ปัจจัยที่ทำให้เกิดจลาจลที่เวอร์จิเนีย

ปัจจัยที่ทำให้เกิดจลาจลที่เวอร์จิเนีย

ผมอยู่ในรัฐเวอร์จิเนียมาเกือบ 40 ปี ได้เห็นเหตุการณ์มากมายในรัฐนี้ แต่ไม่มีเหตุการณ์ไหนที่ชี้ไปถึงก้นบึ้งของปัญหามากกว่าจลาจล

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ เมืองชาร์ลอตสวิลล์ ชนวนของจลาจลได้แก่รัฐบาลต้องการย้ายอนุสาวรีย์ของนายพลลีออกไปจากเมือง นายพลลีเป็นแม่ทัพลำดับหนึ่งของฝ่ายรัฐทางใต้ในสงครามเลิกทาสผิวดำของสหรัฐเมื่อกว่า 150 ปีมาแล้ว เวอร์จิเนียเป็นฝ่ายใต้ซึ่งไม่ต้องการเลิกทาส นายพลลีได้รับการยกย่องจากชาวเวอร์จิเนียมาตลอดแม้ฝ่ายใต้จะพ่ายแพ้สงครามก็ตาม

ในปัจจุบัน การแยกและเหยียดผิวโดยชนผิวชาวยังมีอยู่ทั่วไปโดยเฉพาะในรัฐทางใต้ เวอร์จิเนียอาจแยกได้เป็น 2 ส่วน ได้แก่ ทางเหนือสุดซึ่งอยู่ในเขตปริมณฑลของกรุงวอชิงตัน ส่วนนี้มีการแยกและเหยียดผิวต่ำเนื่องจากประชาชนมักมีการศึกษาสูง มีรายได้สูงและมีโอกาสคลุกคลีกับคนผิวอื่นสูง อีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นเนื้อที่ส่วนใหญ่ของรัฐเป็นชนบทเสียส่วนมาก ประชาชนส่วนใหญ่ในส่วนนี้เป็นชนผิวขาวที่มีการศึกษาต่ำกว่า รายได้ต่ำกว่าและโอกาสคลุกคลีกับคนผิวอื่นน้อยกว่าประชาชนทางเหนือ จำนวนมากยังมักแยกและเหยียดผิวโดยพฤตินัย

เมืองชาร์ลอตสวิลล์อยู่ทางตอนกลางของเวอร์จิเนีย เป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัยชั้นนำขนาดใหญ่ที่มีนักศึกษาและอาจารย์จากทั่วโลกจึงมีการแยกและเหยียดผิวต่ำ อย่างไรก็ตาม พวกเหยียดผิวยังมีอยู่บ้างในย่านนั้น เมื่อรัฐบาลต้องการย้ายอนุสาวรีย์ของนายพลลีออกไป พวกเขาจึงออกมาประท้วง ในการประท้วงครั้งนี้มีชนผิวขาวจำพวกแยกและเหยียดผิวจำนวนมากจากรัฐอื่นเข้าร่วม พวกนี้แสดงความกร่างอย่างเต็มที่ออกมาเพราะมั่นใจว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เป็นฝ่ายตน ความกร่างนั้นก่อให้เกิดจลาจลเมื่อพวกเขาถูกต่อต้านด้วยฝูงชนที่สนับสนุนการย้ายอนุสาวรีย์ หนึ่งในผู้เหยียดผิวขับรถยนต์ผ่าเข้าไปในฝ่ายต่อต้านทำให้สตรีคนหนึ่งเสียชีวิตและผู้ต่อต้านอีกนับโหลบาดเจ็บ ผู้ขับรถยนต์อายุเพียง 20 ปีและมาจากรัฐทางเหนือ นั่นแสดงให้เห็นว่าการแยกและเหยียดผิวยังมีอยู่ทั่วไปในรัฐทางเหลือรวมทั้งในเยาวชน ความจริงข้อนี้ชี้ให้เห็นว่าการแยกและเหยียดผิวโดยคนผิวขาวนั้นฝังลึกมากและจะยังมีต่อไปอีกนาน

จริงอยู่การแยกและเหยียดผิวดูจะเป็นปัจจัยเบื้องต้นที่นำไปสู่จลาจลดังกล่าว แต่ผมมองว่าต้นตอของปัญหาน่าจะลึกกว่านั้น มันเป็นปัจจัยที่คนอย่างนายทรัมป์ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี ผมมองว่าต้นตอของปัฐหามาจากการแย่งชิงทรัพยากรซึ่งตอนนี้มีไม่พอสำหรับเลี้ยงชาวโลก 7.5 พันล้านคนแล้ว ชาวโลกส่วนใหญ่ยังไม่มองเช่นนี้ จึงเดินตามก้นชาวอเมริกันซึ่งต่างคาดหวังว่าตนจะมีกินมีใช้เพิ่มขึ้นต่อไปอย่างต่อเนื่องแม้ส่วนใหญ่จะมีมากจนเหลือกินเหลือใช้เพื่อสนองความจำเป็นสำหรับดำรงชีวิตอยู่อย่างดีแล้วก็ตาม 

ความคาดหวังนี้ทำให้พวกมีการศึกษาต่ำขัดเคืองใจเมื่อรัฐบาลไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวสูงจนพวกเขาสามารถบริโภคเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง การขยายตัวเช่นนั้นทำไม่ได้เพราะเครื่องมือที่เคยใช้หมดยุคสมัยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการลดดอกเบี้ย หรือการทุ่มงบประมาณและเงินเข้าไปในระบบ ความขัดเคืองใจทำให้พวกเขาศรัทธานโยบายชาตินิยมผสมการเหยียดผิวของนายทรัมป์และโทษชนผิวอื่นว่าเป็นต้นเหตุของปัญหา การย้ายอนุสาวรีย์ของนายพลลีให้โอกาสพวกเขาแสดงความขัดเคืองใจออกมาอีกครั้ง

ผู้อ่านคอลัมน์นี้คงทราบแล้วว่า จุดยืนของผมคือ โลกไม่สามารถจะแก้ปัญหาด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวในอัตราสูงเพื่อเอื้อให้ทุกคนบริโภคเพิ่มขึ้นต่อไปได้อีกแล้วเนื่องจากทรัพยากรมีไม่พอ โลกจะแก้ปัญหาได้ด้วยการลดการบริโภคของผู้ที่บริโภคเกินความจำเป็นพร้อมกับลดจำนวนของผู้บริโภคลงเท่านั้น การพยายามทำอย่างอื่นรังแต่จะกระตุ้นให้ปัญหาร้ายแรงยิ่งขึ้น ยิ่งหากการพยายามนั้นนำไปสู่ความฉ้อฉลและเอื้อให้คนรวยฉกชิงทรัพยากรได้เพิ่มขึ้นอีก ความหายนะจะยิ่งมาเยือนเร็วขึ้นแม้จะอ้าง (แบบบิดเบือน) ว่าทำตามศาสตร์พระราชาก็ตาม