ความสุขของ เจ.เอช. อุตสาหกรรม (1)

ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมาเล่าถึงจุดเริ่มต้นและความสำเร็จในการนำแนวคิด Happy Work Place เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความสุขในองค์กร ซึ่งตลอด 10 ปี ที่ได้ริเริ่มแนวคิดนี้ ตั้งแต่ปี 2552 พิสูจน์แล้วว่า หากผู้บริหารองค์กรเข้าใจแนวคิดการสร้างสุขในองค์กรอย่างแท้จริง มีการส่งเสริม สนับสนุนต่อเนื่อง โดยไม่มองเป็นเพียงกิจกรรม แต่ได้ผสานเป็นกลยุทธ์องค์กร กลยุทธ์ธุรกิจ และเข้าไปถึงภายในจิตใจของพนักงาน นอกจากจะทำให้บรรยากาศในที่ทำงานมีความสุขแล้ว ยังส่งผลดีต่อธุรกิจ และสามารถวัดผลเป็นรูปธรรมได้ ฉบับนี้ชวนไปติดตามช่วงแรกของการนำแนวคิดสร้างสุขในองค์กร เข้าไปใช้ในบริษัท เจ เอช อุตสาหกรรมกันค่ะ

สำหรับจุดเริ่มต้นในการนำแนวคิด Happy Work Place เข้าสู่องค์กร ของบริษัท เจ เอช อุตสาหกรรมก็อาจจะคล้ายๆกับหลายองค์กร คือ เพื่อลดความขัดแย้งภายในของพนักงาน“พนักงานในแต่ละแผนกจะมีปัญหาขัดแย้งกันอยู่ โดยเฉพาะในฝ่ายผลิตและฝ่ายการตลาด ฝ่ายการผลิตก็ต้องการผลิตตามคิว แต่ในส่วนพนักงานขายนั้นก็อยากจะเอาใจลูกค้า เวลาลูกค้าขอแทรกคิวก็จะมีปัญหาขัดแย้งเกิดขึ้น ซึ่งฝ่ายผลิตก็มักจะไม่ตามใจฝ่ายขาย ฝ่ายตลาด เพราะจะต้องปรับแผนการผลิตใหม่ทั้งระบบ หลายครั้งฝ่ายผลิตให้คำตอบเพียงว่า “ทำไม่ทัน ช่วยบอกลูกค้าด้วย” ซึ่งดูเหมือนง่าย แต่ฝ่ายขายต้องลำบากใจ โดนลูกค้าดุเพราะลูกค้าก็ไม่พอใจ นานวันเข้าก็เกิดบรรยากาศทำงานด้วยกันแต่ไม่คุยกัน จึงคิดหาวิธีให้สองแผนกนี้ไปด้วยกันให้ได้ เพราะถ้ายังเป็นอย่างนี้ ธุรกิจเราไปไม่รอดแน่นอน”

อย่างไรก็ตาม หลังจากเริ่มจัดให้กิจกรรมสร้างสุขร่วมกัน และเป็นกิจกรรรมที่พนักงานเรียกร้อง เช่น ใส่บาตรด้วยกันทุกเช้า ดร. วิภาภรณ์พบว่า กิจกรรมไม่ใช่คำตอบ เพราะนานวันไป กิจกรรมที่ทำร่วมกันและสนุก มีความสุขในช่วงแรก ได้กลายเป็นภาระ เป็นความทุกข์ใหม่ขณะที่หลายคนเริ่มเกี่ยงกันเข้าร่วมกิจกรรม

“เราพบว่าจริงๆ แล้ว แนวคิด Happy Work Place เป็นมากกว่ากิจกรรม แต่หากเป็นการสร้างบรรยากาศในการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข จึงพบว่าถ้าพนักงานมีสติในการทำงานมีสติในการใคร่ครวญ สิ่งที่เกิดขึ้น ยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เขาจะสามารถที่จะปรับเปลี่ยนปัญหา คลี่คลายปัญหา หรือ เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส ได้ เราจึงตัดสินใจทำในเรื่อง Mindfulness in organization มีการจัดกระบวนการต่างๆ เพื่อฝึกให้พนักงานมีสติ มีการทำสมาธิเป็นพื้นฐาน ให้จิตใจพนักงานมีความเบิกบานอยู่เสมอ”

อย่างไรก็ตามในการเรื่องนี้ ซึ่งจะต้องให้พนักงานมีเวลาในการทำสมาธิก่อนทำงานอย่างน้อย 5 นาที นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย 

“ถ้าเรานำโครงการพัฒนาสติพนักงานเข้าสู่องค์กร เราต้องทำเรื่องนี้เป็นเหมือนกลยุทธ์ของธุรกิจเลย คือตอบโจทย์ผู้บริหารให้ได้ว่า ทำแล้วได้อะไร ยอดขายเพิ่มไหม Productivity สูงขึ้นไหม เราจึงกำหนดตั้งแต่วิสัยทัศน์ พันธกิจว่าถ้าเราต้องการให้พนักงานของเรามีความสุขแล้ว เขาจะต้องมีพื้นฐานอะไรบ้าง และจะทำอย่างไร ต้องผ่านการอบรมอะไร จึงจะขับเคลื่อนอย่างไรให้พันธกิจนี้สำเร็จ ซึ่งเรามีการออกแบบโครงการ มีแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน ทำตั้งแต่เริ่มต้น มีการวิเคราะห์ลักษณะของพนักงาน ที่มีความหลากหลาย ต่างศาสนากันก็มี จะทำอย่างไรให้เรื่อง Mindfulness สมาธิ สติสามารถใช้กับคนทุกศาสนา ในที่สุดก็พบว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวกันกับการบริหารงานบุคคล เป็นการพัฒนาคน ที่สามารถผสานและส่งผลดีต่อธุรกิจได้อย่างแน่นอน”

ฉบับหน้าชวนมาติดตามรูปธรรมผลสำเร็จและบทเรียนจากการทำโครงการ Mindfulness in organization ของเจ เอช อุตสาหกรรม กันต่อค่ะ