ปริศนาอาวุธ เครือข่าย “โกตี๋”
พลันที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เดินทางไปแถลงข่าวที่เมืองแปดริ้ว กรณีพบอาวุธสงครามล็อตใหญ่ถูกแอบเอามาซุกซ่อนอยู่กลางทุ่งนา
คำว่า “เครือข่ายโกตี๋” เกี่ยวพันกับอาวุธสงครามที่พบในทุ่งนา จึงหลุดออกมาจากปาก “นายตำรวจใหญ่”
เนื่องจากอาวุธบางชนิดตรงกับที่เคยตรวจพบในจุดชุมนุมของกลุ่มวิทยุเสื้อแดงและบ้านของโกตี๋ ที่ลำลูกกา ปทุมธานี
เครือข่ายโกตี๋ หมายถึงกลุ่มวิทยุชุมชนคนเสื้อแดง ที่เคยตั้งสถานีวิทยุอยู่ในกรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี และสมุทรปราการ ซึ่งเจ้าของสถานีวิทยุแต่ละแห่ง จะตั้งตัวเป็น “แกนนำย่อย” และมีหลายสถานีที่ขึ้นตรงต่อ “โกตี๋”
หลังรัฐประหาร 2557 แกนนำวิทยุชุมชนสีแดงได้หนีไปอยู่กัมพูชา และลาว บางคนถูกจับติดคุก บางคนถูกเรียกตัวเข้าค่ายทหาร
นัยว่า พวกที่ถูกเรียกเข้าค่ายทหาร มักจะกลายเป็น “สายข่าว” ของทหาร ซึ่งบรรดาแกนนำแดงที่หลบภัยในประเทศเพื่อนบ้านหวาดระแวง และไม่อยากให้คนพวกนี้มาติดต่อ
ระหว่างปี 2559-2560 “โกตี๋” ปักหลักอยู่ สปป.ลาว และปลุกระดมผ่านช่องยูทูบ เรียกร้องให้คนเสื้อแดงรวมตัวกันใหม่ และดำเนินการต่อต้านรัฐบาล คสช.ทุกรูปแบบ
โกตี๋ ร่วมกับมิตรสหายอีก 7 คน จัดตั้งองค์กรสหพันธ์รัฐไท และเปิดการขอรับบริจาคเงินทองจากแม่ยกพ่อยก ปรากฏว่า มีเงินทองหลั่งไหลผ่านบัญชีโกตี๋ มากกว่า 20 ล้านบาท
คืนวันที่ 29 ก.ค.2560 ชายชุดดำบุกเข้าจับตัวโกตี๋ ที่บ้านพักในนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว พร้อมกับนำตัวเขาไปสังหารทิ้งที่ดอนทรายกลางแม่น้ำโขง
อีกสองวันต่อมา หน่วยกู้ภัยเวียงจันทน์ได้พบศพชายนิรนามลอยมาติดชายฝั่ง ตำรวจลาวได้นำศพโกตี๋ไปเผาโดยไม่มีการสอบสวนสืบสวนต่อแต่อย่างใด
หลังจากโกตี๋ตาย กลุ่มสหพันธ์รัฐไทเกิดความขัดแย้งแตกคอกันเอง แบ่งเป็น 2 ก๊กคือ ก๊กชูชีพ ชีวสุทธิ์ (ลุงสนามหลวง) กับก๊กไฟเย็น (ขุนทอง-แยม ไฟเย็น)
คนเหล่านี้ยังจัดรายการวิทยุใต้ดิน โจมตีสถาบันเบื้องสูงและรัฐบาล คสช. โดยต่างงัดกลยุทธ์ขอรับบริจาคเงินจากพ่อยกแม่ยกเหมือนเดิม แต่คราวนี้เงินไม่ได้ไหลมาโครมครามเหมือนสมัยโกตี๋ยังมีชีวิตอยู่
ว่ากันว่า สมาชิกสหพันธรัฐไทที่เหลืออยู่ ไม่มีศักยภาพพอที่จะเป็นผู้นำกลุ่มฮาร์ดคอร์ นอกเสียจากมีใครบางคนแอบไปจัดตั้งพวกลูกน้องโกตี๋ ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในกัมพูชา
ฉะนั้น อาวุธสงครามที่พบกลางทุ่งเมืองแปดริ้ว บ่งบอกชัดเจนว่า สงครามยังไม่จบ!