อย่ากลัว Fed ขึ้นดอกเบี้ยจนเกินไป

อย่ากลัว Fed ขึ้นดอกเบี้ยจนเกินไป

Timing ที่ดีที่สุดน่าจะเป็นช่วงการประชุม FOMC ในเดือนธ.ค.หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เสร็จสิ้น

นับตั้งแต่คุณเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) รวมทั้งกรรมการ Fed อีกหลายท่าน ส่งสัญญาณเมื่อปลายเดือนส.ค.ว่า มีโอกาสที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกก็ผันผวนรุนแรง โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยที่ SET Index ปรับลดลงไปเกือบ 140 จุด ภายใน 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะรีบาวด์ขึ้นมาได้ 60-70 จุด

เหตุผลหลักที่หุ้นทั่วโลกถูกเทขาย เป็นเพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ยังยึดติดกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต แต่ส่วนตัวผมไม่ได้กังวลมากเรื่อง Fed จะขึ้นดอกเบี้ย และไม่เชื่อว่า Fed จะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ครั้งนี้ (20-21 ก.ย.) แต่ไม่ช้าก็เร็ว Fed ก็ต้องขึ้นดอกเบี้ย เพราะดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบัน ที่ 0.50% ถือว่าต่ำมากเกินไป

แต่ Timing ในการขึ้นดอกเบี้ยถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และเป็นเรื่องที่ Fed ให้น้ำหนักมาก ที่ผมเชื่อว่า Fed จะยังไม่รีบร้อนขึ้นดอกเบี้ยในคราวนี้ เพราะ Fed เคยพลาดมาแล้วเมื่อปลายปีที่แล้ว ที่ปรับดอกเบี้ยขึ้นเร็วเกินไป ดังนั้นในรอบนี้ ผมเชื่อว่า Fed จะรอจนกว่าจะมั่นใจจริงๆ ว่าเป็นช่วงจังหวะที่เหมาะสม และตลาดการเงินจะไม่อลหม่านกับการตัดสินใจ ซึ่ง Timing ที่ดีที่สุดน่าจะเป็นช่วงการประชุม FOMC ในเดือนธ.ค. หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เสร็จสิ้นไปแล้ว

แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ Fed เริ่มขึ้นดอกเบี้ย? ผมเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะได้รับผลกระทบไม่มาก ด้วยเหตุผลดังนี้

1) สหรัฐ ไม่น่าจะจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยมากนักใน Cycle นี้ จากสภาพเศรษฐกิจโลกที่งฟื้นตัวอย่างช้าๆ และเต็มไปด้วยความเสี่ยง เงินเฟ้อสหรัฐ ที่ยังอยู่แค่ราวๆ 1% PCE Inflation ที่ 1.6% ประกอบกับเศรษฐกิจสหรัฐ เองก็ไม่ได้มีความร้อนแรง เชื่อว่าหลังจากปรับดอกเบี้ยขึ้น 0.25% ในเดือนธ.ค. Fed น่าจะทยอยขึ้นดอกเบี้ยอีกไม่เกิน 1% ในปีหน้า แปลว่า Fed Funds Rate จะอยู่ที่ประมาณ 1.75% ภายในสิ้นปี 2560 ซึ่งยังถือว่าเป็นระดับที่ต่ำมาก

2) การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ไม่ได้แปลว่าดอกเบี้ยโลกจะกลับสู่ขาขึ้น ในอดีต ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ถูกเทขายอย่างหนักเมื่อ Fed เริ่มขึ้นดอกเบี้ย เป็นเพราะประเทศในตลาดเกิดใหม่ส่วนใหญ่อิงค่าเงินตัวเองกับดอลลาร์ เมื่อ Fed ขึ้นดอกเบี้ย ประเทศเหล่านี้ก็ต้องขึ้นตาม ทั้งที่บางประเทศไม่มีความจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ย แต่ในปัจจุบัน สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปมาก ตลาดเกิดใหม่ส่วนมากได้ยกเลิกการอิงค่าเงินกับดอลลาร์ไปแล้ว ดังนั้น การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ใน Cycle นี้ จะไม่สร้างแรงกดดันให้ประเทศอื่นๆ ต้องขึ้นดอกเบี้ยตาม

3) เม็ดเงินต่างชาติจะยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นไทย การขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ รอบนี้ จะไม่ทำให้เงินไหลออกจากตลาดหุ้นไทย เพราะเงินกว่า 130,000 ล้านบาท ที่ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในปีนี้ ไม่ได้เข้ามาเพื่อเก็งกำไรค่าเงิน หรือ หลบความเสี่ยงจากที่อื่น แต่เข้ามาเพราะแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเริ่มดีขึ้น ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนแข็งแรง และการเมืองมีความชัดเจน ในทางกลับกัน การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ น่าจะทำให้มีเม็ดเงินอีกจำนวนมากที่จะไหลออกจากตลาดตราสารหนี้สหรัฐ เพื่อหนีการขาดทุน เงินเหล่านี้ส่วนหนึ่งจะไหลเข้าตลาดหุ้น ซึ่งตลาดหุ้นที่น่าจะได้รับอานิสงส์มากสุดก็คือ ตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งไทย

4) ปัจจัยในประเทศจะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดหุ้น เมื่อตลาดเริ่มยอมรับสภาพว่าดอกเบี้ยสหรัฐ ได้กลับสู่ขาขึ้น ความกังวลเรื่องนี้ก็จะค่อยๆ ลดไป นักลงทุนจะเริ่มกลับมาให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานของแต่ละประเทศ

กล่าวโดยสรุป เราไม่ควรกังวลเรื่อง Fed ขึ้นดอกเบี้ยมากจนเกินไป เพราะ ดอกเบี้ย Fed Funds Rate ยังไงก็ต้องถูกปรับขึ้นในปีนี้ แต่เราควรดูว่า ดอกเบี้ยจะถูกปรับขึ้นมากน้อยแค่ไหนใน Cycle นี้ ซึ่งคำตอบคือไม่มาก และผลกระทบด้านลบที่ตามมาจะเป็นอย่างไร ซึ่งคำตอบก็คือไม่มากเช่นกัน