'กองโฆษณา' ของใคร?

แต่หน่วยข่าวไทย ยังยืนยันว่า โกตี๋อยู่ในนครหลวงเวียงจันทน์ เพียงจะใช้โรงแรมเป็นที่พักพิง ย้ายไปเรื่อยๆ

แต่จริงๆแล้ว แค่เดินทางไปชายแดนลาว-เวียดนาม จากนั้นก็กลับเข้ามาอยู่ในนครหลวงเวียงจันทน์

30 มีนาคม 2560 โกตี๋ และ ชูชีพ ชีวะสุทธิ์ หรือ “ลุงสนามหลวง” ได้จัดประชุมกลุ่ม “องค์กรสหพันธรัฐไท” ร่วมกับตัวแทนที่เดินทางไปจากกรุงเทพฯ พวกเขางดจัดรายการ 1 คืน

31 มีนาคม 2560 “ทักษิณ ชินวัตร” เขียนจดหมายผ่านเฟซบุ๊คถึงประชาชนไทย เพื่อชี้แจงว่า ตัวเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับ “ขบวนการล้มเจ้า”

1 เมษายน 2560 “โกตี๋” กลับจัดรายการวิทยุใต้ดิน เผยแพร่ผ่านช่องไฟเย็น และช่องแยมมี่

เนื้อหาหลักๆ ที่โกตี๋ ออกมาพูดในคืนนี้(1 เม.ย.)คือ การอธิบายว่า “ทักษิณ” ไม่ได้สนับสนุนพวกเขา ไม่ได้ช่วยเหลือกลุ่มสหพันธรัฐไท

“โกตี๋” ถึงขั้นอ่านจดหมายของทักษิณ ออกอากาศให้สมาชิกองค์กรสหพันธรัฐไทฟัง และเมื่อโกตี๋ อ่านจดหมายทักษิณจบ ก็บอกผู้ฟังทางบ้านว่า “นี่คือหลักฐาน ที่บอกว่า ทักษิณไม่เกี่ยวกับพวกเรา ทักษิณก็สู้ของเขา”

รายการต่อจากโกตี๋คืนนั้น “ชูชีพ” ก็ออกมาพูดทำนองเดียวกันกับโกตี้ คือ “ทักษิณก็สู้ของเขาไป เราก็สู้ของเรา”

จะว่าไปแล้ว กลุ่มโกตี๋-ชูชีพ จัดรายการวิทยุใต้ดินมาปีกว่า ก็ไม่สู้จะได้พูดถึง “ทักษิณ” และเมื่อเร็วๆ นี้ โกตี๋ได้วิจารณ์ “เจ๊แดง” ด้วยถ้อยคำรุนแรง

จับสัญญาณการเคลื่อนไหวของกลุ่มสหพันธรัฐไท หลังจากโกตี๋ “ทำปืนลั่น” ให้ทางการไทยบุกยึดอาวุธได้ ก็คล้ายโกตี๋จำต้องหลบไปสักพัก แต่สถานการณ์เปลี่ยน เมื่อมีการประชุมในวันที่ 30 มี.ค. 

คราวนี้ โกตี๋ประกาศจะกลับมาจัดรายการทุกคืน ตามแนวทางเดิมคือ ล้มล้างการปกครอง และสถาปนา “สหพันธรัฐไท”

อันที่จริง “สหายยังบลัด” หรือ “สหายเลือด” แห่งอีสานใต้ ได้พูดไว้ชัดว่า พวกเขาเป็น “กองโฆษณา” ไม่ใช่กองกำลังติดอาวุธ แต่บังเอิญโกตี๋ “ร้อนวิชา” ออกอาการสุ่มเสี่ยงเอียงซ้าย ไปท้ารบ คสช.กรณีธรรมกาย เลยโดน “จัดเต็ม” แบบพูดไม่ออก

ฉะนั้น การกลับมาของโกตี๋ และพวก ก็ต้องยืนหยัดในเข็มมุ่งการปลุกระดม ติดอาวุธทางปัญญา นี่เป็นภารกิจของ “กองโฆษณา” 

ส่วนเรื่องเจ้าของบ้านที่ให้พวกเขาซุกหัวนอน ไม่ต้องกังวล มี “ผู้ใหญ่” เคลียร์ให้แล้ว 

ตราบใดที่ “ขุมทรัพย์โทรคมนาคม” ยังคงอยู่ บรรดาผู้ลี้ภัยจากไทยก็อยู่กันสุขสบายดี ไม่มีภัยแผ้วพาลได้