กิจการรับจ้างบริหารธุรกิจ :Sunshine Industryแห่ง ฟิลิปปินส์

กิจการรับจ้างบริหารธุรกิจ :Sunshine Industryแห่ง ฟิลิปปินส์

กิจการรับจ้างบริหารธุรกิจ (BPO) ถือเป็นธุรกิจดาวเด่นของประเทศฟิลิปปินส์ และสร้างรายได้ให้แก่ประเทศฟิลิปปินส์จำนวนมาก

โดยเริ่มเข้ามาในประเทศฟิลิปปินส์ช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 และขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่จำนวนหน่วยธุรกิจ แรงงาน และรายได้ ซึ่งเห็นได้จากรายได้ในธุรกิจ BPO มีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือคิดเป็นร้อยละ 2.9 ของ GDP) เป็น 15.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2013 ส่วนรายได้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปี 2016 คาดว่าสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นถึง 20-27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคิดเป็นสัดส่วน 7.8% ของ GDP และจากการประมาณการของ Business Process Association of the Philippines (IBPAP) คาดว่าจะขึ้นไปสูงถึง 40-55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2020

ทั้งนี้จากรายงาน2015 Top100Outsourcing Destinations: Rankings ซึ่งจัดอันดับเกี่ยวกับเมืองที่มีความโดดเด่น Outsourcing 100 อันดับแรกของโลก พบว่า เมืองในประเทศฟิลิปปินส์ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ได้แก่ เมืองมะนิลา (Manila) อยู่ในอันดับที่ 2 และเมืองเซบู (Cebu City) อยู่ในอันดับที่

นอกจากนี้ เมืองในประเทศฟิลิปปินส์ที่ติด 100 อันดับแรกมีหลายเมือง เช่น ได้แก่ Davao City (อันดับที่ 69) Metro Lagyna (อันดับที่ 82) Bacolod City (อันดับที่ 86) เป็นต้น ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันธุรกิจ BPO เป็นที่นิยมอย่างมากแก่บริษัทในต่างประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจ BPO ประเภทการให้บริการข้อมูลลูกค้าทางโทรศัพท์ (Call Center) ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่สามารถสร้างรายได้สำคัญให้แก่ประเทศฟิลิปปินส์ หรือคิดเป็นสัดส่วนการตลาดอยู่ที่ร้อยละ 54.8 ของรายได้จากธุรกิจ BPO ทั้งหมด รองลงมา คือ การพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Development) มีรายได้อยู่ที่ 3,429 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ร้อยละ19.4) ซึ่งประเทศสหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นตลาดส่งออกการให้บริการธุรกิจ BPO ที่สำคัญของประเทศฟิลิปปินส์[3]

  จากการเติบโตทางเศรษฐกิจของธุรกิจ BPO และแนวโน้มในการลงทุนจากต่างประเทศที่มีการขยายตัวมากขึ้น ส่งผลให้การจ้างงานในธุรกิจ BPO ในปี 2013 สูงขึ้นถึง 851,782 คน และมีอัตราการขยายตัวในภาคแรงงานคิดเป็นร้อยละ 10.6 และหากพิจารณาถึงกำลังแรงงานตามประเภทการให้บริการธุรกิจ BPO ในช่วงปี 2004-2013 พบว่า การให้บริการข้อมูลลูกค้าทางโทรศัพท์ (Call Center) ยังคงเป็นประเภทการจ้างงานที่สูงที่สุดในปี 2013 โดยอยู่ที่ร้อยละ 62.3 ของการจ้างงานประเภทการให้บริการธุรกิจ BPO ทั้งหมด

เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มการขยายตัวของธุรกิจ BPO พบว่า ธุรกิจ BPO ของประเทศฟิลิปปินส์มีแนวโน้มจะขยายตัวได้เพิ่มขึ้นกว่าประเทศอินเดีย เนื่องจากปัจจัยสนับสนุนหลายประการด้วยกัน ได้แก่

