มหาเศรษฐีจีนเปิดโปง คอร์รัปชั่นในจีนจากนิวยอร์ก

มหาเศรษฐีจีนเปิดโปง คอร์รัปชั่นในจีนจากนิวยอร์ก

เขาเป็นมหาเศรษฐีคนดังของจีน วันนี้เขาหนีไปปักหลักที่นิวยอร์ก กำลังขอลี้ภัยการเมืองเพราะเปิดโปงคอร์รัปชันระดับสูงในปักกิ่งพร้อมหลักฐานเพียบ

ล่าสุดเขากำลังจะรณรงค์ให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ผ่านเครือข่ายโซเชียลมีเดีย

มหาเศรษฐีจีนเปิดโปง คอร์รัปชั่นในจีนจากนิวยอร์ก

นายกัว เหวินกุ้ย (郭文贵) หรือ Miles Kwok อายุ 50 สร้างความร่ำรวยจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จีน หนีมาอเมริกาสามปีแล้ว ตอนนี้ตั้งหลักอยู่ที่นิวยอร์ก ตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีนี้ มีบ้านสุดหรูที่มองออกไปเห็น Central Park ให้สัมภาษณ์สื่อวันก่อนว่า

ผมกำลังพยายามจะทำให้ประเทศจีนเป็นนิติรัฐ มีประชาธิปไตย เสรีภาพ และท้ายที่สุดควรจะต้องมีการเปลี่ยนระบบการปกครองด้วย

ถามว่า เขาคิดว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่จึงจะบรรลุเป้าหมายของเขา นายกัว เหวินกุ้ยตอบอย่างไม่ลังเลว่า “ผมว่าสามปีจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้”

นายกัวเป็นเจ้าของธุรกิจยักษ์ชื่อ Beijing Zenith Holdings ช่วงที่เขาเฟื่องฟูที่สุดเคยถูกจัดอันดับว่าเป็นคนรวยอันดับที่ 73 ของจีน

ตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา เขาเขียนข้อความขึ้น social media กล่าวหาผู้นำระดับสูงและนักธุรกิจระดับชาติของจีนว่า ฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างใหญ่โตแ ละเกรี้ยวกราด

เส้นทางของกัวเหวินกุ้ยคนนี้ไม่ธรรมดา เพราะปกติแล้วคนระดับมหาเศรษฐีของจีน จะไม่เลือกวิถีแห่งการต่อต้านผู้มีอำนาจทางการเมือง เพื่อเรียกร้องความเปลี่ยนแปลง

ตั้งแต่เขาหนีออกจากจีนเมื่อปี 2014 ทางการก็ยึดทรัพย์สินของเขาในจีน อีกทั้งพี่น้องสองคนก็ถูกจับติดคุก

แต่เขาบอกว่าได้เตรียมการที่จะทำการเปิดโปงความชั่วร้ายของระบบประเทศจีนตลอด 28 ปีที่ผ่านมา

นี่เท่ากับเป็นการประกาศล้มล้างพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนเลยกระนั้นหรือ

เขาเล่าว่า ตอนที่ เติ้ง เสี่ยวผิง สั่งให้ปราบปรามนักศึกษา ระหว่างการประท้วง เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อปี 1989 นั้น “น้องชายคนเล็กของผมตายต่อหน้าต่อตาผม ผมถูกจับไปติดคุก 22 เดือน”

เขาบอกว่า ระหว่างอยู่ในห้องขัง เขาตัดสินใจที่จะต่อสู้กับระบบที่ไร้มนุษยธรรม และผิดกฎหมายของพรรคคอมมิวนิสต์

บางคนบอกว่านายกัวเองก็ใช่ว่าจะไร้มลทิน เพราะทำตัวเป็นมหาเศรษฐี ใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย และที่ร่ำรวยได้ก็เพราะมีความโยงใยผูกพันอยู่กับผู้นำของพรรคคอมิวนิสต์จีนนั่นแหละ

เมื่อปี 2015 นิตยสารชื่อดังของจีน Caixin เปิดโปงว่าเขามีเส้นสายโยงใยกับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมากมาย อีกทั้งยังใช้วิธีการทั้งบนดิน และใต้ดิน เพื่อจัดการกับศัตรูทางการเมือง และธุรกิจของตน

แต่เจ้าตัวปฏิเสธ ยืนยันว่า ไม่ได้สร้างความเป็นมหาเศรษฐีจากเส้นสายในพรรคและผู้นำของจีน

ผมจะทำอย่างนั้นทำไม ผมไม่ต้องการเงินเพราะผมมีเงินเยอะแยะอยู่แล้ว เขาบอกพร้อมอ้างว่ามีอพาร์ตเมนต์ราคาแพง ทั้งที่นิวยอร์ก และลอนดอน อีกทั้งยังมีเรือสำราญ และ “ครอบครัวอันวิเศษสุด” อีกด้วย

ถามว่า เขาต่อต้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง หรือไม่ นายกัวบอกว่า “ผมคิดว่าสีจิ้นผิงเป็นผู้นำที่มีความเป็นมนุษย์ที่สุดของจีน ผมอยากให้เขาปรับระบบการปกครองของจีนให้เหมือนแบบสิงคโปร์โดยมีหลักนิติธรรม”

นายกัวอ้างว่า เขานับถือศาสนาพุทธ และต้องการจะทำตัวให้มีเมตตาต่อคนอื่น “และผมต้องการจะล้มล้างระบบอันชั่วร้ายของจีนวันนี้”

ในบ้าน ณ นครนิวยอร์กของเขา มีภาพนายกัวกับทะไล ลามะ (ศัตรูสำคัญของรัฐบาลจีน) และรูปถ่ายสนิทสนมกับนายสตีฟ แบนนอน ที่เคยเป็นที่ปรึกษาสำคัญของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

เป็นการตอกย้ำว่านายกัวพร้อมจะหักกับผู้นำจีนเพื่อ สร้างความเปลี่ยนแปลงในจีนครั้งใหญ่

เขาอ้างว่ารัฐบาลจีนได้ส่งสายลับมากดดันเขา “แต่ผมไม่กลัว เพราะผมมีหลักฐานการฉ้อฉลของคนใหญ่คนโตในจีนเป็นร้อยชั่วโมง พวกเขาทำอะไรผมไม่ได้หรอก”

ผู้นำจีนที่ปักกิ่ง จะเอาอย่างไรกับกัวเหวินกุ้ย เป็นหัวข้อร้อนแรงที่สุดเรื่องหนึ่งในความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐวันนี้