะไรมาก็ตาม บัณฑิตต้องสามารถใช้ความรู้ที่เล่าเรียนมานั้น ในการเดินหน้าสู่ความเป็นเลิศในวงการได้ โดยมีความเป็นผู้ประกอบการที่สามารถสรรค์สร้างนวัตกรรมได้

เราบอกว่ามีองค์ความรู้ในสาขาวิชาอย่างกว้างขวางและเป็นระบบ ตระหนักรู้หลักการ และทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งของเราดูเหมือนแค่รู้ แต่ของเขารู้แล้วต้องใช้ประกอบการได้ ใช้สร้างนวัตกรรมได้อย่างมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ ของเขาดูเหมือนจบแล้วเป็นผู้นำ ของเราจบแล้วแค่รู้วิชา

เรื่องที่สามคือ ทักษะในการใช้ปัญญา เราบอกว่าบัณฑิตต้องสามารถศึกษาปัญหาที่ค่อนข้างซับซ้อนและเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขได้อย่างสร้างสรรค โดยคํานึงถึงความรู้ทางภาคทฤษฎี ประสบการณ์ทางภาคปฏิบัติ มีความคิดริเริ่มในการวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างเหมาะสมและใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ในการแก้ปัญหา

เขาบอกว่าบัณฑิตต้องคิดได้ วิเคราะห์เป็น สังเคราะห์ให้เกิดประโยชน์ในการงานได้ทั้งวันนี้ และวันหน้า เขาเน้นการใช้ปัญญาในการทำการงาน ส่วนเราเน้นใช้ปัญญาเมื่อพบปัญหา ถ้าไม่มีปัญหาก็ไม่ต้องใช้ปัญญาในการทำการงาน เราจึงเสาะหาปัญหาก่อนทำงานทุกอย่าง

เรื่องที่สี่ คือความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เราบอกว่าบัณฑิตต้องมีส่วนช่วยและเอื้อต่อการแก้ ปัญหา ในกลุ่มได้อย่างสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นผู้นําหรือสมาชิกของกลุ่ม สามารถแสดงออกซึ่งภาวะผู้นําในสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจน 

เขาบอกว่าต้องประสานการงานกับคนที่คิดต่างเชื่อต่างกันได้อย่างได้ผล ต้องสามารถสื่อสารชักชวนให้คนอื่นที่ไม่ว่าจะเหมือน หรือแตกต่างจากตนเอง กระทำในสิ่งที่ตนต้องการได้ โดยไม่ต้องใช้อำนาจใด ๆ หมายความว่าเขาทำงานในสภาพแวดล้อมที่เป็นนานาชาติที่มีความแตกต่างทางความคิด ความเชื่อ และวิถีชีวิตได้เป็นอย่างดี ส่วนเราเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดีในกลุ่มทำงาน โอกาสที่จะเก่งนอกบ้านจึงน้อยกว่าเขามากมายนัก

เรื่องที่ห้าคือทักษะการใช้เครื่องมือไอที และการใช้ข้อมูลสารสนเทศ เราบอกว่าสามารถศึกษาและทําความเข้าใจในประเด็นปัญหา โดยใช้เทคนิคทางสถิติหรือคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม และแก้ไขปัญหาโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้

ในขณะที่เราก็วนอยู่กับปัญหา เขากลับไม่ได้กำหนดอะไรในเรื่องนี้ เพราะทราบดีว่าคนที่คิดได้ วิเคราะห์เป็น สังเคราะห์ได้นั้น ย่อมเป็นคนที่เข้าใจประเด็นปัญหา และเลือกใช้เทคนิคการวิเคราะห์สังเคราะห์ที่เหมาะสมกับเรื่องนั้นได้อยู่แล้ว  ถ้าทำไม่ได้ก็คิดไม่ได้ วิเคราะห์ไม่ได้ 

แต่เขากลับให้ความสำคัญกับการดำรงชีวิต โดยบอกว่าต้องอยู่อย่างมีสุขภาวะที่ดี และมีความสุขกับศิลปและวัฒนธรรม

ท่านที่เป็นพ่อแม่ของคนหนุ่มสาวที่เล่าเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยในวันนี้ ท่านอยากให้ลูกของท่านเก่งแบบบ้านเรา หรือบ้านเขา เพื่อให้ลูกมีชีวิตที่เป็นสุขและประสบความสำเร็จ