Finland..ประเทศเล็กที่ยิ่งใหญ่ กับโอกาสของ SMEs ไทย

Finland..ประเทศเล็กที่ยิ่งใหญ่  กับโอกาสของ SMEs ไทย

ในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ1990 โนเกีย เมืองเล็ก ๆ ในประเทศฟินแลนด์ เป็นที่ตั้งของบริษัทโนเกีย ที่ปฏิวัติอุตสาหกรรมมือถือของโลก

ด้วยการผลิตโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย ซึ่งเป็นสินค้ายี่ห้อแรกของฟินแลนด์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก มีสัดส่วนแบ่งการตลาดถึง40 %ของตลาดโลก มีส่วนการขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของฟินแลนด์ถึง25%ระหว่างปี พ.ศ.2541-2540 กลายเป็นความมหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจ ที่เกิดขึ้นกับประเทศเล็ก ๆ ที่มีประชากรเพียง 5.4 คน

หลังจากนั้นอีกเพียง10ปี บริษัทแอปเปิ้ล ได้เปิดตัวไอโฟน ทำให้ความเป็นผู้นำในตลาดมือถือของโนเกียตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของฟินแลนด์ จนทำให้เศรษฐกิจฟินแลนด์เข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำให้อัตราการว่างงานสูงถึง14-15 %จนบริษัทโนเกียประกาศขายกิจการให้กับบริษัทไมโครซอฟของสหรัฐอเมริกาเมื่อ ก.ย.2556

ฟินแลนด์เป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีชั้นสูง เป็นต้นกำเนิดและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมโทรคมนาคม พลังงานทางเลือก ปุ๋ย ยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์กระดาษ 

จุดแข็งของฟินแลนด์ คือ การมีวิศวกรประสบการณ์สูงอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งทางการฟินแลนด์ตั้งความหวังว่าจะมีธุรกิจสตาร์ทอัพเพิ่มขึ้น รวมทั้งกลุ่มบริษัทเกมส์ที่นำโดย Supercell และ Rovio ผู้คิดค้นเกมส์ยอดฮิตอันดับ1ของโลก Angry Bird จะช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมไอทีของฟินแลนด์กลับมาคึกคักอีกครั้ง เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในยุโรป ฟินแลนด์ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้นตามลำดับ ที่ตั้งของฟินแลนด์อยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ทำให้การลงทุนของฟินแลนด์มีความโดดเด่นเนื่องจากเป็นประตูสู่กลุ่มประเทศบอลติก ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพในยุโรป เป็นจุดเชื่อมระหว่างนอร์ดิกซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง

ผมมีโอกาสได้เดินทางไปฟินแลนด์เมื่อปลายเดือนที่แล้ว มีโอกาสได้พบปะกับชาวไทยที่ทำธุรกิจในเมืองเฮลซิงกิ เมืองหลวงของฟินแลนด์ มีข้อมูลที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้ประกอบการSMEsไทย ในการแสวงหาโอกาสทำธุรกิจกับการค้าระหว่าง อาเซียน-ฟินแลนด์ ปัจจุบันมีมูลค่าเกือบ2,000ล้านเหรียญสหรัฐ โดยฟินแลนด์ส่งออกไปอาเชียนเกือบ1,500ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีสิงคโปร์ เป็นคู่ค้าอันดับ1รองลงมาคือไทย มาเลเซียและอินโดนีเซีย 

แต่เมื่อพิจารณาในแง่ของการนำเข้าฟินแลนด์นำเข้าสินค้าจากไทยเป็นอันดับแรกเกือบ200ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากผู้บริโภคฟินแลนด์มีความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าอิเลคทรอนิกส์ และงานฝีมือ และสินค้าไทยที่กำลังได้รับความนิยมมากคือ สินค้าเกษตรอินทรีย์และผลิตภัณฑ์สุขภาพจากไทย เนื่องจากที่ตั้งของประเทศอยู่ทางยุโรปตอนเหนือซึ่งมีอากาศหนาวเย็นปกคลุมตลอดทั้งปีผลิตผักและผลไม้อบแห้งในปริมาณที่น้อย สินค้าผักและผลไม้อบแห้งจึงยังต้องการพึ่งพาการนำเข้า ได้แก่ ลูกเกด ลูกพรุน มันฝรั่ง หัวหอมใหญ่ ถั่วและเห็ด 

โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้แห้งถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มอาหาร/ของว่างเพื่อสุขภาพ (healthy snack) ที่ชาวฟินแลนด์นิยมรับประทานผสมถั่วเป็นอาหารว่าง จึงเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ประกอบการSMEsที่จะส่งสินค้าประเภทผักและผลไม้ไปเจาะตลาดได้ นอกจากนี้อาหารทะเลกระป๋อง ผลไม้กระป๋อง ของใช้ในครัวเรือน เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ภัตตาคาร สปาและนวดแผนโบราณไทย เครื่องนุ่งห่ม ของขวัญ ของชำร่วยจากประเทศไทยก็กำลังได้รับความนิยมมาก

สำหรับประเทศฟินแลนด์ เป็นคู่ค้าอันดับที่55ของไทย และเป็นอันดับที่13ในกลุ่มสหภาพยุโรป ในปี พ.ศ.2559ที่ผ่านมาการค้ารวมไทย-ฟินแลนด์ มีมูลค่า516.29ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไทยส่งออกไปฟินแลนด์มีมูลค่า174.2ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งไทยเสียเปรียบดุลการค้า167.9ล้านเหรียญสหรัฐฯ

โอกาสทางการตลาดที่จะส่งสินค้าไปฟินแลนด์ยังมีอีกมาก อย่าพลาดติดตามตอนต่อไปนะครับ..