ทำให้ดีที่สุดทุกวัน

ทำให้ดีที่สุดทุกวัน

ทำให้ดีที่สุดทุกวัน

ท่านที่ติดตามบทความของดิฉันมานาน คงพอจะทราบว่าดิฉันชอบดูกีฬา และกีฬาที่ชอบดูที่สุดคือเทนนิส ในกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา นักเทนนิสขวัญใจของดิฉัน ราฟาเอล นาดาล (ราฟา)ได้เข้าชิงชนะเลิศยูเอสโอเพ่น ซึ่งเป็นการแข่นขันแกรนด์สแลมรายการสุดท้ายของปีที่สหรัฐอเมริกา และได้ครองตำแหน่งชนะเลิศ ถือเป็นแชมป์แกรนด์สแลมที่ 16 ในชีวิตการเป็นนักกีฬาเทนนิสของเขา

ในรอบรองชนะเลิศ เมื่อราฟา สามารถเอาชนะ คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่าง ฮวน มาร์ติน เดลพอร์โต จากอาร์เจตินา ผู้ซึ่งเอาชนะมือวางอันดับต้นๆอย่าง โดมินิค ธีม และโรเจอร์ เฟดเดอร์เรอร์ มาได้ แม้ราฟาจะแพ้ไปก่อนในเซ็ตแรก แต่ก็กลับพลิกมาเอาชนะในอีกสามเซ็ทถัดมา พิธีกรได้ถามราฟาในสนามว่า การเอาชนะ ฮวน มาร์ติน เดลพอร์โต ยากมากหรือไม่

ราฟาไม่ได้ตอบว่า ยาก หรือไม่ยาก แต่ตอบว่า ผมทำให้ดีที่สุด ทุกวัน(I do my best everyday.)

คำพูดนี้ถูกใจดิฉันมาก นั่นคือคุณสมบัติของผู้เป็นแชมเปียนที่แท้จริง ต้องทำให้ดีที่สุด ทุกวัน ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร เราจะมีความพอใจที่เราได้ทำดีที่สุดแล้ว

ไม่ว่าจะเรียนหนังสือ ทำงาน แข่งกีฬา หรือใช้ชีวิตทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ หากเราได้ทำให้ดีที่สุด เราจะไม่ต้องมานั่งเสียใจในภายหลังว่า “ถ้ารู้อย่างนี้ จะตั้งใจให้มากกว่านี้” “จะพยายามให้มากกว่านี้” “จะอดทนให้มากกว่านี้” ฯลฯ

เมื่อสามเดือนก่อน ดิฉันได้ไปบรรยายให้กับน้องๆในที่ทำงานเก่าฟัง ในลักษณะคุยกันฉันท์พี่น้อง หัวข้อหนึ่งที่น้องๆกำหนดให้พูดคือ เคล็ดลับการประสบความสำเร็จในอาชีพ ซึ่งดิฉัน สรุปไว้ 7 ประการ คือ

มองโลกในแง่ดี ตั้งใจทำให้ดีที่สุด จะได้ไม่เสียใจในภายหลัง ไม่ยอมแพ้ ไม่ท้อถอยง่ายๆ ถ่อมสุภาพ ให้เกียรติผู้อื่น จงรักภักดีต่อนายจ้าง จริงใจและหวังดีต่อลูกค้า คู่ค้า หัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน และลูกน้อง และ ประการสุดท้ายคือ ไม่เบื่อที่จะเรียนรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ดิฉันจึงปลื้มมากที่ ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสขวัญใจของดิฉัน ใช้คติอย่างเดียวกันในการทำงานในอาชีพของเขา

เคล็ดลับสามประการแรก เป็นเคล็ดลับที่จะทำให้เราทำงานให้ประสบความสำเร็จ โดยมีความเกี่ยวเนื่องกันค่ะ การมองโลกในแง่ดี ทำให้เราไม่ห่อเหี่ยว ไม่ท้อถอย ช่วยให้เรามีกำลังใจ และเมื่อเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด ไม้ช้าก็เร็ว เราก็มีโอกาสในการประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะเมื่อเราไม่ยอมแพ้ ไม่ท้อถอยง่ายๆ

