Jack Ma

Jack Ma

เรื่องวันนี้ตั้งชื่อง่ายมากครับ แจ๊ค หม่า

“หากคุณแก้ปัญหาระดับหมู่บ้าน คุณก็จะเป็นบริษัทระดับหมู่บ้าน หากคุณแก้ปัญหาระดับจังหวัด คุณก็จะเป็นบริษัทระดับจังหวัด หากคุณแก้ปัญหาระดับชาติ คุณก็เป็นบริษัทระดับชาติ”

ผู้ฟังในห้องประชุมเงียบกริบ

“ผมอยากเป็นบริษัทระดับโลก ผมจึงต้องพยายามแก้ปัญหาระดับโลก”

ผู้ชายร่างเล็ก หน้าตาคงเรียกไม่ได้ว่าหล่อ สำเนียงภาษาอังกฤษของเขาแม้ฟังง่าย แต่ก็แปร่งอย่างได้ยินชัด บนเวทีไม่มีพร็อพใดๆ กระทั่งสไลด์ประกอบ ในมือเขามีเพียงสมุดโน้ตเล่มเล็ก

แต่เขาสะกดผู้บริหารนานาชาติในห้องได้สงัดตลอดหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ

“โลกในอนาคตเป็นโลกแห่งปัจจัยสี่ประการ 1) New Retail วิธีการขายของแบบใหม่ 2) New Financing การทำธุรกรรมการเงินแบบใหม่ 3) New Technology เทคโนโลยีแบบใหม่ วิธีการผลิตที่แตกต่างจากเดิม และ 4) New Energy พลังงานแบบใหม่”

New Retail แน่นอนแจ็คหมายถึง e-commerce คงไม่มีใครไม่รู้จักอาณาจักร Alibaba.com ซึ่งสร้างปรากฎการณ์เปลี่ยนโลกแห่งการค้าขายในประเทศจีน อินเทอร์เน็ตเข้าถึงทุกแห่งหน โดยเฉพาะในซีกโลกที่ยังขาดโครงสร้างเช่นเอเชีย ธุรกิจออนไลน์จึงประสบความสำเร็จยิ่งนัก

ยอดขายของ Alibaba วันที่ 11 พฤศจิกายน 2016 Singles’ Day เพียงวันเดียวเท่ากับ 17,7900 ล้านดอลลาร์ เทียบกับยอดขาย(เพียง) 4,500 ล้านดอลลาร์ในวันขอบคุณพระเจ้าที่อเมริกา และกว่า 80% ของผู้ซื้อใช้โทรศัพท์มือถือในการทำธุรกรรม

เกมส์แข่งขันทางการผลิตใหม่คือ New Technology จะสามารถทำให้สินค้าและบริการเฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ
The game is tailor made อินเทอร์เน็ตจะเข้าไปอยู่ในทุกสิ่งอย่าง ตู้เย็นของคุณจะสั่งสต็อกของเองได้ รถยนต์สามารถซ่อมตัวเองเมื่อคุณจอดทิ้งไว้กลางคืน ตู้ในห้องนอนจะเลือกเสื้อผ้าให้คุณเองแบบพอดีตัวและทันสมัย

กติกา 80/20 จะถูกกลับหัว ข้อมูลและอินเทอร์เน็ตทำให้ 80% ของคนบนโลกที่เคยถูกมองข้ามลุกขึ้นมามีพลังมหาศาล การค้าขายแบบตลาดนัดออนไลน์ Marketplace ทำให้คนธรรมดาๆทุกคนสามารถเป็นเจ้าของกิจการได้ ผู้ขายได้ประโยชน์ ผู้ซื้อได้ประโยชน์

พ่อค้าคนกลางที่ปรับตัวให้ทันยุคทันสมัยก็ได้ประโยชน์ คนตายคือผู้ที่ปรับตัวไม่ทัน

“Low cost, Low value, and Low price. You have no future” แจ็คสรุป

ข้อคิดสำหรับผู้นำสมอง
1. Dare to Dream We are never in lack of money. We lack people with dreams. Who are willing to die for those dreams.

โลกไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน เราขาดคนที่จะกล้าฝัน และกล้าที่จะยอมตายเพื่อความฝันนั้น

ไม่กี่ปีมานี้เอง แจ็คเป็นเพียงครูสอนภาษาอังกฤษ แต่เขาระห่ำพอที่จะกล้าฝันถึงการเปลี่ยนโลก และลงมือทำเพื่อให้ฝันของเขาเป็นจริง

เขาบอกว่า “โลกวันนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อวาน แต่มันเริ่มต้นเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว โลกอีกสิบห้าปีข้างหน้าก็จะเกิดจากสิ่งที่คุณทำในวันนี้ ดังนั้น อย่าคิดแค่ทำวันนี้เพื่อให้ได้วันรุ่งขึ้น แต่จงมุ่งมั่นเพื่อไขว่คว้าความฝันของคุณ”

2. See The Future ความพิเศษของแจ็คคือการมองเห็นอนาคตที่ยังไม่เกิด 

ผมนึกย้อนถึงสิ่งที่เขาเคยกล่าวไว้กับทีมในปี 1999 ตอนนั้น Alibaba ยังไม่เริ่มเดินด้วยซ้ำ พนักงานมีเพียงไม่ถึงยี่สิบคน นั่งรายล้อมในอพาร์ตเมนท์เล็กๆ แห่งหนึ่ง แจ็คยืนอยู่หน้าห้องและเล่าถึงอนาคตที่จะเกิดขึ้น

“บริษัทอาจจะผ่านมาและผ่านไป หุ้นยาฮูขึ้น หุ้นยาฮูลง หุ้นอีเบย์ขึ้น หุ้นอีเบย์ลง แล้วก็จะถึงคราวของเรา หุ้นอาลีบาบา อินเทอร์เน็ตไม่มีวันตาย มันคืออนาคต หากเรารวมสมองกัน เราสามารถเอาชนะยักษ์จากโลกตะวันตกได้”

เวลาผ่านไปเกือบยี่สิบปี ผู้ชายที่ผมเห็นบนเวทียังแน่วแน่ชัดเจนเหมือนเดิม

3. Leave The Past

ผมได้รับคอมเมนท์จากหลายๆ คนถึง Digital Free Trade Zone (DFTZ) ที่แจ็คมาเซ็นสัญญากับรัฐบาลมาเลเซีย

“ทำไมประเทศไทยถึงไม่ทำ ปล่อยให้มาเลเซียทำก่อน”

DFTZ แปลง่ายๆคือทำให้การขายของออนไลน์ง่ายขึ้น เช่น สินค้าที่ราคารวมต่ำกว่า 1,200 RM หรือประมาณหนึ่งหมื่นบาทไม่ต้องเสียภาษี

นอกจากนั้นจะมีการสร้างโกดังสินค้าทั้งที่สนามบิน และฮับใน KLCC เพื่ออำนวยสะดวก SMEs ในการขนส่งสินค้าโดยง่าย ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อ “กระจายโอกาสสร้างรายได้สู่คนกลุ่มใหญ่ขึ้น และเพื่อกระตุ้นการเติบโตด้านธุรกิจดิจิตัลจาก 10.8% ให้เป็น 20.8% ภายในปี 2020” มันคือการคิดเพื่ออนาคต ดีดตัวเองออกจากอดีต

ตกลงแล้ว ทำไมประเทศไทยปล่อยให้เพื่อนบ้านทำก่อน

เอาอย่างนี้ดีกว่าครับ ยังไม่ต้องคิดไกลถึงขนาด DFTZ เราแค่หาวิธีทำให้ Uber ไม่ผิดกฏหมาย และสรรพากรเลิกวิ่งไล่จับคนขายของออนไลน์ก่อนไหมครับ