สังคมไทยสมัยหน้าภายใต้กำมือคนจีน

สังคมไทยสมัยหน้าภายใต้กำมือคนจีน

ภายใต้กระแสการเคลื่อนย้ายถิ่นครั้งใหญ่ ของคนต่างชาติเข้าสู่ไทย จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม

ด้านประชากรครั้งใหญ่ในอีกไม่กี่ปีนับจากนี้ กลุ่มที่เข้ามาอยู่อาศัยกึ่งถาวรมากที่สุด และจะก้าวขึ้นมายึดครองเศรษฐกิจส่วนบนของสังคมไทยคือคนจีน ซึ่งมีทุกอย่างที่ต่างจากคนจีนที่ข้ามทะเล มาพึ่งพระบรมโพธิสมภารสมัยร้อยปีก่อน ตั้งแต่ความคิด แรงสนับสนุน ไปจนถึงวิธีการ สิ่งที่คนไทยต้องเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ เพราะมันเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ หนทางที่น่าจะไหวที่สุด คือการเตรียมความพร้อมในการจัดการอย่างเหมาะสม ด้วยพื้นฐานของความเข้าใจคนจีน จำกัดการเอื้อประโยชน์ที่มากเกินไป อาศัยจุดแข็งของเราในการหลอมรวม และควบคุมลักษณาการชาตินิยมให้อยู่ในความพอดี

สังคมไทยแต่ไหนแต่ไรมามีลักษณะเปิดกว้าง ส่งผลให้หน่วยงานราชการและประชาชนเปิดกว้างตามทั้งใจและการไม่กวดขัน เอื้อต่อการที่ชาวต่างชาติจะเข้ามาอยู่ในประเทศเป็นอย่างมาก การที่เรากล้าทำเช่นนี้อาจเพราะถือดีในลักษณะเด่นของเรา ว่าท้ายสุดคนนอกจะต้องหลอมรวมเข้าสู่ความเป็นไทย รักชาติไทยกว่าชาติใด ลูกหลานของเขาก็ด้วย แต่โลกสมัยใหม่ เรื่องของสำนึกคนต่างชาติซับซ้อนกว่านั้น โดยเฉพาะคนจีนรุ่นใหม่ที่พยายามตั้งถิ่นฐานถาวรในไทย

คนจีนรุ่นเก่าที่เข้ามาหลอมรวมจนกลายเป็นคนไทยไปแล้วนั้น มีความต่างจากคนจีนที่พยายามเข้ามารอบใหม่เยอะมาก ดูเผิน ๆ น่าจะมีความคล้ายคลึงกันเพียงแค่อย่างเดียวคือ พยายามแต่งงานกับคนไทยเพื่อให้ได้สิทธิอยู่ในประเทศนี้ คนจีนรุ่นเก่าเป็นมักเป็นพวกมาจากตอนใต้ชายทะเล ยากจนและโดนกดขี่ เข้ามาเมืองไทยเพื่อหวังตั้งตัว ยึดเมืองไทยเป็นเมืองตาย พวกเขาไม่รักรัฐบาลจีน แต่ในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพาพวกเขาก็ช่วยคนเชื้อสายเดียวกันในแผ่นดินใหญ่ต่อต้านญี่ปุ่น เพราะสำนึกในเลือดจีน คนจีนรุ่นเก่าหลอมรวมตนเองเข้าอย่างสมบูรณ์ด้วยการเข้ากันได้กับคนไทยในทุกระดับ พวกเขารักความเป็นไทย สำนึกในบุญคุณไทย และพร้อมจะตายเพื่อประเทศนี้ที่เขารัก ลูกหลานของพวกเขาไม่เพียงแต่ถีบตนเองขึ้นกุมเศรษฐกิจของประเทศ แต่แทบทุกมิติของประเทศนี้มีคนเชื้อสายจีนเป็นผู้นำ ซึ่งคนเชื้อสายอื่นของไทยก็ไม่คัดค้าน เพราะมีโลกทัศน์ว่าพวกเขาคือคนไทยเช่นเดียวกับตน ประเทศจึงไม่มีความแตกแยกเรื่องเชื้อชาติ การเดียดฉันท์คนจีนครั้งสุดท้ายย้อนไปถึงสมัยอั้งยี่กร่างเมืองโน่น

แต่คนจีนยุคใหม่ที่เข้ามาเมืองไทยนั้นมาจากทั่วประเทศจีน เข้ามาพร้อมกับความร่ำรวยที่พวกเขามีอยู่ในยามนี้ พวกเขาปราศจากจิตสำนึกไทย แต่มีความฝันแบบจีน (China Dream)เต็มเปี่ยม สอดคล้องกับการส่งเสริมอย่างหนักของรัฐบาลจีนที่ใช้หลักประชากรศาสตร์เข้ามาเป็นกลไกผลักดันคนจีนออกไปตั้งถิ่นฐานและเป็นผู้ประกอบการเองในประเทศต่าง ๆ ด้วยพลังอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจที่บีบให้ประเทศเจ้าถิ่นต้องยอมตามทั้งทางตรงและทางลับ คนจีนแผ่นดินใหญ่จึงค่อย ๆ ซื้อที่อยู่อาศัยเต็มเมืองไทย บางส่วนแย่งชิงธุรกิจแล้วจัดการค้าขายกับประเทศแม่เอง โดยตัดคนไทยออกไป เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เมืองจีนไม่ใช่เมืองไทย พวกที่เข้ามาทำงานในระดับแรงงานสมองก็มีไม่น้อย คนเหล่านี้ไม่มีอะไรยุดโยงกับวัฒนธรรมไทย นอกจากอาจชอบเมืองไทยในระดับหนึ่งอยู่บ้าง แต่เบียดบังทรัพยากรไทยและโอกาสของคนไทยไปแล้ว หากปล่อยให้ภาวะนี้เกิดเรื่อยไป คนมาใหม่ที่ต่างวัฒนธรรมนี้อาจสร้างความไม่พอใจกับเจ้าถิ่นที่เสียประโยชน์จนเกิดความขัดแย้งทางสังคมถึงขั้นร้าวฉานในยุคหน้า

เมื่อเข้าใจแล้วว่าคนจีนรุ่นใหม่เป็นคนละพวกกับคนไทยเชื้อสายจีนที่เป็นเนื้อเดียวกันกับเราในปัจจุบัน เราจึงควรจัดการกับพวกเขาในวิธีการที่เหมาะสม การที่รอให้เบ้าหลอมทางสังคมเซ็ตตัวไปเองนั้นดูจะเป็นเรื่องยาก เพราะสภาพแวดล้อมตลอดจนเนื้อในรายละเอียดนั้นแตกต่างจากอดีต สิ่งแรกที่ควรทำคือหยุดยั้งการเอื้อประโยชน์ให้คนจีนหรือกิจการจีนอย่างน่าเกลียดเอาไว้ก่อน มิฉะนั้นไม่เพียงแต่คนจีนจะกินรวบเพื่อเมืองจีนแล้ว ยังจะปลุกกระแสเกลียดชังคนจีนขึ้นในสังคมไทยด้วย อย่าวิตกว่ากลัวตกขบวนรับทานเงินจีน เพราะถ้ากฏเกณฑ์ที่ยุติธรรมเกิดขึ้น ทุกฝ่ายจะปรับตัวจนรับสถานการณ์ได้

คนจีนและทุนจีนใหม่จะค่อย ๆ ถูกหลอมให้เข้าระบบไทยโดยไม่กลายเป็นสิ่งแปลกปลอมที่มาเพื่อล้มระบบเดิมเพื่อเปลี่ยนให้เป็นระบบจีน

จุดแข็งที่สังคมไทยจะนำมาใช้กับคนจีนต้องนำโดยรัฐ นอกเหนือจากที่ชุมชนว่ากันไปเอง คนที่จะเข้ามาใหม่ไม่ใช่มีแต่เงินและอิทธิพล พวกเขาจะต้องถูกต้อนเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้วัฒนธรรมไทยอย่างเป็นระบบ เช่น มีเงื่อนไขต้องรู้ภาษาไทย มีส่วนร่วมในการทำงานเพื่อสังคม ปลูกฝังประวัติศาสตร์รากเหง้าไทย และมีการทดสอบอยู่เนือง ๆ คนเหล่านี้ต่อไปจะเป็นไทยหรือไม่ไม่จำเป็น แต่สำนึกที่จะทำประโยชน์ให้แก่ไทยจะต้องกลายเป็นสันดาน

ความพยายามจะอยู่ร่วมกับคนจีนผู้มาใหม่บนแผ่นดินไทยสมัยหน้านั้นอาจไม่ราบรื่นนักเมื่อกระแสชาตินิยมถูกปลุกขึ้นมาเพราะเจ้าถิ่นพิจารณาว่าตนถูกเอาเปรียบบนแผ่นดินเกิดของตนเอง กระแสนี้ต้องถูกควบคุมให้พอดีและบิดผันให้กลายเป็นพลังทางบวกถีบทะยานให้คนไทยรุ่นใหม่พัฒนาตนเองในทุกด้าน ไม่ใช่รอทะเลาะ สังคมไทยในทศวรรษหน้าจะไม่มีวันเหมือนเดิม แต่คนไทยจะอยู่รอดกันได้ก็ด้วยความยุติธรรมที่ได้รับจากรัฐ การประนีประนอมถ้อยทีถ้อยอาศัยจากคนต่างเชื้อชาติผู้มาใหม่ และความเก่งของตนเองในการปรับตัว เท่านั้น