จับตา...ทรัมป์มาเอเชีย โสมแดงจะ ‘รับน้อง’ อย่างไร?

จับตา...ทรัมป์มาเอเชีย โสมแดงจะ ‘รับน้อง’ อย่างไร?

ช่วงนี้ต้องจับตาดูว่าเกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธลูกใหม่เพื่อ “ต้อนรับ” ท่านประธานาธิบดีสหรัฐที่มาเยือนเอเชียหรือเปล่า

แม้ว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา “คิมน้อย” จะไม่ได้ส่งเสียงคำรามข่มขู่ทำเนียบขาว แต่อาการของเปียงยางก็ยังเข้มข้นไม่น้อย

ล่าสุด แถลงการณ์ของเกาหลีเหนือบอกว่ามาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติต่อเปียงยางเป็นเรื่อง โหดเหี้ยม เท่ากับเป็นการจงใจจะ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ คนเกาหลีเหนือทั้งประเทศ

จับตา...ทรัมป์มาเอเชีย โสมแดงจะ ‘รับน้อง’ อย่างไร?

ในช่วงจังหวะที่โดนัลด์ ทรัมป์มาเยือนเอเชีย ก็มีการออกข่าวกรองเหมือนหนังนักสืบออกมาเรื่องหนึ่ง

ข่าวนั้นบอกว่าเกาหลีเหนือได้แอบส่งสายลับ 7 คนไปเมืองจีนโดยมีภารกิจเพื่อสังหาร คิมฮันโซล ลูกชายคนหนึ่งของ คิมจองนัม

คิมจองนัมคือพี่ชายต่างมารดาของผู้นำเกาหลีเหนือคิมจองอึน

คิมจองนัมถูกลอบสังหารที่สนามบินนานาชาติที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาโดยฝีมือของสองสาวที่เชื่อว่าได้รับการว่าจ้างโดยหน่วยราชการลับของเกาหลีเหนือ

มีการกล่าวหาด้วยว่าคนที่สั่งให้ฆ่าคิมจองนัมนั้นก็คือคิมของอึน ผู้นำโสมแดงปัจจุบัน เหตุเพราะน้องคนนี้กลัวว่าพี่ชายต่างมารดาจะมาแทนตนหากแผนลับที่ต้องการจะกำจัดเขาสำเร็จ

เชื่อว่าคิมจองนัมเป็นคนที่ผู้ใหญ่ในประเทศจีนได้วางตัวเอาไว้เพื่อเป็นทายาททางการเมือง

เมื่อคิมจองอึนรู้เข้าจึงจำเป็นต้องจัดการ “เก็บ” พี่ชายต่างมารดาคนนี้เสีย

ข่าวกรองล่าสุดเป็นการต่อยอดจากเหตุการณ์อื้อฉาวเรื่องนี้ นั่นคือเกาหลีเหนือยังเดินหน้ากำจัดลูกของคิมจองนัมที่เข้าใจว่าอยู่ในเมืองจีน

หากเชื่อตามกระแสข่าวนี้ก็ต้องเข้าใจต่อว่าจีนเป็นคนดูแลลูกชายของคิมจองนัมคนนี้ และหากเกาหลีเหนือจะตามไล่ล่าเพื่อฆ่าทิ้ง ปักกิ่งก็จะต้องปกป้องเอาไว้

ข่าวกรองชิ้นเดียวกันนี้บอกว่า 2 ใน 7 สายลับเกาหลีเหนือที่ถูกส่งเข้าไปทำภารกิจลับนี้ถูกเจ้าหน้าที่จีนจับตัวเอาไว้ได้แล้ว

หากเรื่องนี้มีเค้าความเป็นจริงก็แสดงว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนเกาหลีเหนือกำลังอยู่ในสภาพที่เปราะบางพอสมควร เพราะความขัดแย้งไม่ได้โยงกับเรื่องจีนกดดันเกาหลีเหนือตามมาตรการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ แต่ยังเกี่ยวดองไปถึงเรื่องพี่น้องและลูกหลานตระกูลคิมที่กำลังฟาดฟันทำลายกันให้ตายไปข้างหนึ่งอีกด้วย

ทรัมป์ไปปักกิ่งครั้งนี้จะคุยกับสีจิ้นผิงว่าด้วย “ข่าวกรองราชการลับ” เรื่องนี้หรือไม่ไม่มีใครทราบ แต่ที่แน่ ๆ คือทรัมป์จะบอกกับผู้นำจีนให้ “ทำอะไรมากกว่านี้” ในประเด็นของการกดดันให้เกาหลีเหนือยอมถอย

สีจิ้นผิงได้พยายามบอกกับทรัมป์หลายครั้งหลายหนว่าปักกิ่งได้ทำตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงอย่างเคร่งครัดแล้ว ไม่สามารถจะทำอะไรได้มากกว่านี้เพราะการแก้ปัญหาวิกฤติคาบสมุทรเกาหลีนั้น จีนเห็นว่าไม่ได้อยู่ที่การกดดันเกาหลีเหนืออย่างเดียว หากแต่สหรัฐฯจะต้องพร้อมที่จะถอยคนละก้าวกับเปียงยางเช่นกัน

ข่าวอีกกระแสหนึ่งบอกว่าในจังหวะนี้ เกาหลีใต้ภายใต้การนำของประธานาธิบดีมูนแจ-อินจะประกาศมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือชุดใหม่อีกระลอกหนึ่ง แต่น่าจะเป็นการลงโทษโสมแดงในรูปแบบแสดงสัญลักษณ์มากกว่าที่จะหวังผลทางปฏิบัติเพื่อเอาใจทรัมป์

ผมไม่เชื่อว่าทรัมป์มาเอเชียครั้งนี้จะแก้วิกฤติคาบสมุทรเกาหลีได้แต่อย่างใด ตรงกันข้ามจะยิ่งทำให้บรรยากาศเครียดขึ้นอีก เพราะ คิมน้อยถือว่านี่เป็นการจงใจจะกดดันเขา ซึ่ง ๆ หน้าอีกรอบหนึ่งเท่านั้นเอง