คุ้นเคยจนหลงว่าเชี่ยวชาญ

คุ้นเคยจนหลงว่าเชี่ยวชาญ

เราใช้สมารท์โฟนกันแทบทุกคนในวันนี้ ใช้กันมากจนเกิดความคุ้นเคย เกิดความมั่นใจว่าตัวฉันเชี่ยวชาญการใช้งานสมารท์โฟน

 จนบางคนตั้งตนเป็นกูรูคอยแนะนำคนอื่นให้ทำอย่างนั้น อย่างนี้ ซึ่งพบเสมอว่าที่แนะนำไปนั้นถูกบ้างผิดบ้าง ดังนั้นต้องคอยเตือนตนเองไว้ก่อนว่าคุ้นเคยกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง กับเชี่ยวชาญในสิ่งนั้น ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน คุ้นเคยกับสมารท์โฟนเพราะใช้แบบเดิม ๆทุกวัน ไม่ได้แปลว่าเชี่ยวชาญคุ้นเคยแต่ไม่เชี่ยวชาญ จะใช้ประโยชน์สิ่งนั้นได้ไม่เต็มที่ สร้างนวัตกรรมจากความคุ้นเคยขึ้นมาไม่ได้ นวัตกรรมเกิดขึ้นได้จากความเชี่ยวชาญ ดังนั้นจะทำอะไรก็ตาม อย่าหลงอยู่แค่คุ้นเคย ที่เกิดขึ้นเพราะทำแบบเดิม ๆมานาน ความคุ้นเคยทำให้ไม่ใส่ใจว่าถ้าอะไรเปลี่ยนไปสักอย่างสองอย่าง การทำแบบเดิม ๆจะได้ผลดีเหมือนเดิมหรือไม่ แปลว่าทำได้เท่าที่เคยทำ ปรับเปลี่ยนไปทำอะไรที่แตกต่างกันไปไม่ได้ ซึ่งหมายถึงไม่สามารถขยับขึ้นจากระดับคุ้นเคยกับงานนั้น ขึ้นไปเป็นระดับทำงานด้วยความชำนาญได้ และก้าวสู่ระดับเชี่ยวชาญต่อไปในที่สุด

ในการทำงานในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นทุกวันนี้้ ผู้บริหารในทุกระดับต้องตัดสินใจแทบทุกวันที่ทำงาน ถ้าเป็นผู้บริหารที่แค่คุ้นเคยกับการตัดสินใจในการงานที่ตนเองดูแลอยู่ จะทำเพียงแค่เป็นประธานการประชุมประจำสัปดาห์ แล้วทำให้การประชุมนั้นมีการตัดสินเรื่องต่างๆ ตามที่กำหนดไว้ในวาระการประชุม ทำได้แค่ให้มีมติจากที่ประชุมนั้น มติจะดีไม่ดีบอกไม่ได้ มีมติไปแล้วการงานจะก้าวหน้าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกมากน้อยแค่ไหนไม่ทราบ ทราบเพียงแต่ว่ามีการลงมติในการประชุมตามที่กระทำกันมาอย่างคุ้นเคย เรื่องใดอยู่นอกวาระ จะสำคัญกับความอยู่รอดขององค์กรมากน้อยแค่ไหน ก็ไม่มีการตัดสินใจใด ๆ เพราะเป็นการตัดสินใจในเรื่องที่ไม่คุ้นเคย การตัดสินใจโดยผู้บริหารที่มีเพียงแค่ความคุ้นเคยจะไม่นำไปสู่นวัตกรรมใหม่ ๆ ทำแบบเดิมๆกันต่อไปตามที่คุ้นเคย ด้วยความหวังว่าเดินหน้าไปในทางเดิม ด้วยวิธีการเดิมๆจะนำไปสู่ปลายทางใหม่ที่ดีกว่าเดิมได้ ซึ่งไม่มีทางที่จะเป็นไปได้อย่างแน่นอน

