จดหมายน้อยฉบับนั้น กับเงินของเรา

จดหมายน้อยฉบับนั้น กับเงินของเรา

จดหมายน้อยฉบับนั้น กับเงินของเรา

การหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูงที่สุดบนระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้ อาจเป็นสุดยอดปรารถนาของใครหลายคน แต่จริงๆแล้วยังมีปัจจัยอื่นอีกหรือไม่ที่เราในฐานะนักลงทุน หรือแม้กระทั่งลูกค้าควรให้ความสำคัญ

เมื่อปลายเดือนที่แล้ว มีข่าวเล็กๆชิ้นหนึ่งกล่าวถึงสตรีชาวอเมริกันในรัฐอริโซน่าผู้หนึ่ง ได้ซื้อกระเป๋าถือใบหนึ่งจากวอลมาร์ท ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ ซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องธรรมดาของการซื้อของโดยทั่วไป แต่ว่า เมื่อเธอเปิดช่องซิบด้านในของกระเป๋านั้น เธอก็พบกับกระดาษโน้ตสีขาวแผ่นเล็กๆพับทบซ่อนอยู่ บนกระดาษปรากฏลายมือเขียนเป็นภาษาจีนด้วยปากกาสีน้ำเงินมีความยาว 9 บรรทัด

เธอตัดสินใจนำเอากระดาษโน้ตแผ่นนั้นไปให้ผู้ที่มีความรู้ภาษาจีนช่วยแปล(มีผู้แปลมากกว่า 2 คน เพื่อยืนยันว่าได้รับคำแปลที่ถูกต้องตรงกัน) และพบข้อความที่น่าเศร้าเขียนไว้ว่า “ผู้ต้องขังในคุกหยิ่งฉาน ในมณฑลกวางสี ประเทศจีน ต้องทำงาน 14 ชั่วโมงต่อวัน โดยไม่ได้หยุดพัก และต้องทำงานล่วงเวลาจนถึงเที่ยงคืน และหากคนงานคนใดทำงานของตนไม่เสร็จก็จะถูกลงโทษด้วยการทุบตี ส่วนอาหารของแรงงานเหล่านี้ก็ไม่มีทั้งน้ำมันและเกลือ ในแต่ละเดือนคนงานจะได้รับค่าแรง 2 พันหยวน (ประมาณ 1 หมื่นบาท) อาหารที่มีนอกเหนือจากนี้จะถูกจัดการโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากนักโทษคนใดป่วย หรือต้องการยา ค่าใช้จ่ายก็จะถูกหักออกจากค่าแรงของตน นักโทษในจีนนั้นแย่ยิ่งกว่า ม้า วัว แพะ หมู หรือสุนัข..

นี่ไม่ใช่เพียงกรณีเดียวที่เกิดขึ้น ในปี 2554 คุณแม่ลูกสองชาวโอเรกอน สหรัฐฯ ได้ซื้อของประดับที่ใช้สำหรับเทศกาลฮาโลวีนจากห้างเคมาร์ทแต่มาเปิดใช้จริงๆในอีกปีหนึ่งถัดมา และพบกระดาษยับๆเขียนด้วยภาษาอังกฤษซ่อนอยู่ในกล่อง ส่วนหนึ่งมีข้อความว่า “หากท่านได้มีโอกาสซื้อของสิ่งนี้ โปรดช่วยส่งจดหมายฉบับนี้ไปยังองค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชนโลกผลิตภัณฑ์นี้ผลิตโดยหน่วยที่ 8 ค่ายแรงงานมาซานเจี๋ย เมืองเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน……คนที่นี่ต้องทำงานถึงวันละ 15 ชั่วโมงต่อวันโดยไม่มีวันหยุด ไม่เช่นนั้นก็จะถูกทรมานด้วยการทุบตี และได้รับค่าตอบแทนเพียง 10 หยวน (50 บาท) ต่อเดือนเท่านั้น

นักโทษเหล่านี้ มักจะเป็นนักโทษคดีเล็กน้อย หรือนักโทษทางการเมือง ซึ่งแม้ว่าจะมีการสอบสวนถึงต้นตอจดหมาย โดยห้างสรรพสินค้าผู้จำหน่ายสินค้าหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่หลายครั้งก็มักจะไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ค้นพบจดหมาย ด้วยเกรงที่จะมีการสืบค้นจนเจอตัวผู้เขียนจริงๆ (ซึ่งเคยมีกรณีเกิดขึ้นแล้ว) และอาจนำอันตรายถึงชีวิตไปยังคนเหล่านี้ได้

นี่คือตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงการใช้แรงงานอย่างไม่ถูกต้องของเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น (ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลกลางมิได้มีส่วนรู้เห็นด้วย) โดยร่วมมือกับนักธุรกิจที่เห็นแก่ได้ เพื่อให้ตนสามารถรับผลิตสินค้าได้ในราคาที่ถูกลงไปอีก และช่วยให้บริษัทผู้ผลิตแข่งขันได้มากขึ้นในตลาดส่งออกทั่วโลก

เดิมเราในฐานะผู้บริโภคสินค้า หรือแม้กระทั่งในฐานะผู้ลงทุน ดูจะห่างไกลจากความใส่ใจกับการข่มเหงรังแกเพื่อนมนุษย์ด้วยกันในกระบวนการผลิตสินค้าและบริการ เหตุผลหนึ่ง ก็คือ เพราะเราไม่เคยรู้ถึงกระบวนการผลิต หรือแม้จะรู้อยู่บ้างแต่ก็รู้สึกว่ากระบวนการผลิตนั้นเป็นเรื่องของผู้ผลิตและไม่เกี่ยวกับเรา และยิ่งอาจเป็นการดีเสียอีกในสายตานักลงทุนบางคนที่บริษัทที่ลงทุนสามารถสร้างผลประกอบการที่ดียิ่งๆขึ้นจากการเอารัดเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน              

นักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนสถาบัน จึงถือว่าเป็นผู้มีบทบาทหลักในห่วงโซ่ของการลงทุน ที่จะร่วมกันเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนให้บริษัทที่ระดมทุนนั้น ปฏิบัติตนในเรื่องต่างๆให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดการเติบโตที่ยั่งยืนของคนในสังคมร่วมกันได้

หากทุกคนช่วยกันคนละไม้ละมือ ไม่เพิกเฉย เชื่อว่าลูกหลานเราจะมีโอกาสอยู่ในสังคมที่น่าอยู่ยิ่งขึ้นได้ในที่สุด