ในอีกสามประการถัดมา เป็นเคล็ดลับที่จะทำให้ได้งานมาทำ ทำงานให้ราบรื่น และสามารถทำงานเป็นทีมโดยอาศัยความเก่งในแต่ละด้านที่ไม่เหมือนกันของคนในทีม ซึ่งจะได้เปรียบกว่าการทำงานเดี่ยว

และประการสุดท้าย คือการไม่เบื่อที่จะเรียนรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดนั้น ทำให้เราทันสมัย สามารถเรียนรู้ และใช้ประโยชน์จากวิทยาการ หรือเทคโนโลยีใหม่ๆได้ เพราะฉะนั้น ต่อให้งานที่ต้องทำนั้นยากเย็นเพียงใด เราก็จะมีความพยายามหาวิธีทำให้ดีจนได้ค่ะ เพราะเรามีคุณสมบัติที่ดีอยู่ในตัวอยู่แล้ว

ถ้าปฏิบัติตามเคล็ดลับนี้ตลอดเวลา ความเป็นแชมเปียนของเราจะอยู่ไปได้นาน อย่างที่ดิฉันเคยเขียนไปแล้ว ส่วนใหญ่ที่สังเกต คนไทยจำนวนมาก เมื่อบรรลุเป้าหมาย จะดีใจ และจะฉลองความสำเร็จกัน จนบางครั้งไม่สามารถกลับไปสู้ต่อ เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ท้าทายยิ่งขึ้นในรอบต่อไปได้อีก ทำให้เราคงความเป็นแชมเปียนได้ไม่นาน

อย่าลืมนะคะ ต้องฮึดสู้จนกว่าจะลาจากสังเวียนค่ะ

อีกหนึ่งหัวข้อที่กำหนดให้พูดคือ ทำอย่างไรจะผ่านความท้าทายและความล้มเหลว

ดิฉันแนะนำเทคนิค 7 ประการเช่นกัน (ไม่ได้ตั้งใจให้จำนวนเท่ากับหัวข้อที่แล้ว) คือ

ให้ความสนใจในโอกาสที่ผ่านเข้ามา มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้พร้อมก่อนการตัดสินใจ เห็นปัญหาเป็นความท้าทาย ตั้งสติและใจเย็น แยกแยะ ความคิดเห็นออกจาก ข้อเท็จจริงวางแผน คิดทางเลือก ไว้หลายๆทาง วิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ความเสี่ยง เลือกแนวทางที่เหมาะสมที่สุด (ดีที่สุด หรือ แย่น้อยที่สุด) และประการสุดท้าย คือ เก็บข้อมูลบทเรียนความสำเร็จ หรือข้อผิดพลาด เอาไว้ถ่ายทอดต่อให้รุ่นหลัง

ในชีวิตของคนเราต้องเคยมีการพลาด หรือล้มเหลวบ้าง แต่ถ้าเราได้ทำดีที่สุดแล้ว เราก็ไม่ควรจะต้องเสียใจ หากเราไม่ได้ทำให้ดีที่สุด เราก็ใช้ประสบการณ์นั้นเป็นบทเรียนว่า หากทำครั้งต่อไป เราจะไม่พลาดอีก

ความรู้และประสบการณ์จากคนรุ่นก่อน จึงมีค่า มีความสำคัญ ซึ่งเราไม่ควรจะละเลยค่ะ แทนที่จะต้องพลาดและเจ็บด้วยตนเอง ก็รับฟังประสบการณ์จากผู้อื่น และเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่นแทน

เคล็ดลับใน 7 ประการแรก ก็จะสามารถนำมาใช้จัดการกับความผิดพลาดได้ด้วยค่ะ

ขอให้ท่านทำให้ดีที่สุดทุกวันค่ะ