จับมือจีนเชื่อมโยงเศรษฐกิจดิจิทัล

จับมือจีนเชื่อมโยงเศรษฐกิจดิจิทัล

ในปัจจุบันการเชื่อมโยงเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ที่ทำให้ความรู้ทั่วทุกมุมโลก

เชื่อต่อถึงกันภายในเสี้ยววินาที เกิดการกระจายฐานข้อมูลความรู้อย่างมหาศาล ซึ่งแม้ว่าจะเข้าสู่ยุคอินเตอร์เน็ตมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ต่อจากนี้จะเคลื่อนไหวรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จากเทคโนโลยี 4 จี และบางประเทศก็กำลังก้าวไปสู่ 5 จี เทคโนโลยีเคเบิลใยแก้วนำแสง และอุปกรณ์ต่างๆที่ก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการถ่ายทอดข้อมูลมหาศาลเข้าสู่ยุคบิ๊กดาต้า หากใครครอบครองข้อมูลสามารถเข้าไปครอบคลุมจนเป็นฮับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้ ประเทศนั้นๆก็จะพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด

โดยล่าสุด ประเทศจีนได้เข้ามาเป็นผู้เล่นหลักในยุคอินเตอร์เน็ต นำโดยผู้ประกอบการรายใหญ่อย่าง อาลีบาบา กรุ๊ป ,หัวเว่ย และมีบริษัทด้านไอซีทีเกิดขึ้นมาอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งรายใหญ่ และกลุ่มสตาร์ทอัพ ซึ่งได้ขยายโครงข่ายการค้าออนไลน์ไปทั่วโลก และยังได้กระจายเครือข่ายอีคอมเมิร์ชลงไปยังหมู่บ้านเกษตรกรกว่า 2 หมื่นแห่ง จนสามารถยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรได้เป็นจำนวนมาก เปิดทางให้ขายสินค้าได้ทั่วประเทศจีน และทั่วโลกลดขั้นตอนการผ่านพ่อค้าคนกลาง และสามารถพยากรณ์ตลาดได้ล่วงหน้า ผ่านทางเครือข่ายออนไลน์ของอาลีบาบา

ในขณะที่หัวเว่ย ก็ได้เร่งพัฒนาเทคโนโลยีไอซีที เข้าไปยกระดับเมืองใหญ่ๆของจีนให้เป็นสมาร์ทซิตี้ ยกระดับความปลอดภัย และความเป็นอยู่ให้กับคนในเมือง และพัฒนาประเทศไปสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งล่าสุดหัวเว่ยก็ได้เข้ามาตั้งสำนักงานภูมิภาคในไทย เพื่อพัฒนาบุคลากรรองรับเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคนี้ และเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองภูเก็ตและเชียงใหม่ให้เป็นสมาร์ทซิตี้

จากความเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้น ทำให้ไทยจำเป็นจะต้องปรับตัวเข้าสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลให้เร็วที่สุด โดยที่ผ่านมา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีก็ได้เดินทางไปเยือนประเทศจีน และเข้าหารือกับ อาลีบาบากรุ๊ป เพื่อประสานความร่วมมือมาสร้างระบบอีคอมเมิร์ชให้กับประเทศไทย ขยายลงลึกไปสู่เอสเอ็มอีทุกระดับ และกระจายไปสู่เครือข่ายเกษตรกร เพื่อให้เชื่อมโยงเข้าถึงตลาดโลก นำโมเดลที่ได้ผลจากจีนมาประยุกต์ให้เข้ากับประเทศไทย

โดยมีเป้าหมายให้ไทยเชื่อมโยงเครือข่ายอินเตอร์เน็ตกับจีน และเติบโตไปด้วยกันและยกระดับไทย ให้เป็นฮับไอซีทีในภูมิภาคนี้ซึ่งหากนโยบายนี้เดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ก็จะช่วยยกระดับการพัฒนาในทุกๆด้านของไทยอย่างรวดเร็ว

ในปี 2560 รัฐบาลได้เตรียมประกาศให้เป็นปีแห่งการระเบิดครั้งใหญ่ โดยตั้งเป้าหมายนำเทคโนโลยีและดิจิทัล มาเป็นหัวใจหลักของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ หรือเรียกว่าเป็นปีแห่งบิ๊กแบง ซึ่งจะมีการลงทุนทางด้านอินเตอร์เน็ต และเทคโนโลยีต่างๆ อย่างต่อเนื่อง 

รัฐบาลได้ก้าวเข้ามาวางโครงสร้างพื้นฐานต่างๆทางดิจิทัลไว้แล้ว เหลือแต่เพียงภาคเอกชนที่จะต้องยกระดับตัวเองเข้ามาเชื่อมโยงกับเครือข่ายที่รัฐได้วางไว้ ในขณะที่เกษตรกร ก็จะต้องรวมกลุ่มนำสินค้าของชุมชนเข้ามาเชื่อมโครงข่ายอินเตอร์เน็ตนี้ ซึ่งหากทุกฝ่ายร่วมมือกัน ก็เชื่อมั่นได้ว่าประเทศไทยจะพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดดหลุดจากกับดักรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศพัฒนาแล้วได้ภายในอนาคตอันใกล้นี้

.........................................

วัชร ปุษยะนาวิน [email protected]