เมื่อคิมจองอึนหลังติดกำแพง : เขาจะทำอะไรที่คาดไม่ถึง?
สถานการณ์โลกที่ผมเห็นว่าน่ากลัวที่สุด คือเกาหลีเหนือกำลังจะ “โดดเดี่ยว” ตัวเอง
จนอาจจะติดมุม และอาจทำอะไรที่โลกคาดไม่ถึงก็ได้
ล่าสุดคือคำแถลงจากสำนักข่าวทางการของเปียงยาง ที่ออกมาปะฉะดะจีนอย่างแรงเป็นครั้งแรก
บอกว่าจีน “กำลังเต้นตามจังหวะของอเมริกา”
แม้ว่าสำนักข่าวเกาหลีเหนือจะไม่ระบุชื่อจีนตรงไปตรงมา แต่ก็บอกว่าประเทศนั้นคือ “ประเทศเพื่อนบ้านที่มักจะอ้างว่าเป็นมิตรกับเรา” ซึ่งไม่ต้องตีความให้ยากก็รู้ว่าหมายถึงมังกรยักษ์ข้างบ้าน
ข้อความต่อมายิ่งบอกชัดว่าเปียงยางหมายถึงใคร
“ประเทศนี้ ทำตัวเป็นมหาอำนาจ แต่กำลังเต้นตามจังหวะของสหรัฐ”
แถลงการณ์นั้นไม่ลังเลที่จะบอกว่าสาเหตุที่เกาหลีเหนือไม่พอใจจีน ก็คือการที่ปักกิ่งประกาศระงับการสั่งถ่านหินเข้าจีนจนถึงสิ้นปี
การกระทำเช่นนี้เป็น “ก้าวย่างที่ไร้มนุษยธรรม เท่ากับเป็นการสกัดการค้าต่างประเทศของเรา ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือศัตรูในการทำลายระบบสังคม”
ภาษาอย่างนี้เกาหลีเหนือไม่เคยใช้กับจีนมาก่อน เพราะแต่ไหนแต่ไรมาเปียงยางถือว่าปักกิ่ง เป็นเพื่อนผู้พี่ที่โอบอุ้มตนมาตลอด ตั้งแต่ยุคปู่คิมอิลซุงต่อมาถึงพ่อคิมจองอิล ซึ่งเคยต่อสู้กับฝ่ายสหรัฐเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา
วันนี้ คิมจองอึนขึ้นบริหารประเทศ ทุกอย่างกำลังเริ่มจะเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ
จีนเริ่มหงุดหงิดกับเกาหลีเหนือที่ทดลองขีปนาวุธค่อนข้างถี่ และพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ต่อเนื่องโดยไม่ฟังเสียงทัดทานเงียบ ๆ จากผู้นำปักกิ่ง เพราะการที่เกาหลีเหนือสร้างแสนยานุภาพทางทหาร ย่อมไม่เป็นผลดีต่อจีน ซึ่งกลัวว่าเปียงยางอาจทำอะไรบุ่มบ่าม ที่กระทบต่อจีนและเพื่อนบ้านในแถบนี้
เกาหลีเหนือทดลองขีปนาวุธครั้งล่าสุดได้เพียงสัปดาห์เดียว จีนก็ระงับการสั่งถ่านหินเข้าจีนถึงสิ้นปี เป็นการกดดันให้เปียงยางต้องเจรจากับประเทศอื่น ๆ เพื่อไม่ให้ความตึงเครียดแผ่ขยายตัวออกไป
เพราะการทดลองขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเกิดขึ้นหลังโดนัลด์ ทรัมป์ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีได้เพียง 3 สัปดาห์ และจีนกำลังพยายามจะทำความเข้าใจว่าทรัมป์จะมีนโยบายต่อโลกและจีนอย่างไร
อีกด้านหนึ่งที่เกาหลีเหนือกำลังเปิดศึกพร้อมกันคือกรณีคิมจองนัม พี่ชายต่างมารดาที่ไปเสียชีวิตที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ และข่าวกรองของหลายประเทศเชื่อว่าแผนลอบสังหารด้วยสารเคมีร้ายแรง VX nerve agent เป็นคำสั่งตรงจากคิมจองอึน ที่ต้องการขจัดพี่ชายคนนี้ให้พ้นไปเพื่อจะได้ไม่ใช่ “ตัวเลือก” ของจีนที่จะมาแทนเขาหากเกิดเหตุการณ์ที่เอื้อไปทางนั้น
ทูตเกาหลีเหนือที่มาเลเซียใช้วิธีการก้าวร้าวพอสมควร ในการกล่าวหารัฐบาลมาเลเซียว่าใช้วิธี “ผิดกฎหมายระหว่างประเทศและผิดศีลธรรม” ในการไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือร่วมในการชันสูตรศพ และไม่ยอมส่งศพไปให้เปียงยาง ซึ่งอ้างสิทธิ์ที่จะเป็นคนสอบสวนสาเหตุแห่งฆาตกรรมครั้งนี้เอง
รัฐบาลมาเลเซียยืนยันไม่ยอมส่งศพให้ และจะสอบสวนคดีนี้ด้วยตนเอง อีกทั้งขู่ว่าหากทูตเกาหลีเหนือแสดงท่าทีที่ไม่เป็นมิตรเช่นนี้ต่อไป ก็อาจจะประกาศทูตเป็น “บุคคลอันไม่พึงปรารถนา” (persona non grata) ทางการทูต ส่งตัวกลับประเทศเป็นการประท้วง
หากความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลมาเลเซียกับเกาหลีเหนือเดือดขึ้นไปอีก และหากการสอบสวน (ที่พัวพันถึงเจ้าหน้าที่สถานทูตเกาหลีเหนือและคนเกาหลีเหนืออีกหลายคน) พาดพิงไปถึงผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ, เรื่องนี้ก็จะกลายเป็นคดีฮือฮาระหว่างประเทศ ที่ทำให้เปียงยางตกอยู่ในสภาพเป็น “จำเลย” เรื่องร้ายแรงอีกหนึ่งเรื่อง
สองเรื่องประดังกันเข้ามาอย่างนี้ เกาหลีเหนือจะถูกโดดเดี่ยวอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน... วาดภาพไม่ออกว่าสภาพจิตของคิมจองอึนเป็นอย่างไรเมื่อ “หลังติดฝา”
ผมกลัวว่าแกจะทำอะไรที่เราคาดไม่ถึงจริง ๆ!