สิ่งที่.."ต้องทำ/ควรทำ/และ ทำไปทำไม"

สิ่งที่.."ต้องทำ/ควรทำ/และ ทำไปทำไม"

งานของผู้จัดการ หรือผู้นำทีมในแต่ละที่ มีเรื่องให้ต้องคิด ต้องทำในแต่ละวันเยอะมาก...

แต่งานที่ ผู้จัดการหรือผู้นำทีม ที่ควรจะทำหรือต้องทำ กลับไม่มีโอกาสที่จะทำหรือไม่ได้ใส่ใจที่จะทำ แปลกมั้ยล่ะ!?

จากที่ได้มีโอกาสพบเห็นและแนะนำมาในแต่ละที่...งานหลักๆ ของบรรดาผู้จัดการและผู้นำทีม ส่วนมากใช้เวลาเกือบทั้งหมดของวันไปกับการ แก้ปัญหารายวัน การประชุม ลงท้ายด้วยการบ่น ก่นด่า แหงนหน้ามองบนด้วยความเหนื่อยใจให้หมดไปวันๆ!

หลายๆ ท่านอาจจะแย้งในใจว่า มีวาระที่ต้องเข้าประชุมนี่ครับ ไม่เข้าก็ไม่ได้ ก็ถูกของท่านครับ...ไม่ว่ากัน แต่ผมกลับเห็นหลายๆ ที่ "จะประชุมก็ต่อเมื่อจำเป็นต้องประชุม และใช้เวลาให้สั้นกระชับที่สุด" ยิ่งประชุมน้อย ประสิทธิภาพของแต่ละหน่วยงานกลับยิ่งเพิ่มขึ้น!

เพราะยุคนี้ มีช่องทางการสื่อสารที่ง่ายกว่าเดิม ลดเวลาการนัดประชุม เพื่อไปเพิ่มเวลาในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับหน่วยงานและทีมงาน...บางทีน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า การประชุม "แบบไทยๆ" ที่วาระไม่ชัดเจน หนักไปทาง พล่าม บ่น โยนปัญหา แก้ตัว ถกเถียง คุยเรื่อยเปื่อยไม่มีประเด็น แต่ไม่มีข้อสรุปและการติดตามที่ชัดเจนนะครับ..

บางท่านก็อาจจะแย้งอีกเรื่องว่า...ก็มันมีปัญหา "เฉพาะหน้า" หรือ "ปัญหารายวัน" ให้ตามแก้ทุกวัน ถ้าเราไม่แก้แล้วจะให้ใครแก้ปัญหาล่ะ!?

แหม...เถียงและแถ มาแบบนี้ ผมก็ต้องขอตอบให้เงิบไปซักห้าวินาที ว่า..."ถ้าอุตส่าห์เป็นถึงผู้จัดการ หรือผู้นำทีม แล้ววันๆ วุ่นไปกับการแก้ปัญหารายวันในทุกเรื่อง...แสดงว่า ผู้จัดการหรือผู้นำทีมคนนั้น คือตัวปัญหาล่ะ!"

เพราะแสดงว่า ผู้จัดการคนนั้น...ไม่ถนัด ไม่ชอบ หรือทำไม่เป็น ในเรื่องการป้องกันปัญหา...

เพราะแสดงว่า ผู้จัดการคนนั้น.. ไม่ถนัด ไม่รู้วิธี หรือไม่คิดที่จะ สร้างและฝึกลูกน้องให้รู้จักการแก้ปัญหา!

มีผู้จัดการจำนวนไม่น้อย เคยยอมรับว่า ที่ผ่านมา แก้ปัญหาให้กับลูกน้องทุกเรื่อง พอได้รับคำแนะนำให้ฝึกลูกน้องให้แก้ปัญหา ก็กลัวลูกน้องจะเข้าใจผิดว่า ทำไมผู้จัดการไม่ช่วยแก้ปัญหา ในเมื่อที่ผ่านมา ลูกน้องมีปัญหาอะไร ผู้จัดการก็คอยตามแก้ให้ทุกเรื่อง..

พอผมถามกลับไปว่า... ปัญหาที่แก้ให้ลูกน้อง ส่วนมากเป็นปัญหาเดิมๆ ใช่หรือไม่? ลูกน้องไม่ได้เรียนรู้ ไม่ได้เก่งขึ้นเลยในการเผชิญและแก้ปัญหาใช่หรือไม่? ปัญหายังคงมีเหมือนเดิมหรือมีเพิ่มขึ้นตามจำนวนลูกน้องที่รับเพิ่มใช่หรือไม่?!

คำตอบคือ ใช่หมดทั้งสามข้อ!? แล้วยังอยากเป็นแบบนี้ต่อไป หรืออยากให้ปัญหาลดลงและลูกน้องเก่งขึ้น!?

