แค่รัก 'ทักษิณ'

 อาจต้องทำความเข้าใจทั้งกับ “เบส” - อรพิมพ์ และผู้คนในสังคม ก่อนที่จะร้าวลึกมากไปกว่านี้

เนื่องเพราะ คนส่วนหนึ่งเชื่อในความบริสุทธิ์ใจของ “เบส” - อรพิมพ์ ว่าไม่มีเจตนาดูหมิ่นคนอีสาน

แน่นอน, ฝ่ายที่เป็นคนอีสาน ผู้เสียหาย ผู้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็น “กรณี” และเหมารวม ย่อมมีสิทธิไม่พอใจ

แต่สิ่งหนึ่ง ที่สังคมไทยจะต้องระวังอย่างสูง คือ ความเชื่อที่อยู่ในใจ มันอาจไม่ถึงกับเรียกว่า “อคติ” แต่มันมี “คำถาม” ที่ค้างคาใจ

คำอธิบายก็คือ บนพื้นฐานความเชื่อและศรัทธาทางการเมืองที่ผ่านมา รวมทั้งบนความขัดแย้งแบ่งเป็นสีเสื้อก็ตาม คนอีสานส่วนใหญ่ “รักทักษิณ” สิ่งเหล่านี้ยืนยันได้จากผลการเลือกตั้ง ยืนยันได้จากการที่คนอีสานเลือกพรรคเพื่อไทยไม่เปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนใจ ต่อให้ “ทักษิณ” ไม่อยู่แล้วก็ตาม เรื่องนี้เป็นความจริง

ดังนั้น กระแสส่วนใหญ่ของคนอีสาน ในการเคลื่อนไหวทางการเมือง จึงมักสนับสนุน “ทักษิณ” พรรคเพื่อไทย กลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นมวลชนของ “ทักษิณ” และพรรคเพื่อไทย

แล้วที่มาก็ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนแต่อย่างใด อย่างที่รับรู้กันดีว่า “ทักษิณ” มีนโยบายมากมายช่วยเหลือคนรากหญ้า และทำให้คนทุกข์คนยากเข้าถึงบริการของรัฐได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น30บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน โอท็อป ฯลฯ รวมทั้งในช่วงรัฐบาลทักษิณ ราคาพืชผลการเกษตรพุ่งสูง เศรษฐกิจโดยรวมถือว่าดีกว่าทุกยุคทุกสมัย

กระนั้น คนอีสานส่วนใหญ่ก็หยุดอยู่แค่ “รักทักษิณ” ไม่ได้เห็นด้วยกับการกระทำของ “ทักษิณ” ไปเสียทุกอย่าง หรือมีแนวคิดอุดมการณ์อะไร ที่เกินเลยไปกว่านั้น “ทักษิณ” จะรักชอบใคร ไม่ชอบใคร ถ้าจะเกี่ยวกับคนอีสานบางคน ก็แค่เป็นส่วนน้อย ที่อยู่ในเครือข่ายเท่านั้น

แต่บนความขัดแย้งแตกแยก ที่บังเอิญฝ่าย “ทักษิณ” เป็นขั้วตรงข้ามกับ ฝ่ายที่ประกาศตัวปกป้องสถาบันฯ คนอีสานจึงถูกเหมารวมไปอยู่ในฝ่าย “ทักษิณ” ซึ่งมีหลากหลายกลุ่มก้อนทางความคิด และสิ่งเหล่านี้ก็ค้างคาอยู่ในใจผู้คนว่า คนอีสานทำไมยอมเป็นฐานให้ฝ่ายนี้ โดยไม่คิดที่จะผันแปร? นี่คือสิ่งที่หลายคนไม่เข้าใจ

ดังนั้นการเอาสิ่งที่เชื่อและค้างคาอยู่ในใจมาตัดสินคนอีสาน อย่างที่ “เบส” - อรพิมพ์ พลาดพลั้งพูดออกมา ทั้งที่คนอีสานก็แค่ “รักทักษิณ” มันอาจสรุปง่ายเกินไป และผลก็คือ ซ้ำเติมบาดแผลความขัดแย้งที่มีอยู่เดิมให้อักเสบขึ้นมาใหม่

วันนี้สังคมต้องช่วยกันคิดเรื่องปรองดองอย่างจริงจัง และหาทางเยียวยาบาดแผลทั้งหมดที่ผ่านมาได้แล้ว