ขาด1องค์ประกอบจัดตั้ง"นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร" ได้หรือไม่***
"คำถาม" ซึ่งมักได้ยินหรือสอบถามบ่อยครั้งจากทั้งสมาชิกผู้ซื้อที่ดินจัดสรร และผู้ประกอบการโครงการ ผู้จัดสรรที่ดิน
หรือผู้รับโอนใบอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน ได้แก่ เรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้
- 1. โครงการหมู่บ้านจัดสรรจะสามารถจดทะเบียน "นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร" ได้เมื่อใด ใช้เวลามากน้อยเพียงใด
- 2. โครงการหมู่บ้านจัดสรรจำนวนมากกว่า 1 เฟส (โครงการ) ใช้สาธารณูปโภค บริการสาธารณะร่วมกันทั้งถนนหลักเข้า ออกหมู่บ้าน สโมสร - คลับเฮ้าส์ เป็นต้น สามารถจดทะเบียน "นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร" ได้หรือไม่
- 3. ค่าบริการสาธารณะหรือ "ค่าส่วนกลาง" ที่ผู้จัดสรรที่ดิน หรือเจ้าของโครงการเรียกเก็บ กับผู้ซื้อมีไม่เพียงพอกับรายจ่ายที่เกิดขึ้นจากการให้บริการ เจ้าของโครงการหรือผู้จัดสรรที่ดินสามารถเรียกเก็บเพิ่มกับผู้ซื้อก่อนการจดทะเบียน "นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร" ได้หรือไม่
- 4. โครงการหมู่บ้านจัดสรรขาย และจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ซื้อนานมากแล้ว เหตุใด เจ้าของโครงการจึงไม่แจ้งผู้ซื้อร่วมกันจดทะเบียน "นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร"
- 5. การจัดทำสาธารณูปโภคตามแผนผังโครงการได้รับอนุญาตของผู้จัดสรรที่ดิน "แล้วเสร็จเพียงบางส่วน" สามารถจดทะเบียน "นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร" ได้หรือไม่
- 6. โครงการหมู่บ้านจัดสรรซึ่งได้รับใบอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดินตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 (กฎหมายจัดสรรที่ดินเก่า) ก่อนการบังคับใช้พระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน 2543 สามารถจดทะเบียน "นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร" ได้หรือไม่
- 7. เมื่อที่ประชุมมีมติด้วยคะแนนเสียงจำนวนน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของแปลงจำหน่ายทั้งหมด สามารถลงมติจดทะเบียน "นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร" ได้หรือไม่
- 8. ที่ดินแปลงจำหน่ายคงเหลือ จดทะเบียนในนาม ผู้จัดสรรที่ดิน สามารถออกเสียงลงคะแนนจดทะเบียน "นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร" ร่วมกับผู้ซื้อแปลงจำหน่ายได้หรือไม่
- 9. ผู้ประกอบการโครงการ ผู้จัดสรรที่ดินมีสิทธิ หรือสามารถทุบ หรือรื้อรั้วกำแพงโครงการ เพื่อการเข้า ออกหมู่บ้านจัดสรรในการพัฒนาที่ดินต่ออีกโครงการก่อนการจดทะเบียน "นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร" สามารถกระทำได้หรือไม่ และ
- 10. โครงการหมู่บ้านจัดสรรมีจำนวน 2 เฟส (2 ผังโครงการ 2 ใบอนุญาตฯ) มีพื้นที่ดินติดต่อกัน สามารถจดทะเบียน "นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร" แห่งเดียว (1 นิติบุคคล) ได้หรือไม่
"องค์ประกอบ" สำคัญ เพื่อการจดทะเบียน "นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร" ตามพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน 2543 และแก้ไข เพิ่มเติม 2559 ได้แก่ เรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้
- 1. เป็นโครงการซึ่งได้รับใบอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดิน (จ.ส.2) ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 และพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน 2543
- 2. สาธารณูปโภคตามแผนผังโครงการได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด อาทิ ถนน สวนสาธารณะ ช่องว่างระหว่างแปลง ระบบไฟฟ้า ประปา รั้วโครงการ ฯลฯ เป็นต้น ผู้จัดสรรที่ดิน ผู้รับโอนใบอนุญาตฯ จัดทำแล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมด 100% และคณะอนุกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัดได้ตรวจ และอนุญาตให้ยกเลิกหนังสือสัญญาค้ำประกันการจัดทำสาธารณูปโภคได้
- 3. ผู้จัดสรรที่ดิน ผู้รับโอนใบอนุญาตฯ ขายและจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจัดสรร แปลงย่อย แปลงจำหน่ายให้แก่ผู้ซื้อจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของแปลงจำหน่ายทั้งหมดตามแผนผังโครงการได้รับอนุญาต
