ระกาไฟ

เงินทุนไหลออก ฯลฯ แม้เป็นชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก แต่ย่างก้าวของจีนก็ยังเต็มไปด้วยความเสี่ยงมากมาย

แนวโน้มการเติบโตของจีดีพีที่ค่อย ๆ ลดลง ทำให้จีนหันมาปฏิรูประบบเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นการเติบโตภายในแทนที่การส่งออก พร้อมกับแผ่ขยายอาณาเขตเศรษฐกิจไปทั่วภูมิภาค ด้วยการสร้างเส้นทางสายไหมใหม่เชื่อมต่อไปยังเอเชียกลางและยุโรป นี่คือยุทธศาสตร์เพื่อการเติบโตระยะยาว แต่มันต้องใช้เวลานานมากกว่าจะสัมฤทธิ์ผล คำถามคือจีนจะฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคไปถึงวันนั้นหรือไม่ ?

เศรษฐกิจที่โตน้อยลงเรื่อย ๆ เกิดจากความไม่ยืดหยุ่นของค่าเงิน หลังจากจีนเข้าเป็นสมาชิก WTO ปลายปี 2544 การส่งออกโตขึ้นเรื่อย ๆ ปี 2548 จีนกำหนดค่าเงินหยวนใหม่ ซึ่งก็ยังอ่อนเมื่อเทียบดอลลาร์ มันให้ผลดีมากเพราะส่งออกเติบโตมหาศาล แต่หลังวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ปี 2551 หยวนแข็งค่าเพราะฟันด์โฟลว์ไหลเข้า ความสามารถในการแข่งขันเริ่มลดลง (โดยเฉพาะกับชาติอาเซียน) จนธนาคารกลางจีนต้องลดค่าเงินหยวนครั้งใหญ่ 4.65 % ในเดือนสิงหาคม 2558 แต่มันช้าเกินไป

เงินทุนสำรองของจีนขึ้นไปสูงสุดที่ 3.99 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อมิถุนายน 2557 แล้วค่อย ๆ ลดลง หลังสิงหาคม 2558 เงินทุนไหลออกอย่างรวดเร็ว สิ้นปี 2558 เหลือ 3.33 ล้านล้าน สิ้นปี 2559 เหลือ 3.01 ล้านล้าน โดยไหลออกถึง 41,000 ล้านในธันวาคมเดือนเดียว (หลังทรัมป์ชนะเลือกตั้ง) เดือนมกราคม 2560 เงินทุนยังไหลออกอีก 12,300 ล้าน จนเหลือแค่ 2.99 ล้านล้าน ต่ำกว่าระดับจิตวิทยาที่ 3 ล้านล้านและเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี เมื่อเงินทุนไหลออก หยวนก็อ่อนค่าต่ำสุดด้วย

สิ่งที่ตามมาคือหนี้เสียในระบบธนาคารและฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ที่ใกล้ระเบิด ซึ่งจะทำให้จีนต้องเผชิญกับ “ทศวรรษที่หายไป” เช่นเดียวกับญี่ปุ่น ที่แย่กว่านั้น ทรัมป์และคณะที่ปรึกษากำลังจ้องเล่นงานจีน ทั้งด้านการค้าและปัญหาทะเลจีนใต้ อนาคตของจีนจะเป็นอย่างไร ?

ดวงเมืองจีนถือกำเนิดวันที่ 1 ตุลาคม 2492 เวลา 15:15 น. ที่ปักกิ่ง เมื่อท่านประธานเหมาเจ๋อตงประกาศเอกราชของชาติจีน ลัคนาอยู่ราศีมังกร ที่ 12:47 องศา จันทร์กุมลัคน์ ราหูมีน มฤตยูเมถุน อังคารพลูโตกรกฎ เสาร์สิงห์ อาทิตย์พุธเนปจูนอยู่กันย์ ศุกร์ตุลย์ พฤหัสธนู ทศมลัคน์พิจิก

ช่วง 27 ปีแรกของการสร้างชาติ จีนประสบปัญหามากมาย บ้านเมืองลุ่ม ๆ ดอน ๆ เศรษฐกิจขึ้น ๆ ลง ๆ จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเดือนกันยายน 2519 เมื่อประธานเหมาฯเสียชีวิต แก็งค์ 4 คนถูกปลด ท่านเติ้งเสี่ยวผิงขึ้นครองอำนาจ ท่านเติ้งฯเสนอแนวคิดปฏิรูปเศรษฐกิจให้ทันสมัย ด้วยการใช้กลไกตลาดแทนการวางแผนจากรัฐบาลกลางที่ไร้ประสิทธิภาพ คณะโปลิตบูโรและกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ฯอนุมัติแนวคิดนี้เมื่อธันวาคม 2521 เศรษฐกิจจีนก้าวสู่ยุคใหม่ตรงจุดนี้

จะดูเรื่องเศรษฐกิจในดวงเมือง ให้ดูที่ภพ 2 ภพนี้คือราศีกุมภ์ เสาร์คือดาวเจ้าราศี เสาร์อยู่สิงห์ สิงห์คือภพ 8 อันหมายถึงการเงินของคู่ค้า เศรษฐกิจจีนขึ้นกับรายได้จากคู่ค้า อาทิตย์คือดาวเจ้าราศีสิงห์ อาทิตย์อยู่กันย์ กันย์คือภพ 9 ซึ่งหมายถึงต่างประเทศ ความรุ่งเรืองของเศรษฐกิจจีนขึ้นกับการส่งออก

นับแต่ใช้กลไกตลาด เศรษฐกิจก็เติบโตต่อเนื่อง โดยมีการส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก วันที่ 1 กรกฎาคม 2540 ฮ่องกงกลับคืนเป็นของจีน กลไกเศรษฐกิจยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น วันที่ 11 ธันวาคม 2544 จีนเข้าเป็นสมาชิก WTO เศรษฐกิจเข้าสู่ยุครุ่งเรือง แต่จีนต้องปรับตัวเองตามกฎใหม่เช่นกัน ตั้งแต่กรกฎาคม 2548 – กรกฎาคม 2551 จีนยุติการผูกเงินหยวนกับดอลลาร์ หยวนจึงแข็งค่าขึ้นจาก 8.2 เป็น 6.83 หยวน/ดอลลาร์

ไทม์ไลน์เศรษฐกิจจีนน่าสนใจมาก กำเนิดในปี 2492 เปลี่ยนระบบเศรษฐกิจปี 2521 และปรับค่าเงินปี 2551 จุดเปลี่ยนใหญ่เกิดขึ้นทุก 30 ปี ตัวเลขนี้บอกอะไรกับเรา ? มันคือวัฏจักร 30 ปีของเสาร์ (Saturn Return) นั่นเอง เสาร์คือดาวเศรษฐกิจ เมื่อเสาร์โคจรกลับถึงที่เดิมในดวงกำเนิด จีนจะเข้าสู่ยุคใหม่ทางเศรษฐกิจอีกครั้ง (เหมือนกับวัฏจักร 30 ปีของการเมืองไทย)

ตั้งแต่ 20 กันยายน 2551 จีนเข้าสู่ยุคที่ 3 ทางเศรษฐกิจ ดาวเศรษฐกิจอยู่ภพ 8 หมายถึงค่าเงิน (เมื่อเทียบกับคู่ค้า) ยุคที่ 3 จึงเป็นยุคแห่งการใช้ค่าเงินเป็นเครื่องมือหลักในการบริหารเศรษฐกิจ นั่นคือเหตุผลที่จีนลดค่าเงินหยวนเมื่อสิงหาคม 2558 ที่เสาร์พิจิกส่งกระแสเป็นเกณฑ์ 10 กับเสาร์เดิมในราศีสิงห์

ปี 2559 เสาร์เข้ารูป T-square กับราหูเนปจูน ทั้ง 3 เบียนเสาร์เดิมเต็มกำลัง ทำให้เงินทุนไหลออกและเงินหยวนอ่อนค่าหนัก เสาร์ยกเข้าธนู 2 ช่วง คือ (1) ตั้งแต่ 26 มกราคม – 21 มิถุนายน 2560 (2) ตั้งแต่ 26 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป เสาร์ธนูตรีโกณเสาร์เดิม เงินทุนไหลออกจะลดลง เงินหยวนพอจะตั้งหลักได้บ้าง อย่างไรก็ตาม เนปจูนกุมภ์เล็งเสาร์เดิมสนิท เนปจูนคือความสับสนแปรปรวน ค่าเงินหยวนยังคงไร้เสถียรภาพ

ไม่ใช่แค่ฟันด์โฟลว์และค่าเงินที่เป็นปัญหา ตั้งแต่ 8 เมษายน มฤตยูยกเข้าเมษ เมษคือภพ 4 อันหมายถึงอสังหาริมทรัพย์ มฤตยูคือการปลดปล่อย การระเบิด ฯลฯ ภาคอสังหาฯประสบปัญหาใหญ่ ฟองสบู่จะแตกโดยคาดไม่ถึง ภพ 4 ยังหมายถึงดินแดน ปัญหาทะเลจีนใต้อาจลุกลามใหญ่โต แต่มฤตยูเป็นดาวเคลื่อนที่ช้า ปีนี้ปัญหาเริ่มปะทุ มันจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนระเบิดออกมาในอีก 2 – 3 ปีข้างหน้า

จุดสำคัญที่สุดคือจันทรคราส 8 สิงหาคม ที่ 21:19 องศามังกร เล็งอังคารพลูโตเดิมสนิทในภพ 7 เกิดปัญหากับคู่แข่งที่มีพลังอำนาจมาก จากนั้น สุริยคราส 22 สิงหาคม ที่ 4:47 องศาสิงห์ ทำมุม 90 สนิทกับทศมลัคน์ เกิดปัญหาใหญ่ทางการเมืองการปกครอง คราสมีอิทธิพลแรงใน 1 เดือน เดือนกันยายน จีนอเมริกาจะเผชิญหน้ากัน ถ้าไม่ใช่สงครามการค้าก็เป็นปัญหาในทะเลจีนใต้

วันที่ 9 กันยายน ราหูยกเข้ากรกฎเล็งลัคน์ ยืนยันถึงความขัดแย้งและการเผชิญหน้ากับศัตรูที่ร้ายกาจ ปี 2560 คือปีนักษัตรระกาธาตุไฟ ปัญหาใหญ่ในจีนจะเขย่าโลกอีกครั้ง