ยิ่งกว่าเขมรแดง

ยิ่งกว่าเขมรแดง

ไม่ได้เหนือความคาดหมาย เมื่อศาลสูงกัมพูชา ได้มีคำพิพากษาให้ยุบ “พรรคกู้ชาติกัมพูชา” (ซีเอ็นอาร์พี)

จากความผิดคบคิดสหรัฐฯ และกลุ่มคนในต่างประเทศวางแผนก่อปฏิวัติ ตามที่รัฐบาลเป็นโจทก์ยื่นฟ้องกล่าวหาพรรคฝ่ายค้านพยายามยึดอำนาจรัฐบาล

นอกพรรคถูกยุบแล้ว สมาชิกพรรคซีเอ็นอาร์พี 118 คน ยังถูกห้ามเล่นการเมือง 5 ปี

คำตัดสินยุบพรรคซีเอ็นอาร์พี ส่งผลให้ ส.ส. 55 คน และสมาชิกสภาท้องถิ่น 489 คน พ้นจากตำแหน่ง

เท่ากับว่า การเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในกลางปี 2561 พรรคประชาชนกัมพูชา (พรรคซีพีพี) ลงสนามเลือกตั้งเพียงพรรคเดียว แม้จะมีพรรคคู่แข่งก็เป็นพรรคขนาดเล็ก

ขณะนี้ สม รังสี อดีตหัวหน้าพรรคซีเอ็นอาร์พี และแกนนำพรรคบางส่วน อยู่ในประเทศฝรั่งเศส ส่วนเข็ม สกคา หัวหน้าพรรคฯ อยู่ในเรือนจำ หลังถูกจับกุมในข้อหาคิดคดทรยศชาติ

ในกัมพูชายามนี้ สมเด็จฮุน เซน คุมกองทัพไว้เบ็ดเสร็จ แต่สิ่งเขาวิตกกังวลคือ เสียงประชาชนที่ไม่สามารถคุมได้ หากปล่อยให้มีการเลือกตั้งโดยเสรี โอกาสที่พรรคฝ่ายค้านจะกำชัยก็มีสูง

ฉะนั้น สมเด็จฮุน เซนจึงตัดไฟเสียแต่ต้นลม ด้วยการสร้างเรื่องทำลายฝ่ายค้านให้สิ้นซากก่อนการเลือกตั้ง โดยไม่สนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากต่างชาติ

อีกด้านหนึ่ง สมเด็จฮุน เซน รู้ดีว่า แกนนำพรรคซีเอ็นอาร์พี ส่วนใหญ่เติบโตอยู่ในต่างประเทศ พวกเขาเป็นชาวเขมรลี้ภัยสงคราม ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐ, แคนาดา, ออสเตรเลีย และฝรั่งเศส คนเหล่านี้ไม่ได้คลุกคลีกับคนรากหญ้าเขมรเท่ากับอดีตนักปฏิวัติอย่างกลุ่มฮุน เซน และสหาย

ดังนั้น แกนนำพรรคซีเอ็นอาร์พี จึงไม่เสี่ยงที่จะเล่น สงครามท้องถนนและเลือกที่จะเดินทางออกจากกัมพูชาไปพำนักอยู่ในต่างแดนแทน

ไม่ว่าใครจะวิจารณ์ว่า “ศาลสูงกัมพูชาตอกตะปูปิดฝาโลงประชาธิปไตยกัมพูชา” หรือ “อวสานประชาธิปไตยกัมพูชา”

แต่สมเด็จฮุน เซน กำลังรื้อฟื้น “ประชาธิปไตยรวมศูนย์” ที่พรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา (เขมรแดง) เคยปกครองเขมรเมื่อ 40 ปีที่แล้ว

นี่คือ ประชาธิปไตยที่มีลักษณะเฉพาะ ที่ไม่เหมือนใครในโลก!