- 4. ผู้จัดสรรที่ดิน ผู้รับโอนใบอนุญาตฯ จัดทำหนังสือสัญญาค้ำประกันการบำรุงรักษาสาธารณูปโภคมอบให้แก่คณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด นับแต่วันที่ได้รับอนุญาตให้ยกเลิกหนังสือสัญญาค้ำประกันการจัดทำสาธารณูปโภค และ
- 5. ผู้จัดสรรที่ดิน ผู้รับโอนใบอนุญาตฯ ดูแล บำรุงรักษาสาธารณูปโภคครบกำหนดระยะเวลาตามที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด (ระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี) และ
- 6. ผู้จัดสรรที่ดินได้รับหนังสือรับรองการตรวจสอบสภาพสาธารณูปโภคในบริเวณที่ดินจัดสรรจากคณะ (อนุ) กรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด
ดังนั้น โครงการจัดสรรที่ดินแห่งใดจะสามารถจดทะเบียนจัดตั้ง "นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร" ตามพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน 2543 โดยอาศัยกฎกระทรวงว่าด้วยการจดทะเบียน การบริหาร การควบ และยกเลิกนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร 2545 และระเบียบคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลางว่าด้วยการโอนสาธารณูปโภคให้แก่นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร หรือนิติบุคคลตามกฎหมายอื่นฯ 2559 จึงจำเป็นต้องมี หรือครบองค์ประกอบทั้ง 6 ข้อดังกล่าวข้างต้น "ขาดองค์ประกอบข้อหนึ่ง ข้อใด มิได้"
- 2. กรณีโครงการจัดสรรที่ดินที่มีพื้นที่ติดต่อกัน ใกล้เคียงกันจำนวนตั้งแต่ 2 นิติบุคคลที่ใช้สาธารณูปโภคหลักร่วมกัน อาทิ ถนนเข้า ออกโครงการร่วมกัน เมื่อโครงการได้รับการจดทะเบียน "นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร" หมายความว่าสาธารณูปโภคหลักตามแผนผังโครงการได้รับอนุญาตได้รับ การจดทะเบียนเป็นกรรมสิทธิ์ของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรตามข้อบังคับ และกฎหมาย ดังนั้น สาธารณูปโภคดังกล่าวจึงสามารถบริหารจัดการโดยนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรได้
- 3. ผู้จัดสรรที่ดินสามารถเรียกเก็บค่าบริการสาธารณะหรือ "ค่าส่วนกลาง" กับสมาชิกได้ ทั้งนี้ ต้องไม่ขัดต่อคำขอ และวิธีการจัดสรรที่ดินตามที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด หรือตามมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน 2543
- 4. เมื่อผู้จัดสรรที่ดิน ผู้รับโอนใบอนุญาตฯ ไม่แสดงความประสงค์เป็นหนังสือ เพื่อขอพ้นหน้าที่การบำรุงรักษาสาธารณูปโภคตามที่จัดทำขึ้น ตามมาตรา 44 ย่อมหมายความว่าผู้จัดสรรที่ดิน ผู้รับโอนใบอนุญาตฯ ยังคงมีหน้าที่ในการบำรุงรักษาสาธารณูปโภคต่อไป ตามมาตรา 43
- 9. รั้วโครงการถือเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณูปโภคตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน ตามมาตรา 23 (4) ผู้จัดสรรที่ดิน ผู้รับโอนใบอนุญาตฯ ไม่สามารถเจาะ ทุบ รื้อ ทำลายรั้วโครงการ เพื่อการเข้า ออกอีกโครงการก่อนได้รับการจดทะเบียน "นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร" และ
- 10. เมื่อโครงการจัดสรรที่ดินได้รับใบอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดิน (จ.ส.2) คนละใบ ฉบับ หรือมี 2 ใบอนุญาตฯ จำเป็นต้องจดทะเบียน "นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร" ตามใบอนุญาตฯ ที่ได้รับ อย่างไรก็ตาม เมื่อทั้งสองโครงการได้รับการจดทะเบียน "นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร" จำนวน 2 นิติบุคคล นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรทั้งสองแห่งสามารถจดทะเบียนควบนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรเป็นนิติบุคคลเดียวได้ โดยอาศัยกฎกระทรวงว่าด้วยการจดทะเบียน การบริหาร การควบ และยกเลิกนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร 2545 เป็นแนวทางดำเนินการเรื่องดังกล่าวต่อไปได้
////
โดย นายพิสิฐ ชูประสิทธิ์
นายกสมาคมนักบริหารอาคารชุด – หมู่บ้านจัดสรรไทย
ที่ปรึกษา ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำ
***
ชื่อคอลัมน์เดิม จากผู้เขียน:
ขาดองค์ประกอบข้อเดียว จัดตั้ง
"นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร" ได้หรือไม่!