เปิดคำสนทนา ขอ 'สินบน' โรลส์-รอยซ์

เปิดคำสนทนา ขอ 'สินบน' โรลส์-รอยซ์

เห็นเรื่องคอร์รัปชันบ้านเราทีไร “ขนหัวลุก” ทุกที ยิ่งช่วงนี้ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า บ้านเรามันเกิดคอร์รัปชันทุกหย่อมหญ้า

อย่างที่เขาว่ากันอย่างนั้นหรือ มีทั้งจับได้และจับไม่ได้  ที่จับได้มันกลายเป็นฝรั่งเขาจับให้ ช่างงามหน้าเสียเหลือเกินประเทศนี้

ดูจากกรณีการขายเครื่องยนต์เทรนต์ 800 หรือที-800 ของบริษัทโรลส์-รอยซ์ ให้กับบริษัทการบินไทย ถึงขั้นออกมายอมความแลกกับการไม่ให้ถูกดำเนินคดีว่า มีเจ้าหน้าที่ของไทยรับสินบนกันถึง 3 สัญญาช่วงปี 2534-2548 รวมๆ กันร่วม 1,300 ล้านบาท ใครรับไปกี่คนเอาไปแบ่งจ่ายให้กับใคร รู้ๆ กันอยู่ เรียกว่า กินกันทั่วถึง ที่จริงทุกบาททุกสตางค์ มันก็ภาษีประชาชนทั้งนั้น กินกันอย่าง “ไม่อายฟ้าดิน” เรียกว่า กินกันทุกยุคทุกสมัย 

มีเรื่องมาบอกเล่าผู้อ่าน กรุณาอยู่ในความสงบ ค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ วิเคราะห์ตาม มันเป็นการสนทนาระหว่างผู้เรียกรับผลประโยชน์ ที่มาจากการเมืองกับผู้บริหารระดับสูง ในองค์กรกรณีสินบนโรลส์-รอยซ์

 คุณอยากอยู่ในตำแหน่งต่อไหม? ถ้าอยากจะอยู่คุณต้องทำตามที่(ผม)บอก หรือไม่ก็มักจะบอกว่า.. คุณช่วยไปจัดการเรื่องนี้หน่อย .. คุณช่วยดูแลคนนั้นคนนี้ เรื่องนั้นเรื่องนี้ ด้วย 

เชื่อเถอะผู้บริหารองค์กรไหนที่เจออย่างนี้.. มักตอบกลับไป..ครับท่าน ! ทำได้รับ 2 เด้ง อยู่ต่อในตำแหน่งและรับส่วนแบ่งจากผลประโยชน์ 

คำสนทนาถัดมา..คุณช่วยไปทำเรื่องนี้มานะ อย่าให้เป็นข่าว อย่าให้ใครรู้ เพราะเราต้องนำสิ่งที่ได้ไปให้ “ผู้ใหญ่” แต่ระหว่างทาง รั่วไหลไปเรื่อยๆ ไม่รู้ และมักจะสำทับว่า แต่ละเรื่องต้องได้ผลน่ะ อะไรทำนองนี้ แล้วแจ้ง(ผม)ด้วยล่ะ ใครสนทนาเรื่องนี้ไว้น่าจะจำมันได้  

 การรับสินบนของผู้มีอำนาจบ้านเรา บอกเลยเก่งยิ่งกว่าอะไรซะอีก ทุกรายการไม่ขอรับเองมักใช้“ลูกมือ”หรือไม่ก็คนที่ไว้ใจสุดๆรับแทน 

อย่างกรณีของโรลส์-รอยซ์  ทั้ง 3 สัญญา มีผู้ “รับแทน” ไม่ว่าจะเป็น บริเวณใต้ตึกกระทรวงแห่งหนึ่ง ที่ผู้ให้(นายหน้า) ถึงขั้นต้อง จับโยนใส่กระโปรงท้ายรถเบนซ์ให้ จริงๆ มีเลขทะเบียนด้วย แต่ขอไม่เปิดเผยซะดีกว่า เงินก้อนนี้ร่วม 400 ล้านบาทถูกส่งไปทิศตะวันตก

 ส่วนที่โรงเรียนพาณิชยการ ราว 200 ล้านบาท ใช้กระเป๋าเดินทางลำเลียงด้วยแท็กซี่ ถูกนำส่งไปยังทิศเหนือ เช่นเดียวกับก้อนแรกกว่า 300 ล้านบาทไปในทิศทางเดียวกัน  ส่วนที่เหลือ “ขาใหญ่” ในองค์กรรับไป 

 ฉะนั้นเมื่อความจริงปรากฏอย่างนี้แล้ว คงต้องกลับมาเฝ้าติดตามองค์กรที่ดูแลการทุจริตคอร์รัปชัน ว่าจะเอาจริงแค่ไหนหรือสั่นกระดิ่งแล้ววิ่งหนี!!!