65/2525 ที่ถูกทิ้ง

พยายามตีความว่า ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการปรองดอง ด้วยคำสั่ง 66/2525 เป็นพวกนิยม “การทหารนำการเมือง”

ใครก็รู้ว่า “ป๋าเปรม” ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 เรื่อง “นโยบายการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์” โดยเน้นการใช้ “การเมืองนำการทหาร”

กว่าจะเป็น “การเมืองนำการทหาร” ก็ผ่านการต่อสู้ทางความคิดภายในกลุ่มชนชั้นปกครองไทยมายาวนาน แต่มันก็แค่ “เครื่องมือ” ไม่ใช่ “หัวใจ” การเมืองนำการทหาร

หัวใจที่ว่านั้น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หมายถึงการสร้างประชาธิปไตย และกำจัดเงื่อนไขการสร้างเผด็จการ

“บิ๊กจิ๋ว” จึงชงคำสั่งที่ 65/2525 เรื่อง “แผนรุกทางการเมืองเพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์” ให้ พล.อ.เปรม ลงนาม อันเป็นเข็มมุ่งของภาครัฐสมัยโน้น

ดังปรากฏในหมวดนโยบาย ที่ว่า “ทำลายระบอบเผด็จการทุกรูปแบบ และสถาปนาสังคมในระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยใช้ลัทธิประชาธิปไตย เป็นแนวทาง”

บังเอิญว่า “ลัทธิประชาธิปไตย” นั้น คิดค้นโดย ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร อดีตกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) และผลักดันโดย “กลุ่มทหารประชาธิปไตย” ที่ใกล้ชิดบิ๊กจิ๋ว

ขุนศึก จปร.5 ที่เป็นคู่อริ จปร.7 และไม่ชอบบิ๊กจิ๋วมากนัก ดันระแวงวาทกรรมลัทธิประชาธิปไตย จึงทำให้คำสั่ง 65/2525 กลายเป็นกระดาษไร้ค่า

ยิ่ง “หม่อมคึกฤทธิ์” โยนระเบิด “สภาเปรซิเดียม” ใส่บิ๊กจิ๋ว ก็เลยกลายเป็นเรื่องสภาคอมมิวนิสต์

ระหว่างปี 2529-2531 ใต้ร่มธงประชาธิปไตยครึ่งใบ ป๋าเปรมกระชับอำนาจหนักขึ้น จนเกิดแรงต้าน พร้อมเสียงเรียกร้องให้ป๋าเปรมลาออกและต่อต้าน “ระบอบเปรมาธิปไตย”

หากป๋าเปรมสถาปนาประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เหมือนที่ปรากฏในคำสั่ง 65/2525 คงไม่เกิดรัฐประหาร 2534

เมื่อขุนศึก จปร.5 กลัวสูญเสียอำนาจ จึงล้มรัฐบาลชาติชาย ตามเสียงเชียร์สื่อขาใหญ่

นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่าประวัติศาสตร์มีไว้ศึกษา ไม่ใช่หยิบฉวยมาสร้างวลีการเมือง หวังสร้างคะแนนให้แก่ฝ่ายตนเท่านั้น