มองข้าม shot FED ขึ้นดอกเบี้ย และมาลงทุนหุ้นไทย

มองข้าม shot FED ขึ้นดอกเบี้ย และมาลงทุนหุ้นไทย

จังหวะนี้มองข้าม shot FED ขึ้นดอกเบี้ยไปได้แล้ว และมาลงทุนหุ้นไทยกันดีกว่า

ในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า ราคาสินทรัพย์ในตลาดการเงินสะท้อนให้เราได้เห็นว่าอารมณ์มนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน และคาดเอาได้ยากเสียจริงๆ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนหลัง OPEC ประกาศยืดเวลาที่จะลดกำลังการผลิต เหตุการณ์ดังกล่าวแทนที่ราคาน้ำมันจะดีดตัวขึ้น ดันกลับสร้างความกังวลให้กับตลาดว่าจะไปการลดกำลังผลิตนั้นจะไปกระตุ้นให้ผู้ผลิตรายอื่นอย่าง shale oil เหยียบคันเร่ง ผลิตน้ำมันออกมามากกว่าที่ควรจะเป็นหรือไม่? หรืออย่างที่ Moody ประกาศลด Rating ฮ่องกง แทนที่ราคาหุ้นในตลาดจะดิ่งลง แต่กลับไม่! จริงอยู่ว่าบางครั้งเหตุการณ์เหล่านี้ก็มีอิทธิพลต่อตลาดการเงิน แต่หลายครั้งความคาดหวังต่อเหตุการณ์เหล่านี้ก็ถูกสะท้อนเข้าไปในราคาสินทรัพย์ที่อยู่ในตลาดก่อนจะเหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงจะเกิดขึ้นจริงเสียอีก ทำให้หลายครั้งเวลาที่ผมเลือกจะลงทุนอะไร ผมมักจะมองข้ามผลลัพธ์ของเหตุการณ์ที่กำลังเป็นที่สนใจของตลาด และกลับมามองที่พื้นฐานของสิ่งที่จะเข้าไปลงทุนมากกว่าครับ

สำหรับระยะนี้สินทรัพย์หนึ่งที่ผมมองว่าสามารถเข้าสะสมเพิ่มได้นั่นก็คือหุ้นไทยครับ เพราะถ้าพูดถึงพื้นฐานของตลาดหุ้นและเศรษฐกิจไทยแล้ว แม้ไม่เป็นที่ต้องตาต้องใจของต่างชาติอย่างเวียดนาม หรือพม่า แต่ก็ไม่ได้ถือว่าแย่ ทำเลที่ตั้ง (location) ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สามารถเชื่อมดินแดน CLMV เข้าด้วยกันของเรายังคงเป็นจุดเด่นที่สำคัญ และการที่เราได้แรงสนับสนุนจากรัฐบาลผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเสริมจุดแข็งนั้นก็ทำให้อนาคตของไทยดูสดใสขึ้น ประกอบกับการเอกชนเองส่วนใหญ่ตื่นตัวที่จะพยายามเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา ทั้งการใช้โอกาสที่เกิดจากกานรวมกลุ่ม ASEAN ในการขยายฐานการผลิตไปยังประเทศค่าแรงถูกกว่า เพื่อลดต้นทุน สร้างจุดขายให้ผลิตภัณฑ์ การเพิ่มช่องทางกระจายสินค้า รวมถึงขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศ ทำให้ผมเชื่อว่าในระยะยาวแล้ว บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยนั้นยังมีศักยภาพในการทำธุรกิจอีกมาก ในขณะเดียวกันแนวโน้มเศรษฐกิจระยะสั้นถึงแม้ยังไม่ดีมาก แต่ก็ดูดีขึ้น จากอานิสงค์ของเศรษฐกิจโลกที่พื้นตัว รายได้เกษตรกรที่เพิ่มขึ้นนั้นและการท่องเที่ยวที่ยังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่ราคาหุ้นไทยนั้นถึงแม้จะไม่ถูกนัก แต่ก็ไม่ถือว่าแพงจนน่าตกใจเหมือนในหลายๆประเทศ มิหนำซ้ำการที่นักลงทุนในตลาดไม่ได้ให้ความคาดหวังกับตลาดหุ้นไทยมากจนเกินไปก็มีช่วยลดความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในตลาดด้วย อย่างในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยนับเป็นตลาดที่ผันผวนน้อยเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยด้วยซ้ำ ดังนั้น ด้วยปัจจัยพื้นฐานยังอยู่ในเกณฑ์ดีราคาที่ไม่ถือว่าแพงเกินไป และความคาดหวังที่ไม่สูงจนน่ากลัว ทำให้ผมมีมุมมองเชิงบวกกับการลงทุนในหุ้นไทยอยู่พอสมควร แต่ก็ไม่คิดว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นแรงๆได้ในช่วงนี้ เพราะยังไม่มีปัจจัยเร่งที่ชัดเจน เพียงแต่มองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการทยอยสะสมเพิ่มของนักลงทุนระยะยาวครับ

สำหรับกองทุนหุ้นไทยที่ผมค่อนข้างชอบและมักแนะนำนักลงทุนให้สะสมในช่วงนี้ก็คือกองทุน T-lowbeta ของ บลจ. ธนชาติ ซึ่งจะค่อนข้างเน้นลงทุนในหุ้นที่มีความผันผวนค่อนข้างต่ำ เน้นใช้กลยุทธ์การวิเคราะห์เลือกหุ้นแบบ Bottom-up เพื่อให้ได้หุ้นที่พื้นฐานดี ลงทุนในจังหวะที่ราคาไม่แพงเกินไป ทำให้ที่ผ่านมากองทุนนี้จึงเป็นกองทุนที่มีผลตอบแทนดีเป็นอันดับต้นๆ และความผันผวนที่ต่ำอยู่เสมอครับ

ก็จบไปแล้วนะครับสำหรับกลยุทธ์ในการลงทุนด้วยการมองข้าม Shot ขึ้นดอกเบี้ย FED ของทาง Phillip Fund Supermart ของเราหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนที่กำลังกล้าๆกลัวๆ และกำลังตัดสินใจว่าควรจะลงทุนอย่างไรให้เข้าธีมการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ดี? ตามที่ idol of the idols อย่าง Warren Buffet เคยกล่าวไว้ครับว่า “What's hot today isn't likely to be hot tomorrow. The stock market reverts to fundamental returns over the long run. Don't follow the herd” ถ้าจะลงทุนให้ประสบความสำเร็จ แทนที่จะวิ่งตามข่าว ผมว่าควรกลับมามองที่พื้นฐานดีกว่านะครับ โชคดีในการลงทุน สวัสดีครับ