ลาวซุก 'โกตี๋'?

ลาวซุก 'โกตี๋'?

ความพยายามของทางการไทย ที่จะนำตัว “ผู้ต้องหา” คดีหมิ่นเบื้องสูง ที่อาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน

 ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จสักราย

ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีรัฐฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม หมายมั่นปั้นมือว่า จะได้ตัว “โกตี๋” หรือ วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ แกนนำองค์กรสหพันธรัฐไท มาดำเนินคดีในไทย ซึ่งขณะนี้ ทางอัยการพิเศษคดีระหว่างประเทศ กำลังทำเอกสารเพื่อยื่นไปทาง สาธารณะประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)

สาเหตุที่ทางการมั่นใจมากขึ้น เพราะโกตี๋ ไม่ได้มีเพียงคดี 112 หากแต่มีคดีก่อการร้าย หลังจากทหาร-ตำรวจ ค้นพบ “คลังแสงย่อยๆ” ในบ้านของเครือข่ายโกตี๋

ด้านความเคลื่อนไหวขององค์กรสหพันธรัฐไท ที่มีสำนักงานปิดลับอยู่ในนครหลวงเวียงจันทน์ ก็ยังไม่ยุติการส่งกระจายเสียงทางยูทูบ ผ่านช่องไฟเย็น และช่องแยมมี่

คืนวันที่ 21 มี.ค.2560 “แยมมี่ ไฟเย็น” โฆษกองค์กรสหพันธรัฐไทย จัดรายการ “เปิดโฟนโค่นเผด็จการ” ทางช่องไฟเย็น ได้แจ้งให้ทราบว่า “โกตี๋” หรือ “สหายหมาน้อย” หยุดจัดรายการทางวิทยุออนไลน์ใต้ดิน 1 สัปดาห์

โดยคืนวันอาทิตย์ 9 มี.ค.2560 โกตี๋ ให้สัมภาษณ์ จอม เพชรประดับ เผยแพร่ทางเว็บ Thaivoicemedia.com กรณีรัฐบาลไทยตั้งข้อหามีอาวุธสงครามไว้ในครอบครองจำนวนมาก และข้อหาวางแผนก่อเหตุร้าย ทำร้ายบุคคลสำคัญในประเทศไทย

โกตี๋ยืนยันว่า ทั้งหมดเป็นการจัดฉาก เพื่อยัดเยียดข้อหาก่อการร้ายให้กับตน

การหายไปจากคลื่นวิทยุใต้ดิน อาจหยุดชั่วคราว หรือหยุดถาวร ยังไม่มีใครบอกได้ แต่ “แยมมี่ ไฟเย็น” พูดกับผู้ฟังทางบ้านว่า องค์กรสหพันธรัฐไทจะต้องปรับปรุงรายการวิทยุออนไลน์

มีข้อสังเกตจากการหยุดรายการของโกตี๋ สะท้อนว่า ทางการลาวกำลังถูกกดดันจากทางรัฐบาลไทย เพราะโกตี๋ กลายเป็น “ผู้ต้องหา” ในคดีก่อการร้าย

คืนวันที่ 22 มี.ค. แยมมี่ ไฟเย็น ได้จัดรายการเปิดโฟนโค่นเผด็จการทางช่องไฟเย็น ได้บอกข่าวเล่าสิบกับผู้ฟังว่า โกตี๋ คงไม่ได้กลับมาจัดรายการอีกแล้ว ทางสถานีวิทยุจะปรับปรุงผังรายการใหม่

แหล่งข่าวในนครหลวงเวียงจันทน์เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงลาว ได้ขอให้โกตี๋ เดินทางออกจากนครหลวงเวียงจันทน์ไปอยู่ต่างแขวงและคาดว่า โกตี๋ยังอยู่ต้องใช้ชีวิตอยู่เงียบๆ เหมือนตอนที่เข้ามาอยู่ลาวใหม่ๆ คือ เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่แขวงหลวงพระบาง

ทางการลาวเคยห้ามกลุ่มคนเหล่านี้ จัดรายการวิทยุใต้ดินอยู่พักใหญ่ เนื่องจากหน่วยข่าวกรองของไทยสืบทราบที่ตั้งสถานีวิทยุได้ชัดว่า อยู่ตรงไหน? แต่ภายหลังที่สองกลุ่มกระจายตัวกันออกไปหาที่อยู่ใหม่ รายการวิทยุใต้ดินก็เริ่มขึ้นอีก

แหล่งข่าวในนครหลวงเวียงจันทน์เปิดเผยว่า การดูแลคนเสื้อแดงในลาวนั้น เป็นเรื่องมนุษยธรรมและความสัมพันธ์ดั้งเดิม ซึ่งดำเนินการโดย “คนของพรรค” อันหมายถึงพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลลาว

จากนี้ไป คงเป็นเรื่องทางการทูตของไทย ในอันที่จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เพื่อติดตามตัวโกตี๋ และพวกกลับมาดำเนินคดีในไทย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย