OmniChannelอุตสาหกรรม‘ตะวันที่ไม่ยอมตกดิน’

OmniChannelอุตสาหกรรม‘ตะวันที่ไม่ยอมตกดิน’

กว่าหนึ่งปีมาแล้ว ที่ผู้เขียนได้มีโอกาสไปศึกษาดูงาน ธุรกิจโมเดิร์นเทรด ที่ได้ประสมประสาน วิทยาการแห่ง Omni Channel จากทั้งสหรัฐและยุโรป

แม้ทั้งสองทวีป จะมีเป้าหมายทางการเมืองที่แตกต่าง แต่กลับมีเป้าหมายทางธุรกิจเดียวกัน นั่นก็คือ การต่อสู้เพื่อความอยู่รอด จากการถูกครอบงำ และการถูก Disrupt โดยกลุ่มธุรกิจ E-Commerce จนกระทั่งถึงขั้นสูญสิ้นอุตสาหกรรม

แน่นอนอีคอมเมิร์ซ ที่ธุรกิจจากทั้งสองทวีปนั้นมีความหวาดกลัว ย่อมต้องหมายถึง Amazon เป็นอันดับแรก ซึ่งไม่กี่ทศวรรษก่อนหน้านี้ ยังคงเป็นธุรกิจ Start Up ที่คงยังลุ้นเกิดลุ้นดับอยู่เลย

แต่สำหรับโมเดิร์นเทรดในยุโรปแล้ว ย่อมต้องหมายถึงภัยทางการเมืองที่ยุโรป อาจต้องสูญเสียอธิปไตยทางการค้า ให้กับธุรกิจอีคอมเมิร์ซจากข้ามทวีป โดยอาจนำไปสู่การเสียดุลทางการค้าอย่างยั่งยืนและถาวร

สำหรับประเทศที่พัฒนาแล้วในยุโรป ดุลยภาพแห่งอำนาจ โดยเฉพาะการคานอำนาจทางการค้า กับสหรัฐเป็นประเด็นทางการเมืองที่มีความสำคัญ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะ การรวมตัวของกลุ่มประเทศเป็นสหภาพยุโรป ยังพอมีโอกาสที่จะไปถ่วงดุลกับสหรัฐ และรักษาไว้ซึ่งตลาดยุโรปให้กับพลเมืองชาวยุโรปรุ่นหลังต่อไป

ขณะที่เหล่าประเทศที่กำลังพัฒนาแห่งภูมิภาคอาเซียน ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ยังขาดความพร้อมในหลายด้าน ที่จะคิดไปคานอำนาจหรือไปต่อกรกับใคร

Omni Channel คือการที่ธุรกิจโมเดิร์นเทรด ไม่เพียงแต่จะประยุกต์ใช้ ช่องทางของอีคอมเมิร์ซ แต่ยังคงใช้ Big Data เพื่อเชื่อมโยงและผสมผสานทุกช่องทาง ให้เป็นประสบการณ์เดียวกัน

ตัวอย่าง ลูกค้าท่านหนึ่ง เข้าไปศึกษารายละเอียดของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผลิตภัณฑ์หนึ่งผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ ของโมเดิร์นเทรดรายหนึ่ง แต่ยังมิได้ตัดสินใจซื้อ

วันต่อมา ลูกค้าท่านเดิม ได้เดินเข้าไปใกล้แผนกเครื่องสำอางของห้างสรรพสินค้าของโมเดิร์นเทรดรายนั้น ซึ่งโมเดิร์นเทรด ก็ได้ส่งขอเสนอที่พิเศษสุดสำหรับเครื่องสำอางผลิตภัณฑ์นั้น เข้าไปยัง สมาร์ทโฟนของลูกค้าท่านนั้น และตอกย้ำว่าต้องใช้สิทธิก่อนที่จะเดินออกจากร้านไปเท่านั้น

ทั้งนี้ ระบบ Omni Channel ได้รับทราบตำแหน่งของลูกค้าผ่าน Location Service และประเมินความต้องการของลูกค้าด้วย Big Data จึงสามารถยื่นข้อเสนออย่างอัตโนมัติ ที่ Customize ขึ้นมาพิเศษสำหรับลูกค้าท่านนั้นโดยเฉพาะ

ในช่วงเวลานั้น เมื่อกว่าหนึ่งปีมาแล้ว ที่ได้ไปศึกษาดูงานโมเดิร์นเทรดในระดับโลก ทั้งจากสหรัฐและยุโรป ต่างก็มีความเชื่อมั่นว่า ด้วย Omni Channel และ Big Data จะทำให้สามารถทัดทานการรุกรานของอีคอมเมิร์ซ ที่นำบวนโดย Amazon ได้

แต่วันนี้เกือบทั้งหมดของโมเดิร์นเทรด ที่ผู้เขียนเคยได้ไปศึกษา กลับได้สูญเสียอำนาจทางการตลาดและมีมูลค่าหลักทรัพย์ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด ที่เป็นข่าวคราวระทึกวงการ เมื่อ Warren Buffet ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนแบบ Value Investing อันดับหนึ่งของโลกได้เทขายหุ้นของ Walmart จนเกือบหมด อาจเป็นสัญญานที่ตอกย้ำถึงอนาคตที่ยังไม่ชัดเจนของโมเดิร์นเทรดในประเทศที่พัฒนาแล้ว

จึงอาจเป็นการสะท้อนว่า แม้กระทั่ง Omni Channel ที่ใช้ Big Data โดยโมเดิร์นเทรด ที่เคยเป็นธุรกิจยักษ์ใหญ่จากยุคก่อนหน้า ก็ไม่สามารถทัดทานการ Disrupt จากอีคอมเมิร์ซได้

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวดังกล่าวยังอาจไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคมที่มาจากคนละยุคคนละสมัยกับประเทศที่พัฒนาแล้ว

เช่นเดียวกับธุรกิจสื่อ ที่ในต่างประเทศมูลค่าสื่อในยุคอินเทอร์เน็ต กลับได้ก้าวข้ามมูลค่าสื่อของธุรกิจโทรทัศน์มานานหลายปีแล้ว ถึงแม้ว่าจะรวมทั้งทีวีอนาล็อกและทีวีดิจิทัลก็ตาม

อย่างไรก็ดี ธุรกิจสื่อในประเทศไทย อาจมีสัญญานของเสื่อมถอยตามนานานาอารยะประเทศ อย่างรวดเร็วกว่าธุรกิจโมเดิร์นเทรด โดยเฉพาะสื่อเก่า เช่น หนังสือพิมพ์และแมกกาซีน ก็ได้เริ่มปรากฎหลักฐานแห่งความเสื่อมถอย

ธุรกิจโทรทัศน์ในประเทศไทย แม้จะยังไม่ได้เสื่อมถอย แต่ก็มิได้มีการขยายตัว ถึงจะผ่านการปฏิรูปด้วยทีวีดิจิทัลแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นที่คาดเดาได้ว่าว่า คงจะไม่มีการประมูลช่องทีวีเพิ่ม เพราะยุคสมัยได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ขณะนี้คงเป็นช่วงเวลา ที่ต้องลุ้นให้ช่องทีวีดิจิทัล ได้ทุนคืนจากการประมูล แทนที่จะมาคาดหวังการขยายตัวของอุตสาหกรรมนี้ต่อไป

ขณะนี้เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่าน ที่ทำงานก็มีคนจากทั้งสองยุค ในสัดส่วนที่เทียบเท่ากัน มีข้อแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ จากคนทั้งสองยุค

ต่างชาติเรียกสิ่งนี้ว่า อุตสาหกรรมตะวันตกดิน เกิดขึ้นในต่างประเทศก่อน แล้วในที่สุดก็ต้องเกิดในประเทศไทย