ถ้าเป็นผู้บริหารที่ก้าวหน้าในการตัดสินใจขึ้นไปถึงระดับชำนาญ จะเลือกว่าเรื่องใด ในสถานการณ์ใด ต้องการวิธีการตัดสินใจแบบไหน จึงจะทำให้ได้ผลการตัดสินใจที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องนั้น ภายใต้บริบทในขณะนั้น การยกระดับจากทำงานด้วยความคุ้นเคย ที่ฝรั่งเรียกว่าFamiliarity ขึ้นไปสู่ระดับการทำงานอย่างชำนาญ หรือ Proficiency เกิดขึ้นได้จากการใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ที่สะสมมาจากการทำงาน ใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ได้เพราะรู้จักคัดเลือกว่าจะใช้วิธีการในการทำงานแบบใดจึงจะได้ผลดีภายใต้บริบทในขณะนั้น ถ้าชำนาญการใช้สมาร์ทโฟนจริง ต้องบอกได้ว่าจะใช้ทำอะไร ด้วยแอปอะไร ในสถานการณ์ใด ที่ทำให้ได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่แค่ใช้ทำอะไรตามที่เคยใช้มาเท่านั้น การใช้งานแบบคุ้นเคยทำให้ไอโฟนสิบ กับไอโฟนห้าไม่มีอะไรแตกต่างกัน นอกจากราคาเท่านั้น

จากความชำนาญในขั้นพื้นฐาน เรายังก้าวขึ้นไปสู่ความชำนาญในขั้นปานกลาง และขั้นสูงต่อไปได้อีก เช่นถ้าเป็นการตัดสินใจที่ใช้ความชำนาญในขั้นปานกลาง ต้องสามารถปรับเปลี่ยนขั้นตอนการตัดสินใจให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปได้ ถ้ามวลนำ้มหาศาลมาจ่อรออยู่ข้างหน้า ก็ต้องปรับขั้นตอนการตัดสินใจให้ทันรับมือมวลนำ้ที่จะทะลักลงมาได้ ไม่ใช่มัวแต่หาวิธีการปฏิบัติที่ดีในการตัดสินใจ หรือมัวแต่จัดวาระการประชุม แล้วรอเรียกประชุม เพื่อตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งถ้าตัดสินใจกันแบบคุ้นเคย หรือตัดสินใจแบบชำนาญการงานในระดับพื้นฐาน นำ้คงท่วมกันโดยทั่วหน้าไปเรียบร้อยแล้ว

ถ้าตัดสินใจอย่างเชี่ยวชาญ ก็ต้องสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ทันเวลา ภายใต้สถานการณ์วิกฤติต่าง ๆ โดยใช้ข้อมูลสารสนเทศที่มีอย่างจำกัด ซึ่งคงไม่ใช่การตัดสินใจตามขั้นตอนที่คุ้นเคยอย่างแน่นอน ต้องคิดสร้างสรรค์หาหนทางตัดสินใจในยามวิกฤติ โดยตัดสินใจอย่างมั่นใจว่าถูกต้อง และทันต่อสถานการณ์ แต่ไม่ใช่ตัดสินใจแบบนั่งเทียนนึกเอาเอง เป็นการตัดสินใจที่มีขั้นตอนที่เป็นระบบ มีการใช้ข้อมูลสารสนเทศ สนับสนุนการตัดสินใจในยามนั้น ในสถานการณ์วิกฤติส่วนใหญ่ การทำงานแบบที่คุ้นเคยกันมามักไม่ได้ผล เพราะวิกฤติส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการใช้วิธีการที่เคยทำอยู่นั่นแหละ ทำแบบที่คุ้นเคยในวันที่โลกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ย่อมนำไปสู่วิกฤติในวันหน้า ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง มีวิกฤติแล้วย่อมไม่สามารถทำงานแบบเดิมให้วิกฤติหายไปได้

อย่าปล่อยให้ความคุ้นเคยมาตีกรอบไม่ให้ท่านก้าวสู่ความเป็นผู้เชี่ยวชาญได้