ผู้จัดการถึงจะตาสว่าง เมื่อได้คิดได้ตอบคำถามตามนั้น... เข้าใจตรงกันนะครับ บรรดาผู้จัดการที่ หนุกหนานกับการแก้ปัญหาให้หมดไปวันๆ มันไม่ได้ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับหน่วยงานและทีมงานของท่านในระยะยาวเลย!

ลองนั่งทบทวนดูสิครับ ในฐานะผู้นำทีมหรือผู้จัดการ ... เราทำอะไรเกี่ยวกับการสร้าง พัฒนา "ทีมงาน" บ้าง....!?

รู้นะ ว่าคิดไม่ค่อยออกใช่มั้ยล่ะ!?

เพราะสิ่งที่ผู้จัดการจำนวนไม่น้อย(จะบอกว่าผู้จัดการเกือบทุกคน...ก็เกรงจายย..!) แทบไม่มีเวลาให้กับทีมงาน ถ้าจะมีอย่างมากก็สั่งงาน หรือเรียกมา บ่น ก่นด่ารายตัวกับบ่น ก่นด่าตอนประชุมทีมนั่นแหละ!?

ลองทบทวน พิจารณาดูอีกที..ดูและคิดให้ดีๆ...

  1. งานอะไรบ้าง...ที่เป็นงานที่ ผู้จัดการหรือผู้นำทีม "ต้องทำจริงๆ" ในแต่ละวันหรือในแต่ละสัปดาห์/เดือน!?

งานที่ต้องทำ จะเป็นงานที่จะส่งผลด้านบวก หรือคุณค่าที่จะเกิดกับหน่วยงานและองค์กร..

(แน่นอน.. ย่อมไม่ใช่การแก้ปัญหารายวันพร่ำเพรื่อ การบ่นด่า หรือปล่อยปละละเลยในเรื่องลูกน้อง!)

  1. งานอะไรบ้าง...ที่เป็นงานที่ ผู้จัดการหรือผู้นำทีม "ควรทำ" ในแต่ละวัน/สัปดาห์/เดือน..!?

งานที่ควรทำ.. จะเป็นส่วนเสริม หรือ อย่างน้อยก็ทดแทนงานที่ต้องทำ และจะเป็นงานที่ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับทีมงานและหน่วยงาน ไปจนถึงองค์กร เช่นเดียวกัน

  1. งานอะไรบ้าง...ที่เป็นงานที่ ผู้จัดการหรือผู้นำทีม ไม่ควรทำ/ทำไปทำไม/ทำแล้วได้อะไร!?

งานที่ไม่ควรทำ หรือทำไปทำไม.. จะเป็นงานที่ไม่ก่อให้เกิดคุณค่าที่ชัดเจน ในระยะยาวให้กับทีมงาน หน่วยงาน องค์กร แต่ดูเผินๆ จะคิดว่าเป็นงานที่ยังจำเป็นต้องทำ!

เช่น ตามแก้ปัญหารายวัน…เห็นผลชั่วคราว(ปัญหาได้รับการแก้ไข) แต่ส่งผลเสียระยะยาว!(ไม่สร้างระบบการป้องกันและแก้ไขปัญหา ไม่สร้างพัฒนาให้ลูกน้องรู้จักคิดที่จะป้องกันและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง!)

ผมคงไม่บังอาจไปบังคับ หรือชี้แนะทุกท่านได้..

แต่สิ่งที่พอจะทำได้ก็คือ.. การแนะนำว่า ถ้าท่านต้องการเป็นผู้จัดการหรือผู้นำทีมที่เก่งและประสบความสำเร็จ

ท่านต้องแยกแยะให้ได้ว่า งานอะไรบ้างที่ ทำไปทำไมในทุกวันนี้ แล้วจะลด ละ เลิกได้เมื่อไหร่?

งานอะไรบ้างที่เป็นงานที่ "ควรทำ" และงานที่ "ต้องทำ" เพื่อให้ทีมงานของท่านเก่งขึ้น พัฒนาขึ้น ปัญหาลดน้อยลง ส่งผลบวกระยะยาวกับหน่วยงานและองค์กรของท่าน!

ถ้าท่านเริ่มรู้ และค่อยๆ เริ่มทำได้...ก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับตัวท่าน ลูกน้องและองค์กรของท่าน..

แต่ถ้าท่าน ยังคงไม่คิดจะรู้ ไม่คิดที่จะทำในสิ่งที่ควรทำ แต่ยังคงหมกมุ่น วุ่นวายไปกับงานประเภท..

"ทำไปทำไม ถามจริง!?"...

จำเป็นอย่างยิ่ง ที่ผมต้องขอแสดงความเสียใจกับตัวท่าน ลูกน้องของท่าน หน่วยงานและองค์กรของท่าน..

เพราะท่านกำลังสร้างปัญหาให้กับลูกน้อง หน่วยงานและองค์กรของท่านอยู่ทุกวัน ไม่ว่าท่านจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม!

ขอให้ "ได้คิดและคิดได้" นะครับ!