เงินบาป ภาษีบุญ
ในสัปดาห์นี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)จะมีการพิจารณากฎหมาย 2 ฉบับ
000 ฉบับแรก “ร่างพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....” ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยกฎหมายฉบับนี้ โดยมีสาระอยู่ที่การจัดเก็บ 2% จากภาษีสรรพสามิต เพื่อนำส่ง “กองทุนผู้สูงอายุ”
000 คำอธิบายระบุว่าปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ รัฐจึงมีนโยบายและมาตรการในการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย แต่เนื่องจากกองทุนผู้สูงอายุที่มีอยู่เดิมมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำเนินการ จึงต้องหาเงินบำรุงมาจากส่วนอื่น ซึ่งก็ตกมาที่ภาษีบาป หรือภาษีสรรพสามิต นั่นเอง
000เรียกว่าล้วงง่ายสบายมือที่สุดแล้ว
000 ส่วนกฎหมายฉบับที่ 2 คือ “ร่างพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....” ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้วเช่นกัน โดยกฎหมายฉบับนี้มีเนื้อหาสาระ เพื่อเป็นการกำหนดขอบเขตของนิยามคำว่า หนี้สาธารณะให้มีความชัดเจนมากขึ้น
000 แต่มีคนตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการเปิดทางให้ “ธนาคารแห่งประเทศไทย”สามารถกู้เงินเพื่อมาโปะสภาพคล่องของประเทศได้ โดยจะไม่ถือเป็นหนี้สาธารณะ
000 ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ผ่านแน่ๆ ทั้งสองฉบับ
000 ชั่วโมงนี้เรื่องร้อนคงหนีไม่พ้น เรื่องการปรับครม.ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แม้ก็ยังไม่เห็นชัดว่ารูปร่างหน้าตาจะเป็นเช่นไร แต่ฟังจากเสียงเรียกร้องของหลายฝ่ายก็พบว่า ว่า อยากให้เน้นเรื่องการแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจปากท้อง ที่กำลังย่ำแย่ ข้าวยากหมากแพง ทุกหย่อมหญ้า ขออย่าเพิ่งเวียนเก้าอี้ เอาบรรดาเพื่อนๆน้องๆพี่ๆ มานั่งรัฐมนตรีเพื่อตอบแทน อยากให้คำนึงเรื่องประเทศชาติ
000 นอกจากนี้เรื่องปลดล็อกพรรคการเมืองก็กำลังทำให้ “พรรค” ก้นร้อนได้ เพราะทุกวันนี้มีแต่เสียงอ้อนวอน ให้ผู้มีอำนาจปลดล็อกเสียที เพราะหากชักช้าอาจไม่ทันการณ์เพราะกฎหมายพรรคการเมืองล็อกเรื่องเวลาว่าอะไรต้องภายในเมื่อไหร่เอาไว้
000 ส่วนเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่นก็ต้องจับตาว่า จะเป่านกหวีดสตาร์ตเมื่อไหร่ ว่ากันว่าผู้มีอำนาจอยากจะหยั่งเสียง สนามเล็กก่อน เพราะสนามเล็กคือฐานเสียงของสนามใหญ่ หากคุมสนามเล็กได้ สนามใหญ่ก็น่าจะพอไหว...
โดย... หมึกพิษ