ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐ

ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐ

คนระดับนี้ ทำธุรกิจจนร่ำรวยขนาดนี้ วางแผนจนชนะเลือกตั้งได้ ทั้งๆที่ตอนเริ่มต้นดูจะเป็น “ม้านอกสายตา” ต้องมีอะไรดีแน่นอน

ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา

ดิฉันตั้งใจว่าต้องศึกษาชีวิตของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ให้ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยสนใจเลย แม้จะเคยได้รับหนังสือแปล “รวยได้สไตล์ทรัมพ์” มาหลายปีแล้วก็ตาม แต่ไม่เคยเปิดอ่าน หนังสือเล่มนี้ แปลโดยครูเคท และ คุณชัชวรุตม์ มุสิกไชย จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์เนชั่นบุ้คส์ ในปี 2548 ซึ่งแปลมาจาก “Trump: How to Get Rich”ที่คุณทรัมป์เขียนเมื่อปี 2547

ดิฉันเชื่อว่าชาวอเมริกัน และชาวโลกส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นเดียวกับดิฉัน คือรู้จักประธานาธิบดีทรัมป์ ผ่านข่าวและคำวิจารณ์ของสื่อต่างๆ และรู้สึกว่า ท่านประธานาธิบดี เป็นคนที่พูดจาทำให้ “วงแตก” อยู่บ่อยๆ ซึ่งในโลกการเมือง แวดวงการทูต และในวงการธุรกิจระหว่างประเทศ อาจจะรู้สึกว่า “รับไม่ค่อยได้”

แต่สัญชาตญาณบอกว่า คนในระดับนี้ ทำธุรกิจมาจนร่ำรวยขนาดนี้ วางแผนจนชนะเลือกตั้งได้ทั้งๆที่ตอนเริ่มต้นดูจะเป็น “ม้านอกสายตา” และเป็น “สิ่งแปลกประหลาดในวงการเมืองสหรัฐอเมริกา” ต้องมีอะไรดีแน่นอน ดิฉันจึงเริ่มศึกษาหาข้อมูล และหนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่ทรัมป์ เขียน โดยมี เมเรดิธ แมคไอเวอร์ ทีมงานของเขาช่วยเรียบเรียง ซึ่งได้บอกความเป็นตัวตนของเขาพอสมควรทีเดียว

สิ่งที่ดีก็คือ เขาเขียนขณะที่ไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมือง จึงเป็นการเขียนที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา หากไปสัมภาษณ์ในอีกหนึ่งปีข้างหน้าจากวันนี้ คิดว่าจะได้อรรถรสแตกต่างกันมาก

เนื่องจากมีประเด็นมากมาย ดิฉันจึงต้องเขียนเป็นสองตอน ในตอนแรกนี้ จะพาท่านไปรู้จัก ชีวิตส่วนตัวของประธานาธิบดีทรัมป์ และแนวคิดการทำงานโดยรวม ส่วนแนวคิดการลงทุนและทำธุรกิจ จะขอยกไปเขียนต่อในสัปดาห์หน้า

ทรัมป์ เกิดราศีเมถุน ในครอบครัวนักธุรกิจ คุณพ่อ เฟรด ทรัมป์ เสียชีวิตไปเมื่อปี 2542 และคุณแม่ แมรี ทรัมป์ จากไปในปี 2543 มีพี่สาวสองคนคือ แมรีแอน และ อลิซาเบธ และมีน้องชายหนึ่งคนคือ โรเบิร์ต ทรัมป์ เขียนเอาไว้ว่า ได้เรียนรู้จากการทำตัวเป็นแบบอย่างของบุพการีทั้งสอง

เขาแต่งงานกับไอวาน่า ภรรยาคนแรก มีลูกสามคน คือ โดนัลด์ จูเนียร์ ไอวานก้า และ เอริค ซึ่งทั้งสาม รวมถึงลูกเขย ได้มาช่วยในการหาเสียงอย่างเต็มที่ ตอนนี้เขายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันกับไอวาน่า

ภรรยาคนที่สอง คือ มาร์ลา ตอนนี้อยู่ในลอสแองเจลิส มีลูกหนึ่งคนคือ ทิฟฟานี และภรรยาคนปัจจุบันคือ เมลาเนีย นอสส์ เป็นนางแบบจากประเทศสโลวาเนีย

ท่านอาจจะไม่ทราบว่า ทรัมป์ เคยคิดจะลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐมาแล้วในปี 2000 และเสนอนโยบายคล้ายๆกับที่นำมาเสนอในคราวนี้ เช่น การลดภาษีชนชั้นกลาง การกระชับข้อตกลงทางการค้า แต่ในตอนนั้น เขาตระหนักว่า เขายังสนุกกับการทำธุรกิจมากกว่าเล่นการเมือง จึงได้หยุดไป

เขารู้จักตัวเองดีกว่าที่เราประเมินกัน เขาเขียนเองว่า “สำหรับวงการเมือง ส่วนใหญ่แล้วคุณต้องคอยระมัดระวังคำพูดของตนเอง ผมเป็นคนพูดตรงซึ่งไม่เหมาะจะเป็นนักการเมือง” และในตอนนั้น เขาไม่สนุกกับการเมือง เขามองว่านักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลายคนคิดว่าจะสามารถนำทักษะการบริหารจัดการมาประยุกต์ใช้กับงานด้านการเมืองได้ แต่มีอยู่เพียงไม่กี่รายที่ประสบความสำเร็จอย่างจริงจัง เช่น ไมเคิล บลูกเบอร์ก และจอน คอร์ซีน

16 ปีผ่านไป ทรัมป์ได้เตรียมพร้อมสำหรับการเข้าสู่การเมืองอย่างแท้จริง แม้มองจากภายนอก เขาอาจจะยังไม่ประสากับมัน ทำไมดิฉันกล้าสรุปอย่างนี้ เพราะเขาบอกเองค่ะว่า “ไม่ว่าใครก็ตามที่ในใจมีความใฝ่รู้และทะเยอทะยานแม้เพียงน้อย ไม่ช้าก็เร็ว เขาเหล่านั้นจะเริ่มอยากทดลองความท้าทายในสนามใหม่ๆ จงเสี่ยง แต่ก่อนเสี่ยงจงพยายามเรียนรู้ให้มากที่สุดเกี่ยวกับสิ่งที่เราจะก้าวเข้าไปสู่ และต้องแน่ใจว่าจิตใจคุณพร้อมแล้วสำหรับงานใหม่นี้”

ความที่เขาชอบเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการอ่านหนังสือ เขาให้เวลากับตัวเองวันละสองถึงสามชั่วโมงในตอนเช้า ตีห้าถึง เจ็ดหรือแปดโมงเช้า ใช้เวลาอยู่กับความสงบ และอ่านหนังสือ เพื่อสร้างสมดุลให้แก่ชีวิต เขาอ่านทั้งอัตชีวประวัติ ปรัชญา จิตวิทยา และอ่านหนังสือพิมพ์ นิตยสารต่างๆ เพราะฉะนั้น เขาเตรียมพร้อมสำหรับตำแหน่งมากกว่าที่คนภายนอกคาดคิดค่ะ เขาบอกว่า “ผมอ่านหนังสือมากที่สุดเท่าที่จะมากได้”

เขาถือคติว่า “การทำสิ่งที่คุณรักจะทำให้คุณเป็นผู้ชนะเสมอ” ดังนั้น เมื่อตัดสินใจเข้าสู่ถนนสายการเมืองใน 16 ให้หลัง เขาต้องมีความรักความชอบในการเมืองเพิ่มขึ้นค่ะ

จากท่าทีที่ดูเหมือนจะไม่สนใจใคร และแต่งตัวดีจนเหมือนจะไม่ติดดินนั้น เขาบอกว่าเปิดรับฟังความเห็นมาก เขาเปิดประตูห้องให้ลูกน้องสามารถเดินเข้ามาปรึกษางานได้เสมอ เขารับฟังความคิดเห็นต่างๆ ที่เขาแต่งตัวดี ใช้ของแพง “เพื่อความเหมะสมในการทำธุรกิจและเพื่อเป็นการประหยัด” เขาจึงมีสไตล์การแต่งตัวที่ดูอนุรักษนิยม แต่มีรสนิยมดี ซึ่งคนวิจารณ์ว่า ทรงผมของเขาดูดีตลอดเวลา อาจจะใช้วิกผม เขาชี้แจงว่าทรงผมดูดี เพราะอยู่แต่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ต้องผจญภัยกับลมและมลภาวะภายนอก ประกอบกับของราคาแพงมักจะดูดีและทนทานค่ะ

เคยมีคนถามว่าข้อที่ดีที่สุดและไม่ดีที่สุดของการมีเงินมากมายควบคู่ความสำเร็จคืออะไร เขาตอบว่า “ในด้านบวก ผู้คนจะหันมาฟังคุณอย่างจริงจังมากกว่าตอนที่คุณยังไม่รวย ส่วนด้านลบคือ คนเหล่านี้จะมองคุณในด้านเดียว และไม่ยอมเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อคุณเลย... ดังนั้นคุณต้องรู้ตัวว่ากำลังทำอะไร และนั่นคือที่มาของอำนาจแท้จริง”

อ่านหนังสือแล้วจับได้ว่า สื่อในสหรัฐอเมริกา ไม่ได้เป็นมิตรกับทรัมป์ มากนัก และทรัมป์ก็ทราบดี เขาเขียนพาดพิงถึงสื่อว่า “เหล่าผู้ร่วมงานต่างรู้ดีว่า ผมมีอะไรๆมากกว่าที่คนทั่วไปเห็นจากสื่อต่างๆ ผมไม่ได้มีบุคลิกแบบมิติเดียว...”

“หลายครั้งเหลือเกินที่คุณมีทรัพยากรบุคคลมากยิ่งกว่าที่คุณคิด ผมไม่ชอบเวลาคนอื่นประเมินความสามารถของผมต่ำเกินไป และผมเองก็พยายามที่จะไม่ประเมินความสามารถของคนอื่นต่ำเกินไปเช่นกัน”

แน่นอนว่า อย่างน้อย ในอีกสี่ปีข้างหน้า การเมืองสหรัฐอเมริกา และการเมืองโลก จะมีสีสันไม่แพ้ภาพยนตร์ฮออลีวู้ดค่ะ เพราะเขาต้องแสดงออกให้คนอื่นทราบว่า “เขาทำได้”