1) ประเทศฟิลิปปินส์มีแรงงานทักษะจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่มีคุณภาพและมีคุณสมบัติพร้อมที่จะเข้าทำงานในธุรกิจ BPO อีกทั้งแรงงานฟิลิปปินส์เป็นแรงงานที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้จำนวนมากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ทำให้ฟิลิปปินส์กลายเป็นศูนย์กลางในธุรกิจ BPO แห่งใหม่และสามารถแซงธุรกิจของอินเดียในแง่จำนวนพนักงานและมูลค่าได้สำเร็จ

2) แรงงานมีทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษและมีค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากอินเดีย แต่จุดแข็งของฟิลิปปินส์ คือ ความได้เปรียบทางด้านภาษาที่มีสำเนียงการใช้ภาษาอังกฤษที่ฟังได้ง่ายกว่าชาวอินเดีย ทำให้ฟิลิปปินส์กลายเป็นประเทศที่เป็นศูนย์กลางการให้บริการข้อมูลทางโทรศัพท์ (Call Center)

3) รัฐบาลฟิลิปปินส์มีนโยบายในการสนับสนุนธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นพิเศษ ซึ่งตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศฟิลิปปินส์ในปี ค.ศ. 2011-2012 กำหนดให้ธุรกิจ BPO ถือเป็นกิจการในลำดับต้น ๆ ที่รัฐให้การสนับสนุน รวมถึงการพัฒนาบุคลากรและการออกมาตรการสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจไปสู่เมืองต่าง ๆ

4) การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษประเภทเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ร้อยละ 64.6 ของเศรษฐกิจพิเศษทั้งหมด สิทธิประโยชน์ที่ได้จากการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ คือ การได้รับประโยชน์ทางภาษีและค่าธรรมเนียม เช่น การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลธรรมดาต่าง ๆ สิ่งนี้จึงเป็นปัจจัยเอื้ออำนวยและจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจ BPO มากยิ่งขึ้น

5) ต้นทุนการดำเนินการด้านสาธารณูปโภคในประเทศฟิลิปปินส์ต่ำกว่าหลายประเทศ ภาคเอกชนในต่างประเทศที่มีความประสงค์ออกไปลงทุนธุรกิจดังกล่าวนอกประเทศของตน จะพิจารณาถึงต้นทุนรวมกับกำไรที่ได้เป็นสำคัญ ข้อได้เปรียบของฟิลิปปินส์ นอกเหนือจากค่าแรงต่ำแล้ว พบว่าต้นทุนดำเนินการโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน อาทิ ค่าไฟฟ้า น้ำประปา ต่ำกว่าหลายประเทศ หรือแม้แต่การเปรียบเทียบต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงภายในประเทศ ปัจจัยนี้มีลักษณะเดียวกับธุรกิจทั่วไป

การขยายตัวของธุรกิจ BPO ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศฟิลิปปินส์เป็นอย่างมากซึ่งอาจจะใกล้เคียงกับเงินที่แรงงานฟิลิปปินส์ส่งกลับเข้ามาภายในประเทศ อีกทั้งยังช่วยชะลอสภาวะสมองไหลของแรงงานที่มีคุณภาพของธุรกิจให้มีส่วนร่วมในการสรรค์สร้างนวัตกรรมและการพัฒนาประเทศ หน่วยงานภาครัฐของประเทศฟิลิปปินส์จึงให้การส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจ BPO อย่างมาก เพราะเห็นว่าธุรกิจนี้ สามารถทดแทนการเดินทางไปทำงานต่างประเทศของแรงงานรุ่นใหม่ได้ในอนาคต และสามารถช่วยพัฒนาประเทศได้อย่างต่อเนื่อง

////////////

โดย ผศ.ดร.กมลพร สอนศรี

นักวิจัย ฝ่าย 1 สกว.

หัวหน้าภาควิชาสังคมศาสตร์ คณะส้งคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

*** ข้อมูลบางส่วนจากโครงการ “การสำรวจและศึกษาข้อมูลพื้นฐานของประเทศฟิลิปปินส์” สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)

*** ที่มา: Bangko Sentral ng Pilipinas, “Results of the 2013 survey of information technology business process outsourcing (it-bpo) service”,figure 5. exports of it-bpo services, by country of destination 2012-2013, Publish in http://www.bsp.gov.ph/ downloads/Publications/2013/ICT_2013.pdf result)