Fire of London

ที่เมืองแมนเชสเตอร์เมื่อ 22 พฤษภาคม จนมีผู้เสียชีวิตหลายสิบและบาดเจ็บกว่าร้อย อีก 12 วันต่อมา เกิดเหตุร้ายที่สะพานลอนดอนซ้ำอีก มีผู้เสียชีวิต 10 รายและบาดเจ็บกว่าครึ่งร้อย

วันที่ 8 มิถุนายนมีเลือกตั้งใหญ่ โพลชี้ว่าพรรครัฐบาลของเทเรซ่า เมย์จะชนะ บ้างว่าชนะถล่มทลาย บ้างว่าชนะนิดหน่อย แต่โหราศาสตร์กลับมองตรงข้าม ผู้เขียนทำนายว่า “เมื่อผูกดวงวันเลือกตั้ง ปรากฏว่าเนปจูนกุมทศมลัคน์และพลูโตเล็งลัคน์พอดี ผลเลือกตั้งจะนำมาซึ่งความสับสนและขัดแย้งหนักในทางการเมือง อนาคตของ Brexit และอังกฤษ จะเผชิญความไม่แน่นอนอีกครั้ง”  (อ่าน London Attack ที่  http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/641531)

ผลคือพรรครัฐบาลได้สส.ไม่ถึงครึ่ง ไม่อาจตั้งรัฐบาลพรรคเดียว แต่ต้องจับมือกับพรรคเล็ก อันนำมาซึ่งความไร้เสถียรภาพทางการเมืองและความไม่แน่นอนของเบร็กซิท อังกฤษไม่เพียงเผชิญปัญหาก่อการร้ายที่หนักหนาสาหัส การเมืองที่ดี ๆ ก็พลิกกลับเป็นแย่ไปด้วย

แต่เรื่องร้ายยังไม่หมด เมื่อเวลา 1:16 น.ของวันที่ 14 มิถุนายน เกิดเหตุเพลิงไหม้อพาร์ตเมนท์เกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ทางตอนเหนือของลอนดอน ตึกนี้สูง 27 ชั้น มีห้องพัก 120 ห้อง ผู้อยู่อาศัย 600 คน ต้นเพลิงเกิดที่ชั้น 2 ก่อนจะลุกลามไปทั่ว เพลิงเผาทำลายตึกอย่างหนัก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 58 รายและบาดเจ็บอีกหลายสิบ นับเป็นโศกนาฏกรรมใหญ่อีกครั้ง

วันที่ 15 มิถุนายนเกิดปรากฏการณ์ดวงดาวสำคัญ (1) เสาร์เพ็ญที่ 0:24 องศาธนู มันมีอิทธิพล +/- 3 วัน เสาร์สัมพันธ์กับอัคคีภัย  (2) เนปจูนวิกลคติพักรที่ 20:10 องศากุมภ์ มันมีอิทธิพล +/- 7 วัน เนปจูนคือน้ำมันและวัตถุไวไฟ ทั้งคู่ชี้ถึงโอกาสเกิดอัคคีภัยใหญ่ ทำไมเกิดที่ลอนดอน ? ก็ต้องดูที่ดวงสงกรานต์กัน

ดวงสงกรานต์อังกฤษ 2017 มีลัคนาตุลย์ที่ 18:25 องศา วันที่ 26 พฤษภาคม เกิดอมาวสีที่ 10:41 องศาพฤษภ ทำมุม 90 กับราหูเดิม ในวันเกิดเหตุ ราหูจรสิงห์ 90 กับอังคารเดิมในภพมรณะ เสาร์จรธนู 150 กับอังคารเดิมซ้ำด้วย เสาร์จรยัง 90 กับศุกร์เดิมดาวเจ้าเรือนมรณะ ศุกร์จรเมษเล็งลัคน์ เนปจูนจรกุมภ์ 120 ลัคน์ มฤตยูจรเมษ 45 กับจุดศูนย์กลางภพมรณะ 

มรณะคือเภทภัยและความสูญเสีย อังคารจรเมถุน 45 กับราหูจรและ 150 กับจันทร์เดิม อังคารราหูคือเพลิงไหม้ จันทร์คือบ้านที่พักอาศัย ราหูจร 120 กับเสาร์เดิม เสาร์คือสิ่งปลูกสร้างที่เก่า อพาร์ตเมนท์เกรนเฟลล์ที่สร้างมาแล้ว 43 ปีจึงตกเป็นเหยื่อของอัคคีภัยครั้งใหญ่

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เสาร์จรธนูแล้วเกิดอัคคีภัยใหญ่ ย้อนหลังไปเมื่อ 351 ปีก่อน ลอนดอนก็เกิดมหาอัคคีภัย (Great Fire of London) ขึ้นเช่นกัน เพลิงได้เผาพื้นที่ภายในกำแพงเมืองเก่าย่านใจกลางลอนดอน 4 วัน 3 คืน ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 12 – บ่ายวันที่ 15 กันยายน 1666 (ปฏิทินเกร็กกอร์เรียน) บ้านเรือน 13,200 หลัง โบสถ์ 87 แห่ง บริษัท 44 แห่ง โบสถ์เซนต์พอล กรมศุลกากรและและอาคารราชการจำนวนมาก ฯลฯ ถูกเพลิงเผาทำลาย ประชากรกว่า 70,000 คนไร้ที่อยู่อาศัย ความเสียหายมากกว่า 1,000 ล้านปอนด์ (เทียบปี 2005)

ลอนดอนในทศวรรษ 1660 คือเมืองใหญ่ที่สุดของอังกฤษ มีประชากรกว่าครึ่งล้าน บ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นไม้และวัสดุติดไฟ ที่สำคัญคือไม่มีการจัดผังเมือง เขตกำแพงเมืองเก่าที่ป้องกันพวกโรมันในอดีต กลายเป็นสลัมของคนจนและผู้อพยพ พื้นที่แค่ 1.1 ตารางไมล์กลับมีผู้คนอยู่อาศัยกว่า 80,000 หรือ 1 ใน 6 ของประชากรทั้งหมด

ภาวะแห้งแล้งตั้งแต่พฤศจิกายน 1665 ทำให้อาคารบ้านเรือนกรอบและพร้อมติดไฟ หลังเที่ยงคืนวันอาทิตย์ที่ 12 เกิดไฟไหม้ที่ร้านเบเกอรี่และเริ่มลุกลาม ช่วงบ่ายไฟโหมจากลมแรง เพลิงลุกลามหนักและขยายพื้นที่ไปทั่ว วันอังคารที่ 14 คือวันที่เพลิงเผาโบสถ์เซนต์พอลและรุนแรงที่สุด ช่วงเย็นลมเริ่มอ่อนแรง เพลิงสงบในบ่ายวันพุธ เหลือไว้แต่ความสูญเสียมหาศาล เสียงร่ำไห้ และคราบน้ำตา

ปี 1664 – 1666 เป็นปีพิเศษทางโหราศาสตร์ เพราะมีคราสเกิดขึ้นมากกว่าปกติ โดยปกติคราสเกิดปีละ 4 ครั้ง อาทิตย์ 2 จันทร์ 2 แต่ปี 1664 มีคราส 5 ครั้ง อาทิตย์ 3 จันทร์ 2 ปี 1665 ก็มีคราส 5 ครั้ง อาทิตย์ 2 จันทร์ 3 และปี 1666 มีคราสเกิดขึ้นถึง 6 ครั้ง อาทิตย์ 3 จันทร์ 3 คราสที่เกิดขึ้นมากผิดปกติติดต่อกันหลายปี ชี้ถึงโอกาสเกิดเภทภัยอันตรายที่สูงมาก

สุริยคราสรุนแรงกว่าจันทรคราส ลอนดอนเกิดภัยพิบัติร้ายแรง ดังนั้น สุริยคราสต้องกระทบถูกจุดสำคัญในดวงเมืองอังกฤษ เมื่อใช้ดวงวันราชาภิเษกของกษัตริย์วิลเลี่ยม ลัคนาอยู่เมษที่ 11:26 องศา เราพบว่า มีสุริยคราส 3 ครั้งที่กระทบดวงเมือง คือ (1) สรรพคราส 12 กรกฎาคม 1665 ที่ 1:27 องศากรกฎ เล็ง 180 กับอาทิตย์เดิม (2) คราส 5 มกราคม 1666 ที่ 26:14 องศาธนู ทับอาทิตย์และทศมลัคน์ (3) คราส 2 กรกฎาคม 1666 ที่ 21:15 องศาเมถุน เล็งมฤตยูและ 90 กับจันทร์เดิม

สรรพคราส 12 กรกฎาคม 1665 คือสัญญาณเตือนภัย สุริยคราสมีอิทธิพล (อย่างน้อย) 1 ปี ผ่านไป 6 เดือน สุริยคราส 5 มกราคม 1666 เล็งสรรพคราสซ้ำอีก กระตุ้นและเพิ่มพลังด้านลบของมัน สุริยคราส 5 มกราคมนี้สำคัญมาก เพราะจุดคราสกุมเสาร์เนปจูนสนิท กลายเป็น “เสาร์เนปจูนดับร่วมคราส” ทั้ง 3 ทับอาทิตย์และทศมลัคน์สนิท เสาร์คืออัคคีภัย เนปจูนคือทำลายล้าง ชี้ชัดถึงอัคคีภัยครั้งใหญ่ ยังมีสุริยคราส 2 กรกฎาคม 1666 ที่ทำมุม 90 กับจันทร์มีน จันทร์คือบ้านเรือนประชาชน มีนคือธาตุน้ำ เหตุเกิดในพื้นที่ติดน้ำ

ตั้งแต่ 9 มิถุนายน พฤหัส-เสาร์-ราหู-พลูโตเข้ารูป T-square ในราศีธนู-มีน-เมถุน ต้นกันยายน เสาร์ถอยทับจุดคราส เสาร์วิกลคติเสริด 18 กันยายน มันมีอิทธิพล +/- 7 วัน วันที่ 10 อังคารดาวเจ้าเรือนลัคน์ยกเข้าพิจิก-ภพมรณะและ 90 กับมฤตยู หลังเที่ยงคืนวันที่ 12 อาทิตย์ยกเข้ากันย์-ภพอริ กลายเป็น Grand Cross ไฟเริ่มไหม้เวลานั้นพอดี

กงล้อประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเสมอ มนุษย์ควรเรียนรู้จากประวัติศาสตร์