การสร้าง Instagrammability

การสร้าง Instagrammability

เชื่อว่าท่านผู้อ่านคุ้นกับ Instagram ที่เป็นแอพลิเคชั่นชื่อดังและใช้กันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก

หลังจากที่ Instagram ประสบความสำเร็จและมีคนใช้แอพพลิเคชั่นตัวนี้มากกว่า 700 ล้านบัญชีทั่วโลก ก็เลยทำเกิดคำศัพท์ใหม่ รวมไปถึงกลยุทธ์ใหม่ทางธุรกิจ นั้นคือ Instagrammable และ Instagrammability

ถ้าแปลแบบตรงๆ ตัว ทั้ง Instagrammable และ Instagrammability ก็จะหมายถึงว่าเป็นรูปที่สามารถที่จะโพสต์ลงบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดังอย่าง Instagram ได้ (จริงๆ ไม่จำเป็นต้องลงแค่ Instagram เท่านั้น แต่สังคมออไลน์อื่นๆ อย่าง Facebook ก็ได้เช่นกัน) ในปัจจุบันองค์กรธุรกิจได้นำแนวคิดในเรื่องของ Instagrammable และ Instagrammability ไปใช้เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการตลาดในการดึงดูดลูกค้า รวมทั้งการเผยแพร่ชื่อเสียงของธุรกิจตนเองออกไปทางสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น

ปัจจุบันการออกแบบผลิตภัณฑ์​ หรือ การออกแบบสถานที่ หรือ การออกแบบกิจกรรมที่จะจัด จะเริ่มมีเรื่องของ Instagrammable / Instagrammability เข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น นั้นคือตัวผลิตภัณฑ์​ สถานที่ หรือ เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นนั้น จะมีความน่าสนใจและน่าดึงดูดเพียงพอให้คนอยากจะถ่ายรูปแบบโพสต์ลง Instagram (หรือ Facebook) หรือไม่? และเมื่อโพสต์แล้ว จะสามารถดึงดูดให้คนที่ได้เห็น อยากจะเข้ามาซื้อสินค้า หรือ ใช้บริการด้วยหรือไม่?

ตัวอย่างเช่นธุรกิจร้านอาหาร ที่ปัจจุบัน ก่อนที่จะเริ่มลงมือรับประทานอาหารได้นั้น เราจะต้องถ่ายรูปอาหารและนำรูปดังกล่าวโพสต์ลงในสังคมออนไลน์ ทำให้ปัจจุบันร้านอาหารหลายแห่งเริ่มออกแบบอาหารให้น่าดึงดูดและน่าถ่ายรูปโดยรสชาดอาจจะไม่อร่อยเหมือนรูปที่ถ่ายก็ได้ จนร้านอาหารหลายแห่งเริ่มให้ความสำคัญกับความน่าสนใจของอาหารมากกว่ารสชาดแล้ว

ตัวอย่างเช่น อาหารพวก Unicorn ซึ่งเป็นอาหารที่มีสีสันหลากหลายสี และสีสันสดใส (แต่รสชาดนั้นเป็นอีกประเด็น) อาหาร Unicorn ที่โด่งดังที่สุดคงหนีไม่พ้น Unicorn Frappuccino ของ Starbucks ที่ออกมาไม่นานมานี้ ซึ่งชาวอเมริกาจำนวนมากต่างเสาะแสวงหาซื้อเครื่องดื่มชนิดนี้มาเพื่อถ่ายรูปแล้วนำโชว์ลงบนสังคมออนไลน์ของตนเอง

อกเหนือจาก Unicorn Frappuccino แล้ว ก็ยังเห็นที่มีคนทำคือ Unicorn Lattes, Rainbow Bagel, Rainbow Grilled Cheese, Marshmallow Galaxy Doughnuts, Sugar Factory MilkShakes ซึ่งล้วนแล้วแต่มีสีสันสดใส ในประเทศไทยเองก็มีร้านอาหารแนว Unicorn ที่โด่งดังไปทั่วโลกเหมือนกัน โดยร้านนี้เน้นอาหารสีสันสดใสเหมาะแก่การถ่ายรูปขึ้นสังคมออนไลน์โดยเฉพาะ

นอกจากการทำให้อาหารน่าถูกถ่ายรูปแล้ว ร้านอาหารจำนวนก็เริ่มหันมาปรับปรุงและออกแบบร้านใหม่ เพื่อให้มีจุดที่น่าสนใจและเหมาะที่จะถ่ายรูปเพื่อโชว์ในสังคมออนไลน์เช่นเดียวกัน

อุตสาหกรรมอื่นที่เริ่มปรับตัวให้เข้ากับยุคของ Instagrammalbe นั้นก็ยังมีอีกเช่น อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ทั้งแหล่งท่องเที่ยวและโรงแรมที่พักต่างๆ และยิ่งสำหรับคนรุ่นใหม่แล้วปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการเลือกแหล่งท่องเที่ยวและที่พัก คือ Instagrammable ของสถานที่เหล่านั้น และการได้มีโอกาสถ่ายรูปที่สวยๆ และโพสต์ลงบนสังคมออไลน์อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเลือกแหล่งท่องเที่ยวและที่พักมากกว่าการได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของแหล่งที่เดินทางไป

ปัจจุบันการจัดกิจกรรมต่างๆ หรือ event ก็เริ่มมีแนวโน้มไปในทิศทางของ Instagrammability เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าต้องการดึงดูดคนรุ่นใหม่เข้ามาในงาน และให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้ได้แชร์ภาพของตนเองจากในงานออกสู่สังคมภายนอก

ดังนั้นประเด็นที่น่าคิดก็คือ สำหรับธุรกิจและบริการอื่นๆ นอกเหนือจากร้านอาหาร การท่องเที่ยว หรือ การจัดกิจกรรมแล้ว เราสามารถใช้ประโยชน์จากแนวคิดของ Instagrammability ได้หรือไม่? ซึ่งส่วนตัวแล้วคิดว่าได้ และยิ่งในยุคของการแชะ และ แชร์ ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเรามากขึ้นทุกขณะ คนเราจะไม่ทิ้งโอกาสในการได้ แชะ และ แชร์ ไปหรอกครับ เพียงแต่ธุรกิจจะต้องสร้างโอกาสและเกาะกุมโอกาสนั้นไว้ได้อย่างไร?