Omni Channel การตลาดที่น่าสะพรึงกลัว

Omni Channel การตลาดที่น่าสะพรึงกลัว

ไม่ว่าธุรกิจจะตื่นตัวกับ ดิจิทัล อีโคโนมี มาเป็นเวลากี่ปีแล้วก็ตาม

ธุรกิจดั้งเดิม อย่างเช่น Walmart Costco และ Kroger ก็ยังคงเป็นธุรกิจค้าปลีก ที่มียอดขายเป็นอันดับ ที่ หนึ่ง สอง และสาม ของโลก 

ขณะที่ Amazon ธุรกิจยักษ์ใหญ่ อันดับหนึ่ง แห่งโลกอีคอมเมิร์ซ ก็ยังคงมียอดขายเป็นเพียงอันดับที่ 12 เมื่อเปรียบกับ ธุรกิจค้าปลีกแห่งโลกธุรกิจดั้งเดิม

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอีคอมเมิรซ์ได้มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ธุรกิจค้าปลีกดั้งเดิมได้ทยอยปิดตัวลง แม้แต่ วอร์เร็น บัฟเฟตต์ ก็ได้เทขายหุ้นของธุรกิจค้าปลีกดั้งเดิม จนเป็นข่าวคราวระดับโลก

แต่ถึงกระนั้น ธุรกิจดั้งเดิม ที่ยังคงเหลืออยู่ มีข้อได้เปรียบในด้านของความใหญ่ เงิน และช่องทางที่หลากหลาย ในการทำการตลาดและเข้าถึงลูกค้า (Multi Channel Marketing) เพราะแม้แต่ ธุรกิจดั้งเดิม เช่น Walmart Costco และ Kroger ต่างก็พัฒนาอีคอมเมิร์ซของตัวเองขึ้นมาทั้งสิ้น

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจเหล่านี้ ได้ประยุกต์ Multi Channel รวมเป็นประสบการณ์เดียวกันของทุกช่องทาง (Omni Channel Marketing) โดยอาศัย Big Data และกระทั่ง Artificial Intelligence (AI) เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่พิเศษสุด ให้กับลูกค้า 

และนี่ อาจเป็นโอกาสรอด เพียงหนึ่งเดียวของธุรกิจดั้งเดิม ซึ่งเหลือเวลาไม่มากแล้ว

ล่าสุด ยังได้มีการเปิดเผย แผนการ Omni Channel ที่น่าสะพรึงกลัวของ Walmart ธุรกิจดั้งเดิม ที่เป็นอันดับหนึ่งของโลก

Walmart ได้จดสิทธิบัตร เทคโนโลยีพิเศษ เพื่อตรวจจับพฤติกรรมการบริโภคสินค้าของลูกค้าภายในบ้าน ที่ทำให้ทราบแม้กระทั่งตำแหน่งของสินค้าภายในบ้าน และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของลูกค้า อย่างทะลุทะลวง เพื่อที่จะทำการตลาดได้อย่างแม่นยำ โดยใช้เทคโนโลยี AI

เช่นว่า ลูกค้าคนนี้ มีโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่น และมักรับชมในช่วงเวลาใด รายการอะไร ในขณะที่ ไม่ไกลกับโทรทัศน์ ก็ยังมีตู้เย็นอยู่และมีห้องน้ำ ที่ห่างออกไปอีกไม่มาก ที่มีหลอดยาสีฟันอยู่

เทคโนโลยีดังกล่าว จะทำให้ Walmart ทราบถึง สินค้าที่ลูกค้าใส่เข้าไปในตู้เย็น จำนวนที่เหลืออยู่ และวันหมดอายุ และกระทั่งถึงปริมาณของยาสีฟัน ที่คงเหลืออยู่ในหลอด ที่อยู่ในห้องน้ำ จึงเป็นการต่อยอดจาก Omni Channel ที่เรารู้จักกัน เข้ามาสู่บ้านของลูกค้า ได้อย่างทะลุทะลวง

นอกเหนือจาก ธุรกิจค้าปลีกแล้ว ธุรกิจโทรทัศน์ ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจดั้งเดิมที่มีความพยายาม อย่างน่าสะพรึงกลัว กับการดิ้นรนเพื่อมิให้ถูกทดแทน โดยธุรกิจยุคใหม่จากโลกดิจิทัล

หลายเดือนที่ผ่านมา ธุรกิจโทรทัศน์และธุรกิจโฆษณาผ่านโทรทัศน์ ได้ทำการทดลอง กับเทคโนโลยีใหม่ ที่มีความทะลุทะลวง ในรูปแบบของ Omni Channel อย่างที่เปรียบได้กับ สิ่งที่ Walmart กำลังวางแผนที่จะทำ

ธุรกิจโฆษณา ในบางประเทศ ได้ใช้การเผยแพร่ คลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasonic Sound) ที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยินได้ ออกมาผ่านลำโพงของโทรทัศน์และกระทั่งลำโพงในสถานที่ต่างๆ ทั้งนี้ Ultrasonic Sound มีความแตกต่างกับ การส่งข้อความใต้จิตสำนึก (Subliminal Messaging) เพราะ Ultrasonic Sound ไม่ได้หวังจะสะกดจิตผู้ฟัง แต่เป้าหมายที่แท้จริง คือการสื่อสารกับ“สมาร์ทโฟน”

มีการทดสอบแล้ว พบว่า แอพของสมาร์ทโฟนกว่า 200 แอพ ในปัจจุบัน มีฟังก์ชั่นในการ รับฟัง Ultrasonic Sound โดยที่ผู้ใช้งานอาจไม่รู้ (แอบฟัง) เพื่อสื่อสารกลับไปยังธุรกิจโฆษณา โดยมีข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของสมาร์ทโฟนและตำแหน่งสถานที่กับเวลา ที่เจ้าของสมาร์ทโฟน ได้รับชมโฆษณาที่แอบแฝง Ultrasonic Sound

ที่กล่าวมา คือ ความน่าสะพรึงกลัวของ Omni Channel ในยุคใหม่ ที่สามารถตรวจจับพฤติกรรมของลูกค้า ได้อย่างทะลุทะลวง (และตามไปถึงบ้าน) ในขณะที่ช่องทางดิจิทัล เช่น อีคอมเมิร์ซ แต่เพียงอย่างเดียว มิอาจที่จะทำได้

ในอีกไม่นานนัก เราคงมีโอกาสได้เห็น เทคโนโลยีใหม่ๆ ของ Omni Channel ออกมาอีกมาก เพราะธุรกิจดั้งเดิม ที่มีความได้เปรียบของ ความใหญ่ เงิน และช่องทางที่หลากหลาย ต้องดิ้นรน เพื่อมิให้ถูกทดแทน โดยธุรกิจยุคใหม่จากโลกดิจิทัล ซึ่งเหลือเวลาไม่มากแล้ว