เสียดายแทน'ชาวนา'

เสียดายแทน'ชาวนา'

ช่วงม.ค.-ก.พ. ของทุกปีเป็นช่วงที่ชาวนาจะเก็บเกี่ยวผลผลิต เพื่อนำไปขาย

เป็นเร่ื่องปกติที่เกิดขึ้นแต่ในความปกติที่ว่า ก็มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ข้อมูลจากกรมการค้าภายใน  เเจ้งว่า โดยปกติชาวนาส่วนใหญ่จะว่าจ้างให้คนนำข้าวไปขายแทน โดยตัวเองไม่ได้เดินทางไปด้วย ทำให้เกิดรูปแบบการโกงจากสิ่งที่เรียกว่า “ค่าเหยียบเบรก” โดยคนที่ทำหน้าที่นำข้าวไปขายจะได้ค่าตอบแทนในลักษณะต่างๆ เเลกกับการละเลยหรือรู้เห็นเป็นใจให้เกิดการโกงน้ำหนัก หรือความชื้น อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้แก้ไขไม่ยากด้วยการที่ชาวนาควรจะเดินทางไปขายข้าวด้วยตัวเองแทนการมอบหมายให้คนอื่น

มีคำแนะนำเพิ่มจากนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า ภายใต้โครงการ “ตราชั่งกลาง” ชาวนาสามารถนำข้าวไปชั่งน้ำหนักจะได้รู้ปริมาณข้าวที่แท้จริงก่อนจะนำไปขายลดปัญหาถูกโกงน้ำหนัก กำหนดใช้พื้นที่สหกรณ์กลางที่มีอยู่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และโรงสีหรือท่าข้าวที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งเป้าให้มีตราชั่งกลางในทุกอำเภอในจังหวัดที่มีการปลูกข้าวหนาแน่น ขณะนี้ดำเนินการแล้ว 1,000 แห่ง 

อย่างไรก็ตาม จากผลการลงพื้นที่ของสายตรวจชั่ง ตวง วัด ก่อนหน้านี้ ได้ตรวจสอบเครื่องชั่งรถยนต์ เครื่องวัดความชื้นของ ผู้ประกอบการโรงสี ท่าข้าว ลานรับซื้อมันสำปะหลัง และลานรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พบรูปแบบการทำผิดโดยใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎกระทรวงฯ เช่น มีรหัสลับเข้าไปแก้ไขน้ำหนักและใช้โปรแกรม Excel เข้าไปพิมพ์ใบชั่งซึ่งได้ดำเนินการผูกบัตรห้ามใช้ และเปรียบเทียบปรับแล้ว

เครื่องชังจะแจ้งนำหนักจริงของสินค้าเกษตร เเต่การเข้าไปแก้ไขโปรแกรม ทำให้คนคุมเครื่องสามารถคีย์ตัวเลขน้ำหนักได้ตามใจชอบ  ถ้าโกงจากเกษตรกรสักรายละ 5-10 กิโลกรัม หลายๆรายก็มีรายได้ไม่น้อย เรื่องนี้ถ้าชาวนารู้น้ำหนักก่อนล่วงหน้าก็สามารถทักท้วงได้ และถ้าชาวนาไปด้วยตัวเองก็จะตรวจสอบได้ แต่ถ้าจ้างให้คนนำข้าวไปขายเขาได้ค่าเหยียบเบรกไป ก็อาจจะไม่สนใจดูแลอะไรให้

เมื่อนำข้าวไปชั่งน้ำหนักและวัดความชื้นแล้วก็จะมีการคำนวนราคาออกมาในรูปแบบใบเสร็จรับซื้อข้าว หรือ statement ซึ่งจะมีรายละเอียด น้ำหนักรวม ความชื้นรวม สิ่งเจอปน ซึ่งจะนำมาคำนวนหักลดจากราคาข้าวในตลาด ณ วันที่ทำการซื้อขาย ซึ่งในจุดนี้ชาวนาต้องตรวจสอบรายละเอียดในเอกสารให้ดี โดยต้องดูว่า ความชื้นสมเหตุสมผลหรือไม่ จากนั้นก็ดูป้ายประกาศเกณฑ์การหักความชื้นว่าสอดคล้องกับหลักการทั่วไป หรือเป็นไปตามที่ปิดประกาศไว้หรือไม่  ต่อมาให้ดูเรื่องสิ่งเจอปน ซึ่งพบพฤติกรรมการคำนวนแบบเหมาที่อาจไม่เป็นธรรม 

นอกจากนี้ มีอีกข้อมูลที่ชาวนาจะต้องดูในใบ statement ว่ามีการคิดว่าบริการชั่งน้ำหนักและวัดความชื้นหรือไม่  ประเด็นนี้แม้ไม่ผิดกฎหมายก็ต้องมีการตรวจสอบ โดยชาวนาต้องดูว่ามีประกาศการคิดค่าบริการด้ังกล่าวไว้ชัดเจนหรือไม่ ถ้ามีต้องถามหาใบอนุญาตการให้บริการชั่ง ตวง วัด ซึ่งออกโดยสำนักชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน ถ้าไม่ปรากฎทั้งสองสิ่ง ไม่สามารถมาคิดว่าบริการได้ และชาวนาสามารถแจ้งสายด่วน 1569 เพื่อดำเนินคดีได้ทันที 

“สิ่งที่ออกมาเตือนอาจดูเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นคงไม่มีใครเสียดายแทนกันได้นอกจากตัวชาวนาเอง ”

...............................

ปราณี หมื่นแผงวารี