ภารกิจสปท. ก่อนวัน'หมดอายุ'

 หลังมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งบรรดากรรมาธิการ อนุกรรมาธิการชุดต่างๆ ก็จะตกงานไปพร้อมกันด้วย หลายคนจึงต้องเร่งขยับขยายเดินหน้าภารกิจใหม่ อย่างเช่น 23 สปท. ที่ลาออกไปเตรียมตัวลงสู่สนามการเมือง มีทั้งที่กลับไปปักหลักที่“พรรคเดิม” และมีทั้งที่ไปจัดตั้งพรรคใหม่ด้วยเป้าหมายที่ยังคลุมเครือ

000 ขณะที่“หลายคน”ก็พยายามสร้างผลงาน สร้างภาพ เพื่อหวังให้เข้าตาเผื่อว่าจะได้มีอะไรทำต่อเนื่อง หรือบางคนก็ต้องเร่งทำภารกิจในขณะที่ยังคงมี“หัวโขน” เพื่อให้บรรลุสิ่งที่ต้องการ หรือเป็นไปตามที่ตกปากรับคำ“ใคร”เอาไว้

000 ในจำนวนอดีตสปท.ที่กำลังจะหมดบทบาทนี้ยังมี ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ในฐานะรองประธานอนุกรรมการตรวจสอบกลไกการป้องกันการทุจริต ที่ใช้บทบาทนี้ตรวจสอบ“คิงพาวเวอร์”มาตลอด อย่างเช่นกรณีล่าสุดที่มีการฟ้องผู้บริหาร เจ้าหน้าที่การท่าฯ 18 คน ต่อศาลอาญาคดีทุจริต

000 ที่ยังไม่รู้ว่าศาลจะรับฟ้องหรือไม่ คงต้องรอการพิจารณาเพราะต้องมีการไต่สวนว่าผู้ฟ้องมีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับเรื่องที่กล่าวหา และเรื่องที่ว่านั้นมีมูลความจริงหรือไม่

000 เรื่องนี้ถูกตั้งข้อสังเกตุว่าข้อหาที่มีการฟ้องร้องกลับไม่พบว่ามีเรื่องการทำผิด พ.ร.บ.ร่วมทุน ทั้งที่เป็นประเด็นที่ ชาญชัย พูดถึงมาตลอด เรื่องนี้เมื่อถูกซักไซ้ไล่เรียงก็ตอบเเบบเลี่ยงๆ ว่าเก็บไว้ฟ้องทีหลัง

000 อีกทั้งการเสนอรายชื่อพยานมากมายถึง 85 คน รวมทั้งจะเรียกนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาให้การด้วย ก็อดที่จะถูกมองไม่ได้ว่าเป็นความพยายามสร้างข่าวให้เป็นฮือฮา แต่คงต้องตอบศาลให้ได้ว่าทั้ง 85 คนนี้ เรียกมาเป็นพยานในเรื่องไหน เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ 

000 รวมทั้งการตีปี๊ป สร้างภาพใหญ่ ก็จะถูกตั้งคำถามเอาได้เช่นกันว่าทำให้“ใคร”ดู? 

000 หลายคนเวลาถูกเรียกออกใบสั่ง มักมีคำถามว่าข้อหาที่เจ้าหน้าที่แจ้งมีอยู่ในกฎหมายจริงหรือไม่ หรือบางคน“หัวหมอ”ก็ยืนเถียงกับเจ้าหน้าที่ แต่ตอไปนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะมีการสอบวัดความรู้ตำรวจราจร ทั้งข้อกฎหมาย ความรู้ทั่วไป ความประพฤติ โดยก่อนที่จะจัดอบรมเพื่อเป็นการปูพื้นฐาน ตั้งแต่ระดับรองสารวัตรลงมาจึงชั้นประทวนไม่มียกเว้น...ต่อไปประชาชนคงมั่นใจได้มากขึ้น และพวกหัวหมอก็คงไม่ต้องอวดเบ่งกันอีก !!!

..........................................

อัชชาวดี